เกาะตุ๊กตา (ผี) แห่งเม็กซิโก

ช่วงนี้ “ตุ๊กตาเทพ” กำลังเป็นข่าวฮิตติดลมบนของเมืองไทย
สำนักข่าวหลายแห่งทั้งไทยและต่างประเทศรายงานเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน คนที่มีลูกเทพไว้ในครอบครองอาจจะบอกว่า ทำไมถึงเพิ่งเป็นข่าว พวกเขาพาตุ๊กตาประเภทนี้ไปไหนมาไหนตั้งนานแล้ว คือที่เป็นข่าวฮือฮามาระยะนี้เพราะจำนวนคนที่นิยมมีจำนวนมากขึ้นและนำขึ้นเครื่องบินไปด้วย จนกระทั่งสายการบินไทยสมายล์ต้องออกระเบียบสำหรับผู้โดยสารประเภทใหม่นี้เพิ่มเติม บางคนที่ไม่สนใจอาจจะบอกว่า ตุ๊กตานี้ดูหลอนและน่ากลัว ไม่น่ารักแบบตุ๊กตาทั่วไป
ในหลายประเทศก็ใช้ตุ๊กตาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ญี่ปุ่น แต่ที่ไหนคงไม่เหมือนที่เกาะตุ๊กตา (ผี) (Isla de lasMunecas) ซึ่งตั้งอยู่ในคลองไปทางใต้ของเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก ประมาณ 28 กิโลเมตร เกาะนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมความสยองขวัญและต้องการทดสอบความกล้าของตนเอง ผู้คนดั้นด้นกันมาเพื่อชมตุ๊กตานับพันตัวที่ถูกนำมาแขวนระเกะระกะบนต้นไม้บนเกาะแห่งนี้ ถ้าเป็นตุ๊กตาที่น่ารักสวยงามคงไม่น่าแปลก แต่นี่ส่วนใหญ่เป็นตุ๊กตาพิการ มีแต่แขนขาที่พิการหรือมีแต่หัว แทบจะไม่มีตัวไหนเลยที่สมบูรณ์ หน้าตาของแต่ละตัวก็น่ากลัว ดวงตาว่างเปล่า บ่งบอกถึงความโศกเศร้าและทรมาน ตุ๊กตาพวกนี้ดูน่าสะพรึงกลัวแม้ในเวลากลางวัน เราแทบจะไม่ต้องพูดถึงตอนกลางคืนเลย
ที่มาที่ไปของเกาะตุ๊กตานี้ คือเมื่อประมาณปี 1950 เกาะนี้มีผู้อาศัยอยู่เพียงคนเดียว คือ จูเลียน ซานตาน่า บาร์เรร่า เกษตรกรที่รักสันโดษ วันหนึ่งเขาพบเด็กผู้หญิงจมน้ำในคลองและไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ หลังจากนั้นวิญญาณของเธอก็ตามมาหลอกหลอนเขา เขาจึงนำชิ้นส่วนตุ๊กตาที่เก็บได้ตามลำน้ำมาแขวนบนต้นไม้บนเกาะเพื่อเป็นการแสดงความเคารพแก่เด็กที่เสียชีวิตและด้วยความหวังว่า วิญญาณของเด็กที่ถูกทรมานนั้นจะสงบ และไม่มาหลอกหลอนเขาอีก เรื่องเล่าบางกระแสก็ว่า จูเลียนเชื่อว่า ตุ๊กตานั้นเป็นของเด็กหญิงที่ตาย
แต่ดูเหมือนว่า ตุ๊กตาตัวเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของจูเลียนสงบลง เขาจึงนำชิ้นส่วนของตุ๊กตาที่พบในคลองมาแขวนอีก แต่เขาก็ยังไม่พอใจ เขาถึงกับคุ้ยหาตุ๊กตาจากกองขยะและนำผักผลไม้ที่ปลูกเองไปแลกตุ๊กตา แน่นอนว่า ตุ๊กตาที่เจอในกองขยะย่อมไม่สมบูรณ์ มีสภาพเก่าเพราะถูกทิ้ง นี่เองเป็นที่มาว่า ทำไมตุ๊กตาบนเกาะนี้ถึงไม่สมประกอบ
เรื่องราวของจูเลียนถูกเล่าต่อกันไปในหลายรูปแบบ แต่ที่เหมือนกันคือ ในที่สุดเขากลายเป็นคนบ้า ได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าทั้งๆ ที่เขาอยู่คนเดียวบนเกาะ กระท่อมที่เขาอยู่ก็ตั้งอยู่ไกลเข้าไปในป่า เขาเชื่อว่าตุ๊กตานั้นเป็นเด็กจริงๆ และพยายามที่จะช่วยให้มันฟื้นคืนชีพ แต่ครอบครัวของเขาเล่าว่า เขาเชื่อว่า เกาะแห่งนี้มีวิญญาณของเด็กผู้หญิงสิงสู่และคอยหลอกหลอน และแก้ไขได้ด้วยการแขวนตุ๊กตาเท่านั้น
แต่เมื่อปี 2001 หลานของเขาคนหนึ่งพบศพจูเลียนจมน้ำในคลองนั้นเอง บางคนเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ในขณะที่อีกหลายคนกล่าวว่า วิญญาณตุ๊กตาฆ่าเขา ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่มีใครสนใจเกาะแห่งนี้ แต่เมื่อเขาเสียชีวิต มันกลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดัง ไม่เฉพาะแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่พากันมาเยี่ยมชม แต่ยังรวมถึงรายการโทรทัศน์จากหลายประเทศทั่วโลกมาเพื่อถ่ายทำและพิสูจน์ว่า ที่นี่มีวิญญานหลอกจริงหรือไม่ นักท่องเที่ยวบางคนนำตุ๊กตามาแขวนเพิ่มด้วย
คนท้องถิ่นกล่าวว่า เกาะนี้มี “เสน่ห์” ไม่ได้น่ากลัวเลย แต่นักท่องเที่ยวหลายคนกล่าวว่า พวกเขาได้ยินเสียงตุ๊กตากระซิบกระซาบกันด้วย เชื่อกันว่า เวลาที่ดีที่สุดในการมาที่เกาะนี้คือ ตอนกลางคืน นักท่องเที่ยวขาโหดทั้งหลายจะใช้ไฟฉายส่องไปที่ตุ๊กตาทีละตัวในขณะที่บรรายากาศรอบตัว เต็มไปด้วยความมืดมิด
การเดินทางมาที่เกาะนี้สามารถทำได้โดยทางเรือจากเมืองเม็กซิโกซิตี้ และใช้ระยะเวลาต่างกันไป เช่น อาจกินเวลา 3-4 ชั่วโมง ถ้าคุณต้องการล่องเรือชมคลอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบด้วย ส่วนใหญ่ทริปเรือจะไม่รวมเกาะนี้ไว้ด้วย คุณอาจต้องขอเป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าตรงมาที่เกาะเลยก็จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
เกาะนี้จะพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวช่วงเสาร์อาทิตย์ และค่าขึ้นชมเกาะอยู่ที่ประมาณ 25 เหรียญสหรัฐ







