Sky Lane ปั่นไปบนเส้นขอบฟ้า

Sky Lane ปั่นไปบนเส้นขอบฟ้า

หลังจากอัดอั้นกันมาหลายเดือน วันนี้แลนด์มาร์คสำคัญของนักปั่นชาวกรุงเทพตะวันออกกลับมาแล้ว

และคราวนี้เป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่และดีกว่าเดิมจริงๆ


ชื่อของสนามเขียวสุวรรณภูมิกำลังจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว เพราะวันนี้ตำนานบทใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ณ ที่เดิม โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Sky Lane Thailand หรือ ลู่ปั่นจักรยานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรจนเราต้องมาพูดถึงเส้นทางจักรยานชื่อดังนี้อีกครั้ง


ความเปลี่ยนแปลงแรกตั้งแต่ข่าวคราวว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปรับปรุงทางจักรยานสายนี้ ชื่อของ SNAP ก็เริ่มผ่านหูผ่านตานักปั่นที่ตั้งตารอคอยจะกลับเข้าไปปั่นจักรยานในนั้น หลังจากที่ต้องระเหเร่ร่อนกันไปปั่นจักรยานตามที่ต่างๆ เต็มไปหมด บางคนถึงขั้นหยุดปั่นจักรยานรอเส้นทางนี้เปิดอีกครั้งเลยทีเดียว เอาล่ะ มาต่อกันเรื่อง SNAP ดีกว่า เพราะสิ่งนี้มีความสำคัญเทียบเท่าบัตรประชาชนหรือแม้กระทั่งเป็นกระเป๋าสตางค์เมื่อคุณอยู่ใน Sky Lane ส่วนการที่จะได้มันมาสวมบนข้อมือนั้นทำได้หลายทาง หลายคนได้มันมาแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ได้มันมา...ง่ายนิดเดียว...


ไปที่จุดให้บริการตามธนาคารไทยพาณิชย์และร้านจักรยานที่ร่วมกิจกรรมนี้ จะเจอตู้หน้าตาดีอยู่ตู้หนึ่ง หลังจากนั้นแค่หยิบบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (มีชิพอิเล็กทรอนิกส์) แล้วเสียบไปที่ตู้ แล้วสายรัดข้อมือที่ชื่อว่า SNAP จะหล่นลงมา หยิบมันมาแตะที่แถบ เป็นอันจบพิธีการแบบฟรีๆ
คราวนี้ก็ปั่นไปที่ทางเข้า Sky Lane ได้เลย ถัดไปจากลานจอดรถจะมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ ตรงนี้แหละที่นักปั่นจะได้ใช้ SNAP โดยนำมันไปแตะที่แถบรับสัญญาณ รั้วประตูก็จะเปิดออก คุณกับจักรยานผ่านเข้าไป เป็นอันจบอีกหนึ่งพิธีการ (ง่ายอีกแล้ว)


จุดที่แตกต่างจากเดิมตั้งแต่เริ่มเข้ามายังเส้นทางปั่นสายนี้คือจากเดิมที่ปั่นไปตามเข็มนาฬิกา (วนขวา) คราวนี้ต้องปั่นทวนเข็มนาฬิกา (วนซ้าย) ไม่ใช่แค่อยากเปลี่ยนให้แตกต่างเท่านั้น เพราะเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย ลองนึกภาพตาม เดิมทีที่ปั่นวนขวา รถช้าอยู่ซ้าย รถไวอยู่ขวา จุดสตาร์ทและจุดพักรถอยู่ขวามือทั้งหมด เมื่อนักปั่นต้องการเลี้ยวรถทั้งพักและออกจากสนาม อาจเป็นการตัดหน้ารถที่ปั่นมาเร็วมาก จักรยานชนกันไม่ใช่เรื่องขำๆ นะครับ เจ็บหนักกันมามากแล้ว


และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือทางสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแล้ว


เราได้ลองทดสอบสนามเมื่อหลายวันก่อน ได้ลองตั้งแต่เปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่าห้องน้ำน่าจะเพียงพอสำหรับนักปั่น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือหากคนจำนวนมากใช้อย่างไม่บันยะบันยัง ไม่คำนึงว่าแม่บ้านที่ทำความสะอาดจะลำบากแค่ไหน รับรองว่าไม่ทันเก่าก็เน่าแล้ว...


กลับมาที่จุดสตาร์ทกันต่อ เราออกสตาร์ทไปได้ไม่นานก็รู้สึกได้ถึงความ ‘เรียบ’


ต้องย้อนกลับไปเมื่อคราวที่เปิดสนามเขียวเดิม คราวนั้นสิ่งที่รู้สึกได้หลังจากปั่นเสร็จเมื่อใครถาม คือ พื้นสนามเป็นลอนคลื่น ไม่ราบเรียบ เป็นอย่างนั้นตลอดทั้ง 23.5 กิโลเมตร แต่ที่สนามฟ้านี้เรียบจนน่าตกใจ ต้องชื่นชมจริงๆ


ความเรียบนี้ดีอย่างไรในเมื่อท้องถนนประเทศไทยก็ไม่เรียบ ก็นี่แหละครับ เมื่อถนนไม่เรียบ มีหลุม มีตะแกรง มีฝาท่อ มีร่องรอยต่อถนน สำหรับคนที่ต้องการปั่นจักรยานอย่างสบายอกสบายใจก็ต้องเข้าไปปั่นกันในพื้นที่ปิดแบบนี้


และนักปั่นอีกกลุ่มที่นิยมใช้บริการเส้นทางปั่นแบบปิด คือ นักปั่นจริงจัง บางคนแข่งขัน บางคนแข่งกับตัวเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นนักปั่นขาแรง ปั่นเร็วปั่นไว ถ้าถนนเรียบก็จะทำให้ปั่นได้เต็มประสิทธิภาพ


พูดถึงวิวสองข้างทางกันบ้าง เนื่องจาก เส้นทางนี้ใช้เส้นทางเดิมสมัยเป็นสนามเขียว ดังนั้นวิวจึงไม่แตกต่างจากเดิมนัก เพียงแต่สลับข้าง ก็ช่วยให้มุมมองแตกต่างบ้างเล็กน้อย แต่บอกตามตรงว่าเมื่อห่างหายไปหลายเดือน วิวที่เคยเห็นจนเบื่อก็ดูสบายตาขึ้นเยอะ คงเป็นเพราะคิดถึงกระมัง


นอกจากวิวเดิมๆ ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อมองไปข้างทางคือเสาไฟส่องสว่าง ที่ต้องมีเพิ่มเข้ามาเพราะทางฟ้าสายนี้จะเปิดให้ปั่นกันยันดึกเลยทีเดียว เพื่อรองรับนักปั่นที่เลิกงานช้า หรือเข้างานเช้า เจียดเวลามาปั่นจักรยานกันไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาอีกต่อไป มีเวลาว่างช่วงไหนก็มาใช้บริการได้เลย และที่น่าสนใจอีกอย่างคือไฟฟ้าที่ส่องทางนี้มีที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถ้าสังเกตจะเห็นแผงรับแสงแดดบนยอดเสาด้วย


เนื่องจาก Sky Lane ยกระดับมาตรฐานขึ้นจากเดิมค่อนข้างมาก จึงมีกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเข้ามาหลายข้อ ดังนี้


กิจกรรมต้องห้ามภายในทางจักรยาน ได้แก่ ห้ามทิ้งขยะหรือสิ่งของลงข้างทาง, ห้ามจอดรถจักรยานบนลู่ปั่นจักรยานและไหล่ทาง หากประสงค์จะจอดพักอนุญาตให้จอดได้เฉพาะจุดพักที่จัดไว้, ห้ามกระทำการใดๆ ที่ส่อไปในทางลามกอนาจารต่อผู้อื่น หรือจงใจกลั่นแกล้งผู้อื่น, ห้ามใช้ไม้เซลฟี่, ห้ามจำหน่ายสินค้าหรือบริการ, ห้ามแจกจ่ายสิ่งพิมพ์หรือสื่อทุกชนิด, ห้ามแสดงสาธิตบรรยายหรือใช้ธงแบนเนอร์หรือป้ายใดๆ เพื่อดึงดูดความสนใจหรือชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ห้ามให้อาหารสัตว์ทุกชนิด, ห้ามเล่นว่าวหรืออุปกรณ์หรือเครื่องบินบังคับ, ห้ามถ่ายภาพถ่ายวิดีโอหรือบันทึกเสียง ยกเว้นสำหรับใช้งานส่วนบุคคล, ห้ามกระทำการใดๆ ที่ไม่ปลอดภัย หรือกีดขวางการใช้บริการของผู้อื่น, ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณลู่ปั่น


หรือของที่ห้ามนำเข้า เช่น อาหาร, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, สัตว์เลี้ยง, ขาตั้งกล้องขนาดใหญ่, สเก็ตบอร์ด, สกูตเตอร์, เก้าอี้พับได้ เป็นต้น


ในช่วงแรกจะเปิดให้บริการเฉพาะลู่ปั่นยาว 23.5 กิโลเมตร และลู่ปั่นจักรยานรอบระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ตั้งแต่ 6.00-18.00 น. โดยการพัฒนาในระยะถัดไปจะเปิดให้บริการตอนกลางคืน เพิ่มโอกาสให้นักปั่นได้มาใช้บริการมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างศูนย์อำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบไฟเพื่อรองรับนักปั่นกลางคืน จุดบริการอุปกรณ์จักรยาน ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตอบครบทุกความต้องการของนักปั่นทั้งมือใหม่และมืออาชีพ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสที่สองได้ในช่วงต้นปี 2559


การได้กลับมาปั่นจักรยานที่นี่อีกครั้ง สำหรับบางคนคือการได้ระบายที่อัดอั้นมาหลายเดือน แต่สำหรับผมนี่คือการได้ออกไปสู่เส้นขอบฟ้าอีกครั้ง