คืบก็ทะเลทราย ศอกก็ทะเลทราย ในกาเมห์

คืบก็ทะเลทราย ศอกก็ทะเลทราย ในกาเมห์

ไปทะเลทราย ไม่ได้ขี่อูฐก็เหมือนมาไม่ถึง เป็นคำพูดที่คิดเองเออเอง และไม่ได้จริงเสมอไป

เหมือนคำพูดที่ว่าไปทะเล แล้วไม่ได้เล่นน้ำทะเลก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะชีวิตจริงก็มีหลายครั้งที่ไปทะเลแล้วเท้าไม่ได้สัมผัสน้ำทะเลด้วยซ้ำ


แต่เมื่อไม่ได้มีโอกาสไปทะเลทรายกันง่ายๆ ก็ต้องจัดให้สาสมแก่ใจเสียหน่อย


หลังจากคราวก่อนๆ ได้มีโอกาสทั้งไปค้างคืน และปิกนิกกลางทะเลทรายมาแล้ว วันนี้ผมตื่นแต่เช้าอีกครั้ง เพราะมีนัดกับควาญอูฐแห่งทะเลทรายของกาเมห์ ทางภาคกลางของอิหร่าน ผ่านความช่วยเหลือของ มาร์เชีย เจ้าของโฮมสเตย์ อเทชูนีย์ (Ateshooni) หนึ่งเดียวของหมู่บ้านนี้ ที่ช่วยเป็นธุระจัดหาให้


ตอนสอบถามมาร์เซีย เขาก็ย้ำนักย้ำหนาว่าปกติแล้วคนมักจะนิยมมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การขี่อูฐเดินเล่นในทะเลทราย ส่วนผมมาในช่วงเพิ่งสิ้นสุดฤดูหนาว ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นอีก ส่วนชาวอิหร่านที่พักในโฮมสเตย์เดียวกัน ล้วนคุ้นชินกับการขี่อูฐมากันแล้ว จึงไม่มีใครอยากไปร่วมทางด้วย


การจะไปขี่อูฐนั้น ธรรมดาจะต้องมีคนอย่างน้อย 4 คน เพื่อหารกันไป เหมือนกับการแชร์ค่ารถแท็กซี่ แต่ในกรณีของผมที่มีคนเดียว แน่นอนว่าจะต้องจ่ายแพงขึ้น มาร์เซียถามผมว่าจะยอมจ่ายหรือไม่ เมื่อดูตัวเลขแล้วก็อยู่ในราคารับไหว ผมจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลง เป็นอันว่าผมซื้อทริปขี่อูฐครึ่งวันเพียงลำพัง ในราคาพันกว่าบาทไทย


หลังมื้อเช้า มาร์เซียก็ห่ออาหารกลางวันให้ผมติดมา แล้วให้รถมาส่งผมที่จุดนัดพบ รอได้สักพัก ควาญอูฐก็ค่อยๆ เดินพ้นมุมถนนออกมาพร้อมอูฐ 1 ตัว เดี๋ยว..หลังอูฐตัวนั้นยังมีอูฐตามมาอีก 2 ตัว ผมเปิดประตูลงจากรถ และพบว่าเขานำอูฐมาให้ผมขี่คนเดียวทั้งหมด 3 ตัวถ้วน


“ให้ผมขี่ตัวไหนครับ” ผมถาม


“ตัวไหนก็ได้ เลือกเลย ของคุณหมดนี่เลย” เขาตอบ


สำหรับประสบการณ์ในการขี่อูฐในครั้งนี้ เป็นไปอย่างเนิบๆ ไม่ได้หวือหวาหรือพิสดารมากมาย อูฐก็เดินไปเรื่อยๆ มีภาพของทะเลทรายกว้างใหญ่เป็นฉากหลัง มีเสียงดนตรีอิหร่านจากวิทยุทรานซิสเตอร์ของควาญอูฐ เป็นเพลงประกอบ


อันที่จริงแล้วผมกับพี่ควาญอูฐนี่สื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับ ก็อาศัยทำท่าทำทางเอา พอถึงตอนจะกินอาหารกลางวัน แกก็หันมาถามประมาณว่าจะให้หยุดอูฐ แล้วลงมานั่งกินมื้อเที่ยงกับพื้นไหม ผมก็บอกทำนองว่าตกลง แต่ไหงแกดันเดินต่อไม่หยุดก็ไม่รู้ มื้อนั้นผมจึงจัดการสำเร็จมันเสียบนหลังอูฐนั่นแล


นั่งอยู่บนหลังอูฐได้เกือบ 3 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมงที่ไม่เจอสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นเลยในทะเลทราย จนกระทั่งเดินหลุดออกมาถึงถนน ก็พอมีรถขับผ่านอยู่บ้าง สังเกตุป้ายตามท้องถนน ถ้าเป็นบ้านเราก็จะเป็นป้ายระวังช้าง ที่มีให้เห็นตามเขาใหญ่ แต่ของที่อิหร่านนี่เป็นป้าย”ระวังอูฐ” ก็ดูสมเหตุสมผลดี
เส้นทางของการขี่อูฐ มาสิ้นสุดลงที่เกือบ 4 ชั่วโมง เป็นเวลาเดียวกับที่ขาหนีบเริ่มระบมพอดี ได้นั่งพักซักครู่ รถคันเดียวกันกับที่มาส่งก็มารับผมกลับไปยังโฮมสเตย์ เมื่อมาถึงผมหลับเป็นตายทันที 4 ชั่วโมงรวด มารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบได้เวลาอาหารค่ำ


เมื่อลงมาที่ห้องโถงกลางก็พบว่ามีแขกกลุ่มใหญ่มาเพิ่มกันเต็มไปหมด พวกเขาคือกลุ่มวิศวกรจากเมืองตาบลิซ (Tabliz) ทางภาคเหนือของอิหร่าน ที่รวมตัวกันปั่นจักรยานแรลลี่ ความนิยมปั่นจักรยานไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยนะครับ


และตามเคย ทุกคนตกใจว่าหนุ่มไทยหน้าจีนอย่างผม ดั้นด้นมาถึงที่นี่คนเดียวได้อย่างไร พากันผลัดเปลี่ยนมาสัมภาษณ์ผมไม่ขาดสาย เมื่อได้พูดคุยกับคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มของพวกเขา จึงเพิ่งนึกออกว่าวันรุ่งขึ้น เป็นวันครบรอบ 36 ปี การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ที่เป็นการเริ่มเปิดฉากการเป็นรัฐอิสลามของอิหร่านที่มีแนวคิดต่อต้านโลกตะวันตก จนกระทั่งความสัมพันธ์กับนานาชาติเริ่มดีขึ้นในปัจจุบัน หลังจากมีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก


หัวหน้ากลุ่มนักปั่นบอกผมว่า ข้อดีของวันครบรอบปฏิวัติอิสลาม คือมันเป็นวันหยุด


เราพูดคุยกันสนุก กระทั่งเขาถามถึงทริปขี่อูฐของผมในวันนี้ว่ามีราคาเท่าไหร่ จากนั้นจึงเลยไปถึงเรื่องค่าเงินระหว่างเงินบาทของไทย กับเงินเรียลของอิหร่าน โดย ณ เวลานั้น 1 บาท มีค่าราว 840 เรียล สีหน้าของเขาดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกผมว่าเขารู้สึกเศร้า เพราะค่าเงินของอิหร่านดูไม่มีค่า


เขาเล่าให้ผมฟังต่อไปว่า ถึงคนอิหร่านจะดูเป็นมิตร ชีวิตมีความสุข แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเท่าไหร่นัก ทุกคนล้วนมีความฝันที่อยากจะมีบ้านหลังใหญ่ๆ อยากมีรถยนต์คันงาม แต่เงินเดือนโดยเฉลี่ยของพวกเขาอยู่ในระดับที่น้อยมาก คนอิหร่านจึงเป็นหนี้ธนาคารกันเพียบ เพราะกู้เงินซื้อรถซื้อบ้านกัน กว่าจะได้ลืมตาอ้าปาก หลุดพ้นจากหนี้ ก็แก่เฒ่ากันเสียแล้ว


หลังบทสนทนาชวนเศร้า ก็เข้าสู่ช่วงบันเทิง มาร์เซียหยิบเอาเครื่องดนตรีของเขาขึ้นมาเล่น สมาชิกกลุ่มนักปั่นบางคนก็หยิบกีตาร์ขึ้นมาแจม ที่เหลือก็เต้นรำกันสนุกสนานตามสไตล์อิหร่าน


เมื่องานเลี้ยงเลิกรา กลุ่มนักปั่นยังแสดงให้เห็นความเป็นมิตรของชาวอิหร่านอีกครั้ง เมื่อเขาบอกผมว่าหนึ่งในพวกเขาเจ็บหลัง พรุ่งนี้คงปั่นจักรยานไม่ไหว จะมาปั่นด้วยกันก็ได้นะ จักรยานเหลือ!