EURO 2016 ยังไม่สิ้น กลิ่นความปัง

ไม่ว่าระเบิดกลางกรุงอิสตันบูล ตุรกีที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ การจับกุมชายชาวฝรั่งเศสพร้อมระเบิดที่ประเทศยูเครน หรือย้อนไปถึงเหตุวินาศกรรมที่เกิดขึ้นในเบลเยี่ยมและฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่เดือนก่อน จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งหมดก็เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่าการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กำลังดำเนินไปท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อฟุตบอลเป็นอะไรที่มากกว่าเกมกีฬา การเลื่อนออกไป หรือกระทั่งปิดสนามไม่ให้คนดูเข้าชม คงไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะนี่คือฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดแห่งทวีปยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมหกรรมที่ว่า มีจุดศูนย์กลาง ณ ประเทศขาใหญ่แห่งสหภาพอียูอย่างฝรั่งเศส

ทุกคนรู้ดี โลกของฟุตบอลเต็มไปด้วยสารพัดสีสัน ไหนจะกองเชียร์ ไหนจะวิวัฒนาการกีฬา ไหนจะวัฒนธรรม และกลยุทธ์การตลาดที่แต่ละแบรนด์ต่างจัดเต็มตั้งแต่เกมยังไม่ทันเริ่ม ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจสีเทาที่อัตราต่อรองจากฝั่งยุโรปคือเลขชุดเดียวกับที่คนในเอเชียใช้แสวงโชค โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวเชื่อม

การลงคะแนนเสียงของคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ที่โหวตให้ฝรั่งเศสเอาชนะชาติคู่แข่งอย่างตุรกีและอิตาลีจึงเป็นทั้งเรื่องน่ายินดี ความเหมาะสม และความรับผิดชอบ ทั้งยังคือความตื่นเต้นของแฟนบอลทั่วโลกที่จะเห็นฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาครั้งสำคัญอีกครั้ง หลังจากฟุตบอลโลก France '98 เมื่อ 18 ปีก่อน ซึ่งเป็นครั้งที่ทำให้เจ้าภาพได้แชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรก ขณะที่คนไทยเองได้รู้จักชื่อของ ริกกี้ มาร์ติน ไปพร้อมๆ กับที่จะได้ฮัมเพลง “The Cup of Life” ตามร้านอาหารฝรั่งใจกลางเมือง

สำหรับประเทศไทย ระยะห่างกว่า 9,300 กิโลเมตร ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะทำให้เสน่ห์ของฟุตบอลยุโรปถูกบั่นทอนลง ทันทีที่การแข่งขันคู่แรกเริ่มขึ้นเชื่อเถอะว่ารายละเอียดของเกมฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม แฟชั่น อุปกรณ์เชียร์การเชียร์ แฟนสาวนักฟุตบอล (wags) จะถูกพูดถึงตั้งแต่ในแชทไลน์ของกลุ่มเพื่อนสนิท หน้าสเตตัสของคนที่รู้จัก เรื่อยจนถึงหัวข้อสนทนาก่อนเริ่มการประชุมของคนที่บริษัท

แม้จะดูคึกคักน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการแข่งขันครั้งก่อนๆ แต่สีสันของฟุตบอลจะทำให้ภาคธุรกิจก็มีโอกาสทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ฟุตบอลยูโร 2016 จะช่วยหนุนให้ผู้ประกอบการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ในระยะสั้นเพิ่มเติมประมาณ 500 ล้านบาท รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เชื่อมโยงกับการแข่งขันกีฬา (Sport Marketing) ในตลอดหนึ่งเดือนเต็มของการแข่งขัน

หากจะลองเดินสำรวจในห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารสักที่ คุณจะพบกับโปรโมชั่นสินค้าที่สอดคล้องกับฟุตบอลยูโรกันออกมา ไม่ว่าจะเป็นอาหารเดลิเวอรี่ 24 ชั่วโมง รับช่วงเวลาแข่งขันทั้ง 3 คู่ต่อวัน คือ 20.00น., 23.00น. และ 02.00น. การลดราคาของแบรนด์กีฬาทั้งคอลเลคชั่นใหม่ แพคเกจบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การซื้อสินค้าแล้วรับสิทธิทายผลการแข่งขันฟุตบอลเพื่อชิงโชค การผลิตสินค้าแบบ Limited Edition เฉพาะบอลยูโร 2016 การจัดงานอีเวนท์ในธีมฟุตบอลยูโร การซื้อทัวร์ชมกีฬาที่จองตั๋วกันข้ามปี และที่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทยก็น่าจะเป็นการส่งไปรษณีย์บัตรทายทีมแชมป์รับโชคแบบที่เรารู้จักกันดี

ความคึกคักทั้งหมดที่เกิดขึ้น สะท้อนได้อย่างดีว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะตึงเครียดแค่ไหน ตราบใดที่เกมลูกหนังยังครองใจคน เกมสุดขลังอย่างบอลยูโรจึงยัง ‘ปัง’ ได้เสมอ!

Ready to Know รู้ไว้ไม่มีเอาท์!

ถึงจะถูกแย่งซีนด้วยความกังวลถึงเหตุร้าย และฟุตบอลชิงแชมป์โคปา-อเมริกาที่เพิ่งเริ่มแข่งขัน แต่ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดแห่งทวีปยุโรปยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่คุณต้องรู้ ก่อนที่จะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง ตลอด 1 เดือนนับจากนี้

- จาก 16 เป็น 24 ทีม

จำนวนทีมที่เพิ่มขึ้นจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม ทำให้แมตช์แข่งขันเพิ่มขึ้นจาก 31 เป็น 51 นัด แน่ว่านี่คือรายรับจากเงินถ่ายทอดสด ค่าตั๋วเข้าชม และการมีส่วนร่วมของแฟนบอลที่มากขึ้น แต่ถ้าใครคาดหวังจะเห็นแมตช์หยุดโลก ประเภทช้างชนช้างตั้งแต่รอบแรกคงต้องผิดหวัง เพราะตั้งแต่จับสลากแบ่งสายทำให้ทีมวางถูกกระจายกันไปในแต่ละกลุ่ม และกว่าที่ทีมใหญ่จะมาพบกันจริงคงหนีไม่พ้นรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งหากทีมแกร่งไม่มาตามนัด มันก็คงจะทำให้การแข่งขันครั้งนี้คงลดความเข้มข้นไปไม่น้อยเลยทีเดียว

- พลังของสิงโตหนุ่ม

หลังจากส่งรายชื่อนักเตะรอบสุดท้ายจำนวน 23 ราย แฟนบอลคงเซอร์ไพรส์เมื่อทีมขวัญใจคนไทยอย่างทีมชาติชาติอังกฤษ คือ ทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในการแข่งขัน เฉลี่ยอยู่ที่ 25.8 ปี ส่วนทีมที่ค่าเฉลี่ยอายุนักเตะมากที่สุดคือทีมชาติไอร์แลนด์อยู่ที่ 29.8 ปี ขณะที่แชมป์โลกเยอรมันอยู่ที่ 25.9 ปี ฝรั่งเศสเจ้าภาพอยู่ที่ 27.8 ปี แชมป์เก่าทีมชาติสเปนอยู่ที่ 28.1 ปี ส่วนทีมชาติอีตาลีแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2006 มีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 28.9 ปี

- Group of Death

เป็นเรื่องธรรมดาที่ในแต่ละทัวร์นาเมนต์จะมีการยกให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็น Group of Death หรือกลุ่มที่มีทีมแข็งๆ ร่วมอยู่ด้วยมากที่สุด ซึ่งภายหลังการจับสลากในรอบสุดท้ายนี้ หลายคนมองว่า การแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดในรอบแรกน่าจะอยู่ในกลุ่ม E ซึ่งประกอบไปด้วยทีมชาติเบลเยียมที่รั้งอันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของทวีปยุโรปตามการจัดอันดับFIFA Ranking ทีมชาติอิตาลีซึ่งมีดีกรีรองแชมป์ยูโร 2012 ทีมชาติสวีเดนที่นำโดยซลาตัน อิบราฮิโมวิช และสาธารณรัฐไอร์แลนด์

ขณะที่กลุ่ม D ซึ่งประกอบด้วยแชมป์เก่าทีมชาติสเปน, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ค รวมถึงตุรกี ที่แข็งไม่แพ้กัน จึงไม่หมูแน่ๆ กว่าจะได้เข้ารอบ

- This One’s For You

This One’s For You โดย เดวิด เกตตา ดีเจคนดังชาวฝรั่งเศส ฟีเจอริ่งกับฟีดเจอร์ริ่งกับซาร่า ลาร์สสัน นักร้องชาวสวีดิช คือเพลงที่ใช้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับเดวิด เกตตา เขาเป็นทั้งดีเจ และโปรดิวเซอร์ มือดี เริ่มเข้าสู่วงการจากการเป็นดีเจในไนต์คลับช่วง 80s ก่อนออกอัลบั้มชุดแรกชุด Just a Little More Love ในปี 2001 ต่อมาเขาออกผลงานชุด Guetta Blaster (2004) และ Pop Life (2007) ผลงานชุด One Love ในปี 2009 มีซิงเกิ้ลฮิตอย่าง “When Love Takes Over”

- สังเวียนรอบชิง

สตาดเดอฟร็องส์ (Stade de France) คือสนามที่จะใช้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในปีนี้ ซึ่งเป็นสนามเดียวกับที่ฝรั่งเศสเอาชนะทีมชาติบราซิล 3-0 ไปเมื่อปี 1998 โดยสนามกีฬาแห่งชาติฝรั่งเศสแห่งนี้มีความจุอยู่ที่ 81,338 คน สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 28 มกราคม 1998 เคยถูกใช้ในการแข่งขันกีฬานัดสำคัญอย่าง Rugby World Cup match 2007 รวมถึงใช้ในการจัดคอนเสิร์ตกับศิลปินระดับโลกอย่าง จัสติน ทิมเบอร์เล็ค, เลดี้กาก้า, มาดอนน่า และริฮานน่า

- อาดิดาส vs ไนกี้

มากไปกว่าการดวลแข้งของเหล่านักเตะระดับท็อป การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ยังเป็นอีกรันเวย์ของการเปิดตัวชุดแข่งโดยแบรนด์กีฬาชั้นนำของโลกต่างส่งเข้าประชัน ซึ่งแน่นอนว่า 2 แบรนด์ดังอย่างอาดิดาส และ ไนกี้ ยังคงยึดครองพื้นที่บนหน้าอกเสื้อแข่งของทีมดังๆ เช่นเคย ขณะที่ทีมชาติเบลเยี่ยม, เยอรมัน, สเปน รวมถึงสวีเดน เลือกฝั่งอาดิดาส แบรนด์คู่แข่งอย่างไนกี้ก็มีทีมชาติอังกฤษ, ฝรั่งเศส และโปรตุเกส ส่วนทีมชาติอิตาลียังคงภักดีกับพูม่า อย่างไรก็ตาม ในสนามครั้งนี้ เรายังจะได้เห็นแบรนด์ระดับรองลงมาอย่าง Umbro, Joma, Macron และ Errea พร้อมโลดแล่นอยู่ด้วย

- ขาประจำรอบสุดท้าย

เว็ปไซต์ยูฟ่าจัดอันดับนักเตะที่ลงสนามการแข่งขันรอบสุดท้ายมากที่สุด ผลสรุปว่า อันดับ 1 และ 2 คือผู้เล่นที่รีไทร์ตัวเองไปแล้ว ได้แก่ ลิลิยอง ตูราม ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ นายทวารชาวดัตช์ แต่สปอร์ตไลท์คงฉายมาที่ผู้เล่นลำดับที่ 3 และ 4 ซึ่งกำลังได้ลงสนามในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยเช่นกัน คนแรกคือ อีเกร์ คาซียัส นายประตูทีมชาติสเปน และฟิลิป ลามห์ ผู้เล่นสารพัดประโยชน์ของเยอรมัน ซึ่งทั้ง 2 ต่างเคยลงเล่นในรอบสุดท้ายในจำนวนเท่ากันคือ 14 นัด

- ดาวซัลโว

ตำนานทีมชาติอย่าง มิเชล พลาตินี่, อลัน เชียเรอร์ และเทียรี่ อองรี คือ 3 อันดับแรกของดาวซัลโวตลอดกาลในศึกชิงแชมป์ฟุตบอลยูโรปรอบสุดท้าย ถึงเช่นนั้นในจำนวนทำเนียบดาวซัลโวการแข่งขันยูโร รอบสุดท้ายยังมีชื่อของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าชาวสวีดิช และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุป'ตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ด้วยสถิติเท่ากันคือ 6 ประตู ขณะที่เจ้าของสถิติดาวซัลโวในรอบคัดเลือกอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงจากทีมชาติโปแลนด์ก็พร้อมจะร่วมล่าตาข่ายในรอบสุดท้ายนี้เช่นกัน

- ศึกสายเลือด

สำหรับครอบครัวชาก้า แมตช์ระหว่าง แอลเบเนีย กับ สวิตเซอร์แลนด์ ในกลุ่ม A น่าจะเป็นยูโรครั้งสำคัญในที่สุด เพราะ ทอแลนท์ ชาก้า(พี่ชาย) กองหลังทีมชาติแอลเบเนีย จะต้องมาดวลกับ กรานิต ชาก้า (น้องชาย) มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

สองพี่น้องชาก้าติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในระดับเยาวชนด้วยกันมาก่อน แต่เมื่อถึงคราวต้องขึ้นทำเนียบทีมชาติชุดใหญ่ ทอแลนท์ กลับไปไม่ถึงฝัน เลยหันไปเล่นให้ทีมชาติแอลเบเนียซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพ่อและแม่ของทั้งคู่และนัดระหว่าง แอลเบเนีย-สวิสเซอร์แลนด์คือศึกสายเลือดของตระกูลชาก้าอย่างแท้จริง

- บั้นปลายของกัปตันรูน

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอลเนื่องจากทำผลงานในระดับสโมสรไม่เข้าตา แต่ เวนย์ รูนีย์ กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยังได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และสวมปลอกแขนเป็นกัปตันให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกยูโรครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม คาดกันว่า นี่จะเป็นเวทีระดับทวีปครั้งสุดท้ายของกัปตันรูนที่จะได้แสดงฝีมือลบคำครหา ให้สมกับการเป็นเจ้าของสถิติติดทีมชาติ 111 นัด ยิงได้ 52 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดตลอดกาลของพลพรรคสิงโตคำราม

- 27 ล้านยูโรสำหรับแชมป์

ใครเคยสงสัยเรื่องเงินรางวัลของทีมชนะ เว็ปไซต์สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปออกมาเฉลยแล้วว่า ทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะได้รับรางวัลทีมละ 8 ล้านยูโรบวกโบนัสชนะเกมละ 1 ล้านยูโร และเสมออีก 500,000 ยูโร

หากทีมใดทำผลงานดี สามารถผ่านเข้ารอบ16 ทีมสุดท้ายจะได้เงินรางวัลเพิ่มอีกทีมละ 1.5 ล้านยูโร และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านยูโรเมื่อเข้ารอบ 8 ทีมตามด้วยอีก 4 ล้านยูโรเมื่อสามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ส่วนทีมที่ได้แชมป์จะรับเงินรางวัลเพิ่มอีก 8 ล้าน ยูโรรองแชมป์ได้ 5 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อบวกยอดเงินรางวัลทั้งหมดแล้วทีมที่คว้าแชมป์จะได้เงินรางวัลทั้งสิ้นประมาณ 27 ล้านยูโร สูงกว่าเมื่อปี 2012 ซึ่งทีมชนะคว้าเงินรางวัลไปราว 23.5 ล้านยูโร

- ปีของ Underdog

กระแส Underdog ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในสถานการณ์ย่ำแย่ของเลสเตอร์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุดเพิ่งลดความแรงไปไม่นาน กระแสเชียร์มวยรองในศึกยูโรที่จะถึงนี้เริ่มมาอีก ดีไม่ดีฟุตบอลยุโรปหนนี้ อาจจะเป็นคิวของทีมรองบ่อนซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะขึ้นบัลลังก์แชมป์ อย่างไอร์แลนด์เหนือ ฮังการี อัลเบเนีย ได้แผลงฤทธิ์ล้มยักษ์ ก่อนจะคว้าแชมป์ในแบบเดียวกับเทพนิยายเดนส์ และทีมชาติกรีซสร้างตำนานไว้เมื่อปี 1992 และ2004