อาลัยลา มนต์ เมืองเหนือ

อาลัยลา มนต์ เมืองเหนือ

ลุงมนต์เป็นคนมีมุมมองเฉียบคมในการคิด เลือกเพลง หรือคิดพล็อตเพลงให้นักแต่งได้เขียนให้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำอะไรออกมาก็ถูกใจตลาด ขายดิบขายดี




จั่วหัวคอลัมน์เช่นนี้ หลายคนจะนึกถึงเพลง ‘มนต์เมืองเหนือ’ ของบรมครู ไพบูลย์ บุตรขัน ที่ร้องว่า “ป่าเหนือเมื่อหน้าดอกไม้บาน ลมฝนบนฟ้าผ่านฟ้ามองดังม่านน้ำตา....” ซึ่งชื่อเพลงนี้ เป็นที่มาของการตั้งชื่อบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในวงการที่เพิ่งล่วงลับไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา นั่นคือ ลุงมนต์ เมืองเหนือ หรือ อาจารย์มนต์ ที่ใครๆ เรียกกัน ชื่อจริงของท่าน คือ นาย เฉลียว ฉิมมา เป็นชาวจังหวัดพิจิตร นักปั้นมือทองของวงการลูกทุ่งที่สร้างประวัติศาสตร์หลายหน้าให้แก่วงการ

ผมได้พบหน้าลุงมนต์ ที่บ้านครูไพบูลย์ บุตรขัน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่งานนั้น แขกเหรื่อเต็มบ้านครู จึงไม่ได้มีโอกาสทักทายหรือพูดคุยกันเลย

ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตเพียง 1 วัน ลุงมนต์ได้ไปบันทึกเทปรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งในช่องเฉลิมกรุงทีวี กับ สัมพันธ์ พัทลุง ซึ่งลุงบอกว่า ต้องการบันทึกเรื่องราวในวงการลูกทุ่งที่ลุงคลุกคลีมา ข้อมูลต่างๆ มักจะผิดเพี้ยน จึงขอเล่าด้วยปากของตนเอง ทราบมาว่า บันทึกไว้ได้เพียง 5 ตอน หลังจากนั้นเข้าวันใหม่ ลุงมนต์ก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ สร้างความตกใจและเสียใจให้คนในวงการ เพราะคาดไม่ถึง ดูจากภายนอกร่างกายลุงยังแข็งแรง ออกงานต่างๆ ได้ตามปกติ

สมัยที่ผมเรียนจบใหม่ๆ ด้วยใจมุ่งมั่นที่จะทำงานในสายเพลงลูกทุ่ง ผมเคยไปสมัครงานกับลุงมนต์ เมืองเหนือ ที่บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (ชื่อในขณะนั้น) ซึ่งลุงมนต์ที่กำลังเฟื่องฟูกับการสร้างนักร้องและเพลงดังๆ มากมาย ปลีกเวลาให้เข้าพบด้วยความยินดี

ลุงมนต์เล่าเรื่องราวอะไรต่างๆ ให้ฟังมากมาย พร้อมทั้งโชว์กรอบรูปที่บรรจุตัวอักษรชื่อของนักร้องต่างๆ ที่ลุงได้ร่วมงานและปั้นให้มีเพลงดังมา น่าเสียดายที่ยุคนั้นไม่มีกล้องดิจิตอลหรือโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพได้ทันทีอย่างวันนี้ ผมจึงไม่ได้บันทึกภาพนั้นไว้

คุยไปคุยมานานพอสมควร จนเพลินทั้งผมกับลุงไม่ได้พูดถึงการสมัครงานเลย ผมเดินทางกลับด้วยความอิ่มเอิบใจ เพราะการได้เข้าพบกับผู้ใหญ่ระดับนี้ (ลุงมนต์ ดูแลแผนกเพลงลูกทุ่งทั้งหมดในอาร์เอสยุคนั้น) มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เพราะลุงมนต์เป็นคนตรงๆ เคยมีนักข่าวบางคนจะขอสัมภาษณ์ลุงในงานแห่งหนึ่ง ในขณะที่ลุงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ลุงก็บอกว่า ผมไม่ใช่มนต์ เมืองเหนือ แล้วเดินหนีเลย

ผมมาพบลุงมนต์เวลาต่อมาในช่วงที่ท่านทำนักร้องใหม่ๆ แล้วแบกลังแผ่นซีดีมามอบที่สถานีวิทยุลูกทุ่งเอฟเอ็ม ในขณะที่ผมเป็นนักจัดรายการวิทยุอยู่ ลุงมนต์เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี และยกมือไหว้ผมก่อน จนแทบรับไหว้ไม่ทันกันเลย เล่ากันว่า สมัยก่อนไมตรีจิตระหว่างคนทำเพลงกับนักจัดรายการเป็นไปอย่างอบอุ่นแน่นแฟ้น เดินไปฝากแผ่นที่สถานีวิทยุ ช่วยกันเปิดช่วยกันเชียร์ ไม่ต้องจ่ายเงินหรือเสียค่าลิขสิทธิ์แบบทุกวันนี้

อีกครั้งหนึ่งที่ได้สัมภาษณ์ลุงในหนังสือพิมพ์ ‘คมชัดลึก’ ทางโทรศัพท์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ลุงมนต์ พูดถึงบริษัทฯอย่างชื่นชม และให้เกียรติให้กำลังใจคนรุ่นใหม่ที่มาทำหน้าที่แทนหลังจากลุงได้ออกมา

สิ่งที่ลุงมนต์ได้สร้างนักร้องและบทเพลงมามากมายในวงการ ตั้งแต่ก่อนยุคอาร์เอส เท่าที่ได้คุยกับหลายๆ ท่านทั้ง คุณชัย ศิษย์ประเสริฐ , สีนวล นพดล ที่อยู่ใกล้ชิด และซึ่งเคยเป็นทหารลูกจ้างที่เกียกกาย กรุงเทพฯ และเวลาว่างก็ไปร้องเพลงวงดนตรี ได้คนละ 20 บาท โดยไปกับ ดาวฤกษ์ เรวดี (ปัจจุบันใช่ชื่อ ดาว ฤกษ์ดี) และลุงมนต์ เคยนักร้องอัดแผ่นเสียงเพลงมาก่อน เช่นเพลง ‘มนต์เมืองแพร่’ หลังจากนั้นมาประสบความสำเร็จจากการทำแผ่นเสียงตรา ‘กระต่ายคู่’ เพลง ‘พี่ไปหลายวัน’ ขับร้องโดย ชาย เมืองสิงห์ งานชุดนี้ทำให้ชื่อของมนต์ เมืองเหนือ เกิดในวงการ

นอกจากนี้ ยังมีเพลง ‘อีลุ๊บตุ๊บป่อง’ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ‘ข้าวไม่มีขาย’ ‘ใจจะขาด’ ศรเพชร ศรสุพรรณ ‘ทหารเรือมาแล้ว’ ‘โชเล่ย์พเนจร’ ยอดรัก สลักใจ ‘จดหมายเป็นหมัน’ ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด ‘ร้องไห้กับเดือน’ คัมภีร์ แสงทอง ‘เซิ้งสวิง’ ‘ข้าวเหนียวติดมือ’ พนม นพพร ‘อำนาจใบแดง’ ‘ทหารพิการรัก’ มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย ‘เราคนจน’ ‘หน้าอย่างเธอจะรักใครจริง’ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง ‘ครูรำพึง’ สุนารี ราชสีมา (ตอนนั้นใช้ ชื่อ ‘ทับทิม นิยมทอง’) ฯลฯ
มนต์ เมืองเหนือเป็นผู้เปลี่ยนชื่อจาก น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ เป็น ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ พามาบันทึกเสียงเพลง ‘รักไม่อันตราย’ ในปี พ.ศ. 2519 ร้องแก้กับเพลง ‘รักอันตราย’ ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด ซึ่งถือเป็นบันทึกสำคัญของหน้าหนึ่งในวงการ

ลุงมนต์ เป็นคนมีมุมมองเฉียบคมในการคิด เลือกเพลง หรือคิดพลอตเพลงให้นักแต่งได้เขียนให้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำอะไรออกมาก็ถูกใจตลาด ขายดิบขายดี จนกระทั่ง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในยุคแรกเริ่ม ที่ใช้ชื่อ โรสซาวด์ อยู่ตึกแถวๆ โรงหนังโคลีเซี่ยม ได้ชักชวนลุงมนต์ เป็นหนึ่งในเสนาธิการที่ทำให้ค่ายอาร์เอส กลายเป็นมหาอำนาจด้านเพลงลูกทุ่งเลยทีเดียว

ลุงมนต์ เมืองเหนือ ได้นำ สันติ ดวงสว่าง มาเข้าสังกัดค่ายอาร์เอส และยังมีผลิตมาสเตอร์เสียงเพลงคุณภาพของชาย เมืองสิงห์ ผ่องศรี วรนุช ยอดรัก สลักใจ สายัณห์ สัญญา ศรเพชร ศรสุพรรณ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เสรี รุ่งสว่าง สุรชัย สมบัติเจริญ สุรชาติ สมบัติเจริญ อาภาพร นครสวรรค์ พรทิพย์ แสงอุทัย วงเดือน ชไมพร ฯลฯ

บทเพลงที่สร้างชื่อเสียงและทำรายได้มหาศาลให้แก่ค่ายอาร์เอสฯ กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการ คือเพลง ‘รักน้องพร’ โดย สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เพลงนี้ทำให้ชื่อของสดใส กลับมาผงาดอีกครั้ง
ในช่วงท้ายๆ ในชีวิต ลุงมนต์ เคยดำรงตำแหน่ง สจ.ทับคล้อ พิจิตร ซึ่งต่อมาวางมือให้แก่ลูกชาย ชื่อ สจ.สมพร ฉิมมา รับไม้ต่อ และลุงหันมาผลิตยาสมุนไพร ขายในชื่อ ‘455’ ตรา รูปอาจารย์มนต์ เมืองเหนือ ให้นักจัดรายการวิทยุขายในสถานี ตระเวนไปทั่วประเทศจนร่างกายอ่อนแอ

ร่างไร้วิญญาณ ของมนต์ เมืองเหนือ ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ จนถึงวันพรุ่งนี้ (8 ตุลาคม) ก่อนจะบรรจุศพเก็บไว้100วัน เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป

ขอไว้อาลัยและระลึกถึง มนต์ เมืองเหนือ อัจฉริยะอีกคนหนึ่งในวงการลูกทุ่ง ผู้สร้างชีวิตให้นักร้องหลายคน และสร้างสรรค์บทเพลงลูกทุ่งดีๆ ฝากไว้ในแผ่นดิน.