Inspirative อินดี้ไทย เริ่มแจ่มที่จีน

Inspirative อินดี้ไทย เริ่มแจ่มที่จีน

วงไทยที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ได้เป็นส่วนหนึ่งของคลื่นกระแสดนตรีสดหน้าใหม่ไร้พรมแดนในไลฟ์เฮ้าส์ตามหัวเมืองใหญ่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ฮิปของคนรุ่นใหม

สิบปีที่ผ่านมา Inspirative มีอัลบั้มเต็มสองอัลบั้ม ซิงเกิ้ล อีพี และงานสดตามซอกมุมของเทศกาลดนตรีในเมืองไทย เป็นเพียงวงตัวประกอบตอบสนองคอเพลงเฉพาะกลุ่ม ในที่สุดการสื่อสารที่ย่อโลกก็ได้นำพา โปรโมเตอร์รุ่นใหม่ไฟแรงจากจีน มาคว้าตัวพวกเขาไปทัวร์ตามตามคลับเฮ้าส์ และสถานที่จัดแสดงสด(ไลฟ์เฮาส์) ของเมืองใหญ่

อินดี้สีจาง

เมื่อปี 2006 นพนันทน์ พาณิชเจริญ มือกีตาร์ ที่อยากทำงานเดี่ยวในแนวดนตรีโพสต์ร็อค ต่อมาได้รวบรวมสมาชิกเป็นวงดนตรีเต็มรูปแบบ ในชื่อวง Inspirative (อินสไปเรทีฟ)

โดยนักดนตรีของวงไม่ได้ถือตัวเองเป็น “ศิลปินอาชีพ” ที่ทำเพลงเพื่อเลี้ยงชีพ แต่เป็นกลุ่มคนที่มีอาชีพความถนัดสายอื่นๆ มารวมตัวกัน ลงมือ และลงทุนเอง ผลิตดนตรีที่พวกเขาชอบและอยากฟัง อาศัยเทคโนโลยีและการสื่อสาร รวมทั้งการออกทุนส่วนตัวเพื่ออัดเสียงและผลิตแผ่นซีดีออกมาขาย ตามงานเทศกาลดนตรีอินดี้นอกกระแสต่างๆ ในเมืองไทย ที่ นพนันท์ หัวหน้าวง ใช้คำว่า เราแอบตัวจางๆอยู่มุมหนึ่งของเทศกาลต่างๆ รวมถึงงานแฟตเฟสติวัล ยุคเด็กแนว จนถึงงานล่าสุด บิ๊กเมาเทน มิวสิคเฟสติวัล เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

พวกเขามีงานอัลบั้มเต็มมาแล้วสองชุด ชุดแรกเมื่อปี 2010 Memories Come Rushing Up to Meet Me Now และล่าสุดชุด Mysteriously Awake

เพลงของ Inspirative อาจมีข้อจำกัดทางการตลาดในตลาดดนตรีป๊อปมหาชน จาก ความยาวของเพลง และการเป็นดนตรีเน้นบรรเลงไม่เน้นเนื้อร้อง เนื้อหาที่มีเรื่องราวในเชิงนามธรรม รวมไปถึง ทุน ในการออกสู่ช่องทางโปรโมท

“ตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าแนวนี้เป็นโพสต์ร็อค ไม่ได้รู้จักมาก แต่พอมีเพื่อนคนหนึ่งเอาเพลงของ Sigu Ros มาให้ฟัง คือ ฟังแล้วตายเลย ก็เลยลองทำเพลงแบบนั้นดู และมีดีเจจากเยสอินดี้ ชวนทำเพลงในอัลบั้มคอมพิเลชัน รวมเพลงจากหลายคน” นพนันท์ เผยที่มาของการทำเพลง และจากจุดนั้นเขาประกาศหาสมาชิกวงผ่านออนไลน์ และเริ่มมีงานเล่นสด มีเล่นเพลงของตัวเองผสมกับเพลงคัฟเวอร์ โดยได้เล่นในงานของกลุ่มแพนดาเรคคอร์ด ค่ายทำเพลงอินดี้ของไทยที่อยู่มานานนับสิบปีเช่นกัน

แต่การมีตัวตนของ Inspirative เริ่มมีแฟนเพลงชัดเจน เมื่อออกอัลบั้มเต็มชุดแรกเมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ MySpace ล่มสลาย ช่องทางของพวกเขามีตั้งแต่ยุค MySpace ต่อมา มี You Tube channel และ bandcamp จนถึงยุคโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง เฟสบุค และโปรโมเตอร์จากเมืองจีนหาพวกเขาเจอจากช่องทางออนไลน์นี่เอง

ดนตรีของพวกเขามาตามความชอบ ด้วยเหตุผลที่นพนันท์บอกว่า สมาชิกวงผ่านการเล่นดนตรีมาพอสมควรและหลายแนว การเลือกเล่นจึงเน้นที่อยากทำจริงๆ ไม่ใช่การตอบสนองตลาด จากจุดประสงค์แรกของการทำวง เพื่อเอามัน

“เรามีแบบน้อยใจนะ ว่าไม่เคยติดชาร์ตวิทยุ (ในไทย)เลย สื่อมืดสนิท ได้แต่คนฟังแบบปากต่อปาก แต่มันก็แลกกับการสนองตัณหาตัวเอง เราอยากทำเพลงอย่างนี้ ก็มีเฉพาะคนที่ชอบเหมือนเราจริงๆมาฟังเรา เราเล่นในบิ๊กเมาเท่นทุกปีนะ แต่ไม่มีใครเห็น เราก็อยู่แบบตัวเล็กๆจางๆ แต่ก็พอมีคนบอกปากต่อปาก เพิ่มคนฟังมาทีละนิดๆ เพราะช่องทางสื่อมืดมนมาก จนได้ออกอัลบั้มล่าสุด ค่อยมีสื่อมาขอสัมภาษณ์บ้าง”

แต่อย่างไรก็ตาม นพนันท์ บอกว่า เคยผ่านการเล่นดนตรีต่อหน้าคนดูแค่ 10 คนถึงหลักร้อย ซึ่งในมุมของนักดนตรีไม่มีปัญหามากนัก เพราะเป็นการเล่นวงดนตรี 5 ชิ้น 

สมาชิกวงปัจจุบันมี 5 คน ได้แก่ นพนันทน์ พานิชเจริญ (กีตาร์) วุฒิพงศ์ ห่วงเพชร (ร้องนำ- คีย์บอร์ด) อมรเทพ มาแสวง (เบส) ซึ่งเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้ง และน้องใหม่อีกสองคน ได้แก่ สุธาสินี สุวรรณวลัยกร (กลอง) ณัฐตนัย จันจรัสศรี (กีตาร์)

แจ่มเข้าตาจีน  

วันที่ 8-17 มกราคม 2016 สองสัปดาห์กับ 8 โชว์ต่อเนื่อง เริ่มที่ ปักกิ่งหังโจว เซี่ยงไฮ้อู่ฮั่น ฉงชิ่ง เฉิงตู กว่างโจว และ เซินเจิ้น วงดนตรีที่ยังไม่ดังระเบิดในเมืองไทย กลายเป็นตัวเลือกของโปรโมเตอร์จีนได้อย่างไร

 “ปีนี้แนวดนตรีโพสต์ร็อคได้รับความนิยมมากในจีน ปกติเราจะเลือกวงจากยุโรปและอเมริกา แต่คราวนี้อยากจะหาวงใหม่มาให้คนฟัง เราก็เลยโฟกัสที่วงแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนที่เราได้ฟังเพลง KL Street (วันที่ฝนตก)ของวงนี้เราก็รู้ว่านี่แหละที่เราต้องการ “ อารอน จาง ผู้จัดการทัวร์เผยถึง เหตุผลที่เลือกวง Inspirative มาเล่นสดที่จีน ในการสัมภาษณ์ผ่าน โซเชียล มีเดีย เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา

 อารอน จาง (Aaron Zhang) ตำแหน่งผู้จัดการทัวร์ (Tour Manager)  ที่ทำหน้าที่คัดเลือกวงดนตรีมาแสดงสดในจีนและดูแลจัดการตลอดงานทัวร์ ของ Beijing Sounds Great Company Limited โปรโมเตอร์คอนเสิร์ตของคนรุ่นใหม่ ที่มีหุ้นส่วนจากหลากหลายที่มา อาทิ Corde Oblique (Italy) Haggard (Germany) Matthew Barber (Canada) BangGang (Iceland) Flica (Mtaylasia ) Darin Zanyar (Sweden) และ Nu Mark (Japan)

ในคำถามที่ว่า คนฟังชาวจีนรู้จักวงไทยหรือดนตรีของไทยบ้างไหม? ารอนบอกว่า

 “ตอนนี้การสื่อสารระหว่างไทย-จีนมีมากขึ้น เพราะมีคนจีนไปเมืองไทยทั้งไปเที่ยวและไปเรียน มีมากขึ้นเรื่อยๆ และ คนจีนรุ่นหนุ่มสาวปัจจุบันส่วนใหญ่เลยนะ รู้จักวัฒนธรรมไทยและดนตรีป๊อปของไทยจาก ละครทีวีไทยและหนังไทยอยู่แล้วด้วย” อารอน จาง กล่าว

โดยผู้จัดทัวร์ วัยเพียง 25 คนนี้ ได้ยืนยันถึงกระแสบันเทิงไทยที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ของแผ่นดินใหญ่ นอกจาก พระเอก นางเอกละครทีวีไทย และศิลปินอย่างวงออกัส จากคำม่วนสตูดิโอ ที่ได้รับผลพวงจากความนิยมในหนังไทย รักแห่งสยาม (กับเพลงฮิต กันและกัน)  จนมีแฟนคลับมากมายลงทุนให้พวกเขาไปเดินสายแสดงสดในเมืองใหญ่ๆ ในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาและยังมีการออกอัลบั้มเพลงภาษาจีนให้แฟนๆ ตัวจริงอีกด้วย

หนึ่งวันก่อนเดินทางไปจีน นพนันท์ให้ความเห็นส่วนตัวว่าคนฟังนอกกระแสในจีน อาจจะเทียบได้ 1 เปอร์เซนต์กับคนฟังทั้งหมดเช่นเดียวกับเมืองไทย แต่จำนวนประชากรที่เยอะกว่า ย่อมมีโอกาสมากกว่า 

เมื่อถามถึงโอกาสของ ศิลปินไทย ที่จะแหวกตลาดเพลงของจีน โดยเฉพาะในวงการ “ดนตรีสด” ทางฝั่งโปรโมเตอร์จีน บอกว่า “แน่นอน ถ้าคุณมีงานดนตรีดีๆ ก็มีโอกาสตีตลาดในจีนได้”

พิมพิมล พิมพ์งาม ผู้ดูแลศิลปินได้เล่าถึงข้อสังเกตของทีมงานจีน ที่เคยได้มาดูดนตรีเล่นสดตามผับบาร์ที่เมืองไทย ซึ่งเป็นวิถีปกติของบ้านเราว่า ส่วนใหญ่วงที่เห็นจะเล่นแต่เพลงคัฟเวอร์ศิลปินกระแสหลัก ไม่ค่อยมีวงที่เล่นเพลงของตัวเองมากนัก เขาจึงคิดว่าคำว่า ไลฟ์แบนด์ในเมืองไทย จึงเป็นวงคัฟเวอร์เป็นส่วนใหญ่

สำหรับโปรโมเตอร์ เขามองว่า สิ่งที่มองหาจากศิลปินไทยคือ ดนตรีที่ดีและศิลปินที่มีความสามารถ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นแนวไหน และไม่จำกัดว่าจะเป็นวงดนตรีในกระแสหลักหรือวงนอกกระแส

ขณะที่ผู้ชมในทัวร์ของ Inspirative in China 2016 รอบนี้ มีคนดูเฉลี่ย 250 คน ตามขนาดของไลฟ์เฮ้าส์ในแต่ละเมือง ต่ำสุดที่ 200 และสูงสุดที่ 400 คน ในราคาบัตร 80-120 หยวนต่อคน

“เราถือว่าประสบความสำเร็จนะ ดูจาก 3โชว์ที่เล่นในปักกิ่ง หังโจว และเซี่ยงไฮ้ (ในสัปดาห์แรกของทัวร์) สำหรับการเล่นของวง มันเลิศมาก แต่สำหรับการจัดโชว์ของโปรโมเตอร์พวกเราน่าจะทำให้ดีกว่านี้ เราอาจจะโปรโมทน้อยไป” อารอน บอก

ข่าวการทัวร์ของวงอินดี้ไทยปรากฏในสื่อนอกกระแส อย่าง UniteAsia.org ของฮ่องกง ซึ่งติดตามวงร็อคจากทั่วเอเชีย ได้รีวิวงานของวง Inspirative ว่าสะกดให้คนฟังอยู่ในภวังค์แห่งความดื่มด่ำดนตรีโพสต์ร็อค หรือสื่อในกระแสของเมืองเซี่ยงไฮ้อย่าง Global Times (www.globaltime.cn) แนะนำการแสดงสดของ Inspirative ที่บรรยายสรรพคุณของวงไทยคนไทยไม่ค่อยรู้จักไว้ว่า วงไทยในแนวดนตรีโพสต์ร็อคชั้นดีวงนี้ จะมาเยือน เซี่ยงไฮ้

จากคำบอกเล่าของพิมพิมล  สถานที่การแสดงสดในทัวร์ของ Inspirative มีตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมที่เซี่ยงไฮ้ จนถึง Nuts Live House อยู่ชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของเมืองฉงชิ่งเปิดมา 18ปีแล้ว และ ไลฟ์เฮาส์ในบาร์อย่าง Little Bar ในห้างสรรพสินค้าThe MixC ห้างใหม่เอี่ยมของเมืองเฉิงตู จุดร่วมของสถานที่คืออยู่กลางย่านวัยรุ่นฮิปของแต่ละเมืองเป็นหลัก

 “มีแฟนเพลง(ชาวจีน) คนหนึ่งเปิด rating ชาร์ตอัลบั้มเพลง Post rock ของจีนให้ดู อัลบั้ม Mysteriously Awake ได้เรตถึง 9.5 แถมยังอวยว่าวงเป็นวง Post-rock ยอดนิยมอันดับต้นๆของประเทศจีนด้วย หลังจบโชว์มีชายหนุ่มชาวยูเครนเกิดความประทับใจชวนวงไปเล่นทัวร์ยุโรปปีหน้า” พิมพิมล เล่าถึงกระแสตอบรับจากผู้ชมในเมืองฉงชิ่ง

นอกจากขายตั๋วการแสดงแล้ว ยังมีการขายสินค้าเมอร์แชนไดส์ของวง ทั้งเสื้อยืดสกรีนชื่อวง ซีดีอัลบั้มของวงในราคา 100 หยวน ที่หน้างานตามธรรมเนียมทัวร์คอนเสิร์ตทั่วไป ซึ่งทางวงเผยว่ายอดขายซีดีหน้างานรวมตลอดทัวร์ได้ราว 90 เปอร์เซนต์จากเป้าหมายที่เตรียมไว้

จากประสบการณ์ของวงอินดี้วงนี้ พิมพิมล มองว่า ศิลปินไทยน่าจะเปิดตลาดไลฟ์โชว์ในจีนได้อีก

“ที่ผ่านมามีวงไทยอินดี้ไปทัวร์จีนเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้ไปหลายเมืองเท่าที่ Inspirative ไป อย่าง Annalyn วงร็อคอันเดอร์กราวของไทย ก็เคยไปมาแล้ว เท่าที่พูดคุยกับคนจัด คนจีนรุ่นใหม่ค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับเพลงทุกแนว เขาอยากให้ศิลปินไทยลองทำการตลาด โปรโมท ตลาดจีน ดูก็น่าจะไปได้ไกลเหมือนกัน อย่าง Inspirative แรกๆ ก็งงกัน ว่าพวกเขาฟังเพลงเราจากไหน เพราะ ประเทศจีนบล็อคเว็บไซต์จากต่างประเทศทั้งหมด แต่ก็ยังมีฐานแฟนเพลงพอที่เราจะไปแสดงได้ ถ้าทำการตลาดจริงจังกว่านี้ เชื่อว่าคงจะได้รับการตอบรับที่ดีแน่นอน อีกอย่างคือ เมืองจีนค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการเมือง ถ้าวงไหนกล่าวพาดพิงถึงประเทศจีนในทางไม่ดี ก็มีสิทธิ์ ไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงเช่นกัน”

ไฮไลต์การทัวร์ของ Inspirative พีคสุดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ในเมืองเล็กกว่าอย่าง ฉงชิ่ง สถานที่จัดการแสดงเล็กแต่การจัดการระบบเสียงและบรรยากาศคนดูแน่นดี ปัญหาขลุกขลักอย่างที่ เซินเจิ้น คือการสื่อสารในช่วงซาวนด์เช็ค ก่อนเล่นจริง ซึ่ง “เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก”

อย่างไรก็ตาม ในบรรยากาศของคนดู พิมพิมล ตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิกิริยาคนดูคอนเสิร์ตจีนจะคล้ายกับเมืองไทย แต่ค่อนข้างอดทนกว่า

“คือ โชว์ยาว 100 นาที ไม่มีเดินหนี หรือเดินออก มีน้อยมากที่เดินออกไปสูบบุหรี่ หรือซื้อเบียร์” ผู้ดูแลวงเผย

สำหรับโปรโมเตอร์ Beijing Sounds Great Company Limited การนำวงดนตรีจากเอเชียอื่นๆ มาทัวร์สดในจีน นั้น พวกเขามองหาวงจากมาเลเซีย ญี่ปุ่น ทั้งแนวร็อค ป๊อป และดีเจ ส่วนวงไทยวงต่อไปนั้น ยังไม่ตัดสินใจเลือกว่าจะเป็นใคร

“ก่อนที่เราจะเลือกศิลปินมาเล่นในจีน เราจะสำรวจตลาดก่อน ถ้าคนฟังมีฟีดแบคกับศิลปินดี เราค่อยเลือกมาทัวร์”

อารอน ยังให้ข้อสังเกตว่า เมื่อเทียบกันแล้ว ตลาดดนตรีต่างประเทศก้าวหน้ากว่าตลาดเพลงป๊อปในจีน ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะวงการดนตรีเล่นสด ริงๆแล้วคนที่นี่ (จีน)ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ไลฟ์เฮ้าส์ (Live House) คืออะไร

แม้ในเมืองใหญ่อย่าง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และกว่างโจว คนจะนิยมไปฟังดนตรีสดในไลฟ์เฮ้าส์กัน แต่ในเมืองอื่นๆ คนยังชอบฟังป๊อป หรือบางเมืองชอบเพลงร็อคคลาสสิก อารอนบอกว่า ในฐานะคนทำธุรกิจจัดคอนเสิร์ต เขาอยู่ในขั้นตอนการศึกษารสนิยมของคนฟังจีน ในแต่ละเมืองว่าเป็นยังไง เพื่อจะจัดสรรสินค้าที่ถูกใจผู้บริโภคแต่ละจุดได้