ชีวิตอิสระที่ปรารถนาของ อลิสา อัศวโภคิน

อลิสา อัศวโภคิน หลงใหลได้ปลื้มกับการเล่นโยคะ ถึงกับบินข้ามทวีปไปแสวงหาประสบการณ์ความรู้ระดับแอดวานซ์ แล้วนำกลับมาถ่ายทอดโดยไม่หวงวิชา
ในแวดวงธุรกิจชื่อของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ทั้งยังมีธุรกิจวัสดุก่อสร้างและธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน/ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ มีตัวเลขรายได้มากกว่า 3 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าลูกหลานแห่งอัศวโภคินคงจะหนีไม่พ้นที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว
“อลิสา อัศวโภคิน” หรือคุณแตง ทายาทแลนด์แลนด์เฮ้าส์ที่ได้รับอิสระจากครอบครัวให้เดินตามเส้นทางที่ใจปรารถนาและทำในสิ่่งที่รัก นั่นคือ การเปิดสตูดิโอโยคะกระทั่งมาเป็นโรงเรียนสอนโยคะและผลิตครูโยคะในชื่อ ลัลลาบายโยคะ (Lullaby Yoga) เคียงคู่อยู่กับ ลัลลาบายสปา ณ คิวเฮาส์ ลุมพินี
เธอสัมผัสโยคะครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 20 ปี ช่วงที่เรียนปริญญาโทในนิวยอร์ก ช่วงนั้นเรียนหนักมาก เครียด จึงต้องหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย และพบว่า โยคะ คือคำตอบที่ใช่โดยทำให้อารมณ์ความรู้สึกคลายออกมา ความคิดนิ่งขึ้น แล้วก็ได้สุขภาพดีด้วย หลังจากเรียนจบกลับมาเมืองไทยก็เปิดสตูดิโอโยคะ แล้วก็ขยับเป็นธุรกิจโยคะ ทิชเชอร์ เทรนนิ่ง หรือเทรนผู้เรียนให้ขยับขึ้นมาเป็นครูโยคะ ภายใต้หลักสูตรการรับรองจาก Yoga Alliance สถาบันสากลระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา
เธอเข้าคอร์สเทรนกับครูสอนโยคะที่มีชื่อเสียงระดับโลกรวมๆ แล้วมากกว่า 1,000 ชั่วโมง เช่น โยคะเวิร์ค 200 ชั่วโมง ชีวามุติโยคะ 300 ชั่วโมง ถือเป็นการสั่งสมประสบการณ์และความรู้สำหรับนำมาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ ทั้งยังเข้าถึงแก่นของโยคะว่า เป็นเรื่องของ สมาธิและอินเนอร์ ส่วนท่าทางต่างๆ นั้นเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น
ลูกไม้ใต้ต้นของเจ้าสัวอนันต์ได้รับคำสั่งสอนจากคุณพ่อว่า หัวใจการทำธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับลูกน้อง ต้องขยันกว่าลูกน้อง มีความเมตตาและดูแลเสมือนเป็นครอบครัวของเรา ขณะที่การปฏิบัติกับลูกค้าก็ต้องคิดถึงตัวเองทีหลัง ต้องมีความเมตตา ซื่อสัตย์และไม่เอาเปรียบใคร
*คัดย่อจากบทสัมภาษณ์ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ (กายใจ) ฉบับวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2559







