วธ.ฟื้นรายการ'ภาษาไทยวันละคำ'เริ่ม29ก.ค.
วธ.ฟื้นรายการ“ภาษาไทยวันละคำ”เริ่ม29ก.ค.-แอ๊ดคาราบาว-แกงส้ม รับรางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) แถลงข่าวการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติปี 2558 ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิเช่น ราชบัณฑิตยสถาน กรมประชาสัมพันธ์ และสถานศึกษาต่าง ๆ จัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติในวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม 2558 เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงคุณค่าและตระหนักถึงการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งเมื่อ 53 ปี ก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จไปร่วมการสัมมนาภาษาไทยที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่มาของการกำหนดให้วันที่ 29 ก.ค.ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ และแสดงให้เห็นอัจฉริยภาพของพระองค์ ที่ทรงแสดงความห่วงใยการใช้ภาษาไทยไว้ล่วงหน้า จึงได้มีการจัดกิจกรรมในวันที่ 29 ก.ค.ของทุกปี เพื่อรำลึกถึงวันภาษาไทยแห่งชาติ
ทั้งนี้ วธ.ได้คัดเลือกบุคคลที่มีผลงานสร้างสรรค์ด้านการใช้ภาษาไทย หรือภาษาถิ่นได้อย่างเหมาะสม เป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาไทย รวมถึงบุคคลหรือองค์กรที่มีบทบาทในการส่งเสริม สร้างคุณประโยชน์ต่อวงการภาษาไทยหรือภาษาไทยถิ่นอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์ ดังนี้ 1.ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทยได้แก่ ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ 2.ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นจำนวน 6 ราย ได้แก่นายกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ ,นางสาวนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ,นายประพันธ์ หิรัญพฤกษ์ ,นายประภาส ชลศรานนท์ ,นางศรีนวล ขำอาจ,ผศ.สกุล บุณยทัต 3.ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น ได้แก่ นายเกริก อัครชิโนเรศ ,นางนวลจันทร์ ไชยวงศ์ ,นายปฐม มุสิกะ , นายวิจิตร ดำประสิทธิ์ ,นายศรีเลา เกษพรหม 4.ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย ได้แก่นายประเสริฐ รักษ์วงศ์ ,นางปราณี ปราบริปูง โดย วธ.จะจัดพิธีมอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย ในวันภาษาไทยแห่งชาติ 29ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงาน
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น วธ.ยังได้จัดกิจกรรมประกวดเพลง “เพชรในเพลง “ ด้วย คัดเลือกบุคคลในวงการเพลงอาทิ นักแต่งเพลง หรือศิลปินนักร้อง เพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลง ผู้มีผลงานดีเด่นด้านการใช้ภาษาไทย และสนับสนุนให้มีการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีคุณภาพทั้งการประพันธ์คำร้องและผู้ขับร้อง เข้ารับรางวัล ในวันภาษาไทยแห่งชาติเข่นเดียวกัน ดังนี้1.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลงไทยเดิมได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์พูนพิศ อมาตยกุล 2.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลงไทยสากลได้แก่ นายกุลชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา 3.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลงไทยลูกทุ่งได้แก่ นายชานนท์ ภาคศิริ (สุรินทร์ ภาคศิริ) 4.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษเพลงชุดดีเด่นสำหรับเด็กได้แก่ ชุดเด็กเจื้อยแจ้ว ผู้บริหารโครงการโดย นางพรพรรณ ชัยนาม
5.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษวงดนตรีเพลงสำหรับเด็กได้แก่ วงอุ่นไอวัยเยาว์ ผู้ควบคุมวง นายอนุสรณ์ สายนภา 6.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษรายการโทรทัศน์ผู้สร้างโอกาสศิลปินลูกทุ่งได้แก่ รายการชิงช้าสวรรค์ ผู้อำนวยการผลิตรายการ นายปัญญา นิรันดร์กุล 7.รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีตจำนวน 3 ประเภท ได้แก่ประเภทเพลงไทยสากลได้แก่ เพลงชาวดง ผู้ประพันธ์ นายวิมล จงวิไล,ประเภทเพลงไทยลูกทุ่งได้แก่ เพลงอีสานบ้านเฮา ผู้ประพันธ์ นายพงษ์ศักดิ์ จันทรุขา , ประเภทเพลงส่งเสริมคุณธรรมได้แก่ เพลงรักกันไว้เถิด ผู้ประพันธ์ นายนคร ถนอมทรัพย์
8.รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทยจำนวน 3 ประเภท ได้แก่ประเภทการประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงวันพรุ่งนี้ ผู้ประพันธ์ นายประภาส ชลศรานนท์ รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงอยากได้ยิน ผู้ประพันธ์ นายยืนยง โอภากุล และเพลงหัวใจ ให้แผ่นดิน วิญญาณให้ความรัก ผู้ประพันธ์ นายสุทธิพงษ์ สมบัติจินดาประเภทการประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงทวงรักฝากลม ผู้ประพันธ์ นายบำเรอ ผ่องอินทรกุล (โน้ต เชิญยิ้ม) รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงกระเป๋าสมปอง ผู้ประพันธ์ นายกิตติศักดิ์ มีสมสืบ (ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)และเพลงพรจากปากแม่ ผู้ประพันธ์ นายสัญญารักษ์ ดอนศรีฐิติโชติ (สัญลักษณ์ ดอนศรี) ประเภทการประพันธ์คำร้องเพลงส่งเสริมคุณธรรม รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงนารีรัตนา ประพันธ์โดย นายสุทธิพงษ์ สมบัติจินดา และศิลปินในโครงการปทุมมาสิกขาลัย รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก ประพันธ์โดย ฐิตว์โสภิกขุ และเพลงสัจจะอุบาสก อุบาสิกา ประพันธ์โดย นางวาณี จูฑังคะ
9.รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นภาษาไทยจำนวน 4 ประเภท ได้แก่ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงอยากได้ยิน ขับร้องโดย นายยืนยง โอภากุล รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงหัวใจให้แผ่นดิน วิญญาณให้ความรัก ขับร้องโดย นายณัฐพนธ์ วงษ์สนิท (หวิว ณัฐพนธ์) และเพลงความรักสวยงามเสมอ ขับร้องโดย นายธนทัต ชัยอรรถ (แกงส้ม เดอะสตาร์) ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิงไม่มีผู้สมควรได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงกลางพนา ขับร้องโดย นางดวงดาว เถาว์หิรัญ และเพลงสัจจะอุบาสก อุบาสิกา ขับร้องโดย นางวาณี จูฑังคะ , ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงกระเป๋าสมปอง ขับร้องโดย นายรวมมิตร คงชาตรี (จ่อย รวมมิตรไมค์ทองคำ) รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงขอโง่อีกสักครั้ง ขับร้องโดย นายธนพล สัมมาพรต (แจ็ค ธนพล อาร์สยาม) และเพลงพรจากปากแม่ ขับร้องโดย นายยิ่งคุณ ประจันทอน (แมน มณีวรรณ อาร์สยาม)ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงทวงรักฝากลม ขับร้องโดย นางสาวสุทธิยา รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา ไมค์ทองคำ) รางวัลชมเชย ได้แก่ เพลงกุหลาบในใจน้อง ขับร้องโดย นางสาวฐิตาภา ใต้ไธสง (หญิง ธิติกานต์ อาร์สยาม) และเพลงเมรี ขับร้องโดย นางสาวนิภาพร บุญยะเลี้ยง และนางสาวฐิฆพรณ์ บุญยะเลี้ยง(กระแต และกระต่าย อาร์สยาม)
“ส่วนกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาตินั้น จะมีกิจกรรมหลากหลาย โดยจะมีการออกอากาศคำปราศรัยของนายกฯ และออกอากาศสารคดีความสำคัญของวันภาษาไทยของ วธ. รวมถึงจะมีการออกอากาศตอนแรก ของรายการภาษาไทยวันละคำ ซึ่งฟื้นผลิตรายการใหม่โดยเปลี่ยนชื่อรายการเป็น ภาษาไทยภาษาชาติ ออกอากาศจันทร์-ศุกร์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ช่วงก่อนข่าวพระราชสำนัก นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาภาษาไทยถิ่น 4 ภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ตระหนักเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในภาษาไทยถิ่น ได้แก่ ภาคเหนือ: จังหวัดลำปาง /ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดมหาสารคาม /ภาคใต้ : จังหวัดสุราษฏร์ธานี /ภาคกลาง :จังหวัดเพชรบุรี การฉายภาพยนตร์ทางชาติพันธ์การแสดงลิเกทรงเครื่อง เรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอน พิพากษานางวันทอง และยังร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดสัมมนาการใช้ภาษาไทยของสื่อมวลชน และร่วมกัมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เสวนาทางวิชาการ“มองภาษาไทย ในระดับอุดมศึกษา : เขาเรียนเขาสอนกันอย่างไร”เพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคและวิธีการเรียน การสอนวิชาภาษาไทย เพื่อนำไปสู่การจัดทำนโยบายภาษาไทยแห่งชาติ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี “ รมว.วธ. กล่าว
ด้านนายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า วันภาษาไทยแห่งชาติของทุกปี กรมศิลปากร จะนำหนังสือเก่าหายากมาจัดพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งในปีนี้ กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์หนังสือ“นรางกุโรวาท”ผลงานพระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กแบบไทยวิถีเทียบกับหลักสากลของประเทศญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และ ทั้งนี้ ในส่วนของการประกวดเพชรในเพลงนั้น ซึ่งกรมศิลปากรรับผิดชอบนั้น จะให้ความสำคัญกับศิลปินที่ออกเสียงถูกต้องเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเพลงนั้นเป็นสิ่งที่เข้าถึงประชาชนและเยาวชนอย่างมาก




