หนึ่งปีที่ไม่มี โรบิน วิลเลียมส์

ช่วงระหว่างปีที่ผ่านมา เรื่องราวของเขาก็ยังเกิดขึ้นและกลายเป็นหัวข้อสนทนามาอย่างต่อเนื่อง
นักแสดงและดาวตลกชื่อดัง โรบิน วิลเลียมส์ พรากชีวิตตัวเองไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้โลกทั้งใบตกตะลึง เขาทิ้งผลงานอันยิ่งใหญ่จำนวนมากมายเอาไว้ในฐานะศิลปินผู้เป็นที่รักของคนทั้งโลก
ข่าวการตายของ วิลเลียมส์ เขย่าทั้งประเทศ ช่องข่าวต่างๆ แทรกรายการปกติที่กำลังออกอากาศอยู่ด้วยการแจ้งข่าวดังกล่าว และประธานาธิบดีบารัก โอบามา ยังได้มีบันทึกถึงการจากไปของเขาด้วย
วิลเลียมส์ ได้แสดงกว่า 60 บทบาทตลอดอาชีพนักแสดงของเขา เช่นเดียวกับเครดิตในส่วนอื่นๆ และช่วงระหว่างปีที่ผ่านมา เรื่องราวของเขาก็ยังเกิดขึ้นและกลายเป็นหัวข้อสนทนามาอย่างต่อเนื่อง
หนังเรื่องสุดท้าย Absolutely Anything
วิลเลียมส์ เป็นที่จดจำจากบทบาทมนุษย์ต่างดาวที่น่ารักในซีรีส์โทรทัศน์ เรื่อง Mork & Mindy และในหนังหลายเรื่องอย่าง ‘Good Will Hunting’ ‘Dead Poets Society’ ‘Mrs. Doubtfire’ และ Good Morning, Vietnam
1 ในหนัง 2 เรื่องสุดท้ายที่จะออกฉาย คือ Absolutely Anything แอนิเมชันตลกกำกับโดย เทอร์รี โจนส์ ซึ่งวางตารางไว้ว่าจะเข้าฉายในเดือนนี้ โดย วิลเลียมส์ ได้ให้เสียงเป็นตัวละครชื่อ เดนนิส สุนัขของครูผู้ได้รับพลังพิเศษจากมนุษย์ต่างดาว
ส่วนการแสดงครั้งสุดท้ายบนจอหนังของ วิลเลียมส์ คือในเรื่อง Boulevard ที่เข้าฉายไปเมื่อเดือนที่แล้ว วิลเลียมส์ รับบทเป็นโนแลน ผู้จัดการธนาคารวัย 60 ที่พบทางตันในหน้าที่การงานและชีวิตสมรส เขาอดกลั้นความเป็นคนรักเพศเดียวกันมาตลอดจนกระทั่งได้พบกับโสเภณีหนุ่มข้างถนน
ศึกชิงมรดกไม่จบง่ายๆ
จนถึงตอนนี้ ครอบครัวของ วิลเลียมส์ ยังคงต่อสู้กันในศาลเพื่อแบ่งทรัพย์สมบัติของเขาซึ่งมีมูลค่าโดยประมาณมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์
วิลเลียมส์ ได้ทิ้งทรัพย์สมบัติให้กับลูกๆ ของเขาทั้ง โคดี้ วัย 23 ปี และเซลดา วัย 25 ปี ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาคนที่สอง เช่นเดียวกับ แซคคารี วัย 31 ปี ลูกชายที่เกิดจากภรรยาคนแรก
ซูซาน ชไนเดอร์ วิลเลียมส์ ผู้ที่แต่งงานกับเขาก่อนเขาเสียชีวิต ได้ยื่นฟ้องร้องเมื่อเดือนธันวาคม กล่าวหาว่า ลูกๆ ของนักแสดงชื่อดังกำลังอ้างสิทธิในเหตุการณ์ หรือสิ่งของแห่งความทรงจำที่สามีได้มอบให้เธอ เช่น “ของเล็กๆ น้อยๆ และสิ่งของอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียงของเขา”
แต่ลูกๆ ของ วิลเลียมส์ โต้กลับไปว่า ของเล็กน้อยของเขาอย่าง โปสเตอร์หนังและสิ่งตีพิมพ์ที่มีลายเซ็นของเขา รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของเขาล้วนเป็นของลูกๆ ภายใต้ข้อตกลงด้านทรัพย์สมบัติ
ศาลได้ให้เวลาภรรยาของ วิลเลียมส์ และลูกๆ ของเขาได้แก้ปัญหาความแตกต่างทั้งหลาย เมื่อเดือนมิถุนายน มีรายงานระบุว่า ลูกๆ ของนักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับกับ ซูซาน ชไนเดอร์ วิลเลียมส์ ได้ตกลงแก้ปัญหาผ่านการเจรจาและการไกล่เกลี่ย ทั้งยังมีข้อตกลงถึงแนวทางการแจกจ่ายสิ่งของบางชิ้น ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ยังรอการจัดการ
การตายที่เปิดประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้า...แต่ก็ไม่นานนัก
นักแสดงดีกรีออสการ์วัย 63 ปี ที่ต่อสู้กับการติดยาเสพติดและโรคซึมเศร้าได้เสียชีวิตลงด้วยการผูกคอตายที่บ้านของของในแคลิฟอร์เนีย การตายของเขากระตุ้นให้เกิดการถกเถียงกันถึงอาการผิดปกติทางจิตใจ โรคซึมเศร้า และการฆ่าตัวตาย ท่ามกลางความตกตะลึงของแฟนๆ และเพื่อนคนดังทั้งหลาย มิตรสหายที่ใกล้ชิดกับนักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับมากที่สุดจำนวนหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาพอรู้ว่า วิลเลียมส์ ปลีกตัวออกไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2010 กับ มาร์ค มารอน ในรายการพอดแคสต์ WTF วิลเลียมส์ บอกว่า เขาคิดว่าจะฆ่าตัวตาย
ในช่วงหลายเดือนที่นำไปสู่การตายของเขา วิลเลียมส์ ต้องดิ้นรนหลังจากช่องซีบีเอสยกเลิกซีรีส์โทรทัศน์ The Crazy Ones ของเขา และยังต้องต่อสู้กับการเลิกยา
“เขาเริ่มติดต่อไม่ได้” และ “ไม่ค่อยโทรกลับ” ริค โอเวอร์ตัน ดาราตลกเพื่อนร่วมงานของ วิลเลียมส์ บอกกับนิตยสารไทม์สอย่างสั้นๆ หลังจากการตายของนักแสดงชื่อดัง “เขาก็ยังส่งข้อความและอะไรทำนองนั้น แต่มันสั้นลงเรื่อยๆ”
การตายของ วิลเลียมส์ ทำให้นึกถึงความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต และผู้อ่านไทมส์หลายคนบอกว่า พวกเขาหวังว่าการตายของ วิลเลียมส์ จะสร้างความตระหนักถึงผลกระทบจากโรคซึมเศร้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นกับใครบางคนที่สำคัญเช่นคุณ”
เวนดี้ เวอร์ริส ผู้อาศัยอยู่ในลอสแองเจลีสเน้นว่า แม้การตายของ วิลเลียมส์ จะเป็นโศกนาฏกรรม มันก็ไม่ได้ทำให้เธอตกใจมากมาย “หวังว่ามันจะทำให้วัฒนธรรมของเราอับอายจนเกิดการจัดการภาวะซึมเศร้าขึ้นอย่างจริงจังเสียที” เธอเขียนไว้อย่างนั้น
แม้ว่าการตายของ วิลเลียมส์ จะทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างเข้มข้นต่อประเด็นสุขภาพจิตและโรคซึมเศร้า การโต้เถียงกันก็ดูจะจางหายไปหากมีผลลัพธ์ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมขึ้นมา







