อิสระบนล้อเดียวไฟฟ้า

อิสระบนล้อเดียวไฟฟ้า

ยานพาหนะ 1 ล้อ ไม่ง้อมือจับแค่ขึ้นไปยืนทรงตัวก็พาตัวเองวิ่งฉิวไปได้แล้ว ทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่หลงรักอิสระบนล้อเดียวไฟฟ้า

ลานพระบรมรูปทรงม้ายามค่ำคืนเป็นแหล่งที่ผู้คนมารวมตัวกันทำกิจกรรมหลายหลาย ทั้งวิ่ง ขี่จักรยาน เล่นสเก็ต และยังมีกลุ่มที่มักทำให้ผู้อื่นต้องมองตามด้วยความทึ่ง เมื่อพวกเขาสามารถทรงตัวและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วได้บนอุปกรณ์ไฟฟ้าล้อเดียว

ล้อเดียวไฟฟ้า หรือ Electric Unicycle ยานพาหนะ  1 ล้อ ไม่ง้อมือจับแค่ขึ้นไปยืนทรงตัวก็พาตัวเองวิ่งฉิวไปได้แล้ว ล้อเดียวไฟฟ้านี้ไม่ใช่ของใหม่ ต่างประเทศเริ่มใช้กันมาราว 4-5 ปีแล้ว ส่วนในเมืองไทยก็มีกลุ่มย่อยๆ ที่สนใจเล่นกันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

นักขี่เหล่านี้รวมตัวอยู่กับชมรมจักรยานไฟฟ้าล้อเดียว โดยมีกฤษรุจ เสรีเจริญศักดิ์ เป็นตัวตั้งตัวตีเปิดกรุ๊ป Electric Unicycles Club Thailand ในเฟสบุ๊ค เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจเดียวกันมาพูดคุย เมื่อมีจำนวนสมาชิกมากขึ้นจึงนัดพบกันไปขี่ล้อเดียวไฟฟ้าตามที่ต่างๆ จนกระทั่งมาปักหลักที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในเวลาค่ำคืนเพื่อความสะดวกของสมาชิก

พุ่งไปด้วยกัน

ทุกคืนวันอังคารชมรมนี้จะนัดรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ราว 20 – 30 คนมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มาร่วมกันฝึกซ้อม แนะนำเทคนิค ผลัดกันลองเล่นเครื่องต่างรุ่นต่างแบรนด์ การตั้งกรวยซิกแซกให้ลองขี่หลบหลีก แล่นทดสอบความเร็ว หรือฝึกเบรกแบบขั้นเทพ โดยมีอาจารย์สอนคอยแนะนำเทคนิคให้คนในกลุ่ม หรือคนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นและอยากลองเล่นก็แบ่งปันให้ลองก่อนได้

อ.บัญชา ณ พัทลุง เป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความเป็นอาจารย์จึงชอบแนะนำเทคนิคให้ผู้เล่นมือใหม่ และพาจูงจนกระทั่งปล่อยมือเล่นได้ สอนหลายคนเข้า คนในกลุ่มเลยยกตำแหน่งอาจารย์ให้พร้อมสโลแกนประจำตัวว่า “ให้อาจารย์สอนชั่วโมงเดียวก็เป็น” 1 ชั่วโมงคือค่าเฉลี่ย แต่ที่จริงมีหลายคนที่ฝึกเพียง 25 นาทีก็ปล่อยมือขี่เองได้แล้ว พอพุ่งตัวไปข้างหน้าเองได้อย่างมั่นใจ ที่เหลือก็คือการฝึกเคลื่อนที่จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเครื่อง

อิสระบนล้อเดียว

เมื่อขึ้นไปยืนและควบคุมเครื่องให้พุ่งไปเพียงแค่โน้มตัวไปข้างหน้า เป็นความรู้สึกที่ชวนตื่นเต้นและเป็นอิสระอย่างที่กฤษรุจเล่าให้ฟังว่า “เวลาขี่ผมจะรู้สึกมีอิสระมาก วันแรกที่ผมขี่ได้ผมแทบนอนไม่หลับ อยากจะขี่ตลอด เป็นช่วงเวลาที่เราปล่อยอิสระ ความรู้สึกไม่เหมือนขี่จักรยาน เพราะไม่ต้องใช้มือจับ ไม่ต้องใช้ขาปั่นเลย” เช่นเดียวกับกิตติศักดิ์ แซ่เอี้ย สมาชิกที่ขี่ล้อเดียวไฟฟ้ายกโต๊ะตัวใหญ่มาแล้ว “ความรู้สึกเหมือนนกบินครับ ก่อนหน้านี้ผมก็ขี่จักรยาน ผมจะชอบช่วงที่ขี่เร็วๆ แล้วก็ปล่อยล้อฟรีให้ลมแรงๆ ปะทะหน้าโดยไม่ต้องปั่นไปด้วย พอมาเจอตัวนี้ที่ไม่ต้องปั่นไม่ต้องจับ ผมเลยชอบมาก”

ผสมทักษะสู่ทริคผาดโผน

ส่วนใหญ่คนที่ขี่ล้อเดียวไฟฟ้ามักใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะขี่ไปซื้อของปากซอย ขี่ไปทำงาน ขี่ในระยะใกล้หรือไกลหลายสิบกม.ก็ทำมาแล้วทั้งนั้น แต่นอกเหนือจากการขี่ในชีวิตประจำวัน หรือร่อนทำความเร็วเพื่อความสนุก ก็มีการผสมผสานเป็นการเล่นทริคที่มีไม่กี่คนทำได้

ศุภพร ชีวะสุจินต์ เริ่มขี่ล้อเดียวไฟฟ้ามาได้ปีครึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้เธอก็เล่นสเก็ตน้ำแข็งกับลูกสาว และช่วงวัยรุ่นก็เคยเป็นนักกีฬาเทควันโดด้วย จึงมีทักษะกีฬาพอสมควร “ตอนแรกนึกว่าจะขี่ไม่ได้ซะแล้ว เกร็งอยู่นาน แต่พอจับหลักได้ก็ไม่ต้องเกร็งขามาก” เมื่อขี่ได้คล่องศุภพรก็ลองนำเทคนิคของการเตะขาสูงของเทควันโด และการยืนขาเดียวหมุนตัวของสเก็ตน้ำแข็งมาใช้เล่นทริคเพิ่มความท้าทายขึ้นไปอีก แต่ดูเหมือนว่านอกจากเด็กๆ แล้วจะไม่ค่อยมีใครอยากหัดเล่นทริคแบบเธอสักเท่าไหร่

ด่านวิบากกับฟุตบาธเมืองกรุง

ไม่ต้องออกป่า แต่พวกเขาก็ได้เจอกับอุปสรรคขั้นวิบาก ก็ฟุตบาธและถนนเมืองกรุงนี่แหละ หลังจากที่ฝึกเล่นทางเรียบกันแล้ว พวกเขาก็จะพากันออก “ทริป” จากลานพระบรมรูปฯ ไปหาของอร่อยทานกันตามที่ต่างๆ เพื่อฝึกทักษะกับเส้นทางที่เหมือนผจญภัยไปตามฟุตบาธในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เป็นล้อเดียวขนาดใหญ่ จึงสามารถแล่นไปได้บนพื้นขรุขระ พื้นกรวด พื้นทราย และกระโดดขึ้นพื้นต่างระดับได้ พวกเขาพากันท่องไปในหลายเส้นทาง แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถนนจรัลสนิทวงศ์ซึ่งกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ตลอดระยะทาง 12.5 กม.นั้น ถือว่าเป็นถนนสุดหินที่นักขี่ล้อเดียวไฟฟ้าสายแข็งต้องไปลุยให้ได้ นอกเหนือจากทริปในกรุงเทพฯ ก็ยังมีทริปต่างจังหวัดที่ไปเยี่ยมเพื่อนสมาชิกตามจังหวัดต่างๆ ด้วย

นักขี่กลุ่มนี้รวมตัวกันมาได้ปีกว่าแล้ว พวกเขายังคงเหนียวแน่นกับล้อเดียวไฟฟ้า ยิ่งมีกันเป็นกลุ่มก็ยิ่งไม่เบื่อ เพราะความสนุกจากการพบปะและแบ่งปันความรู้กันนั้นมีมากพอๆ กับความหลงใหลในอิสระบนล้อเดียว

ภาพ ประเสริฐ เทพศรี