“โมเดลบุญ” บารมีของหลวงพ่อคูณ

ย้อนรอยสายธารศรัทธาแห่งหลวงพ่อคูณที่หลั่งไหลมาอย่างไม่มีเงื่อนไข ไร้ข้อต่อรอง กลายเป็น ‘โมเดลบุญ’ แด่ ‘พระ’ ที่ทำเพื่อคนอื่นมาตลอดชีวิต
“กูก็มานึกว่า อยากจะสร้างบารมีในเรื่องบริจาคศพดีกว่าเอาไปเผาทิ้ง...ให้เขาเอาไปเป็นทานเป็นครู เขาจิได้เอาไปพิจารณาหาเหตุผลในเรื่องการแพทย์.....”
ความตั้งใจของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เมืองย่าโม เกจิอาจารย์ชื่อดังของแดนอีสาน ที่ได้ทำพินัยกรรมยกสรีระสังขารของตนเองให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ปี 2547 ทำให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจังหวัดขอนแก่น ได้กลายเป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารของหลวงพ่อ ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ภายหลังจากที่ท่านได้ละสังขาร
หากจะมองว่าเป็นการดำเนินการอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ว่าได้ เพราะท่านเข้าโรงพยาบาลวันที่ 15 พฤษภาคม และมรณภาพในวันถัดมา ทำให้ทุกอย่างกะทันหัน ชุลมุน โดยเฉพาะพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามความตั้งใจของท่าน แทนที่จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในนามของหัวหน้าหน่วยงานที่ต้องเตรียมวางแนวทางการจัดงานอย่างเร่งด่วน ได้กล่าวถึงหลวงพ่อคูณว่า หลวงพ่อเรียบง่าย พูดง่าย สื่อสารง่าย และปฏิบัติให้เห็นจึงเป็นที่ศรัทธา เป็นที่ยอมรับของทุกคน ไม่ใช่แค่คนภาคอีสาน แต่หมายถึงคนทั่วประเทศ
สิ่งที่หลวงพ่อทำเป็นกุศโลบาย การทำวัตถุมงคลก็เป็นกุศโลบายให้คนเข้าวัด รายได้ก็บริจาคหมด ท่านจึงเป็นคนจนที่สุด เงินบริจาคก็นำไปสร้างกุศล ขยายผลต่อเนื่อง ทั้งโรงพยาบาล การศึกษา โดยเฉพาะทางการศึกษา ท่านมีวิสัยทัศน์ที่ยาว จะเห็นว่า การขยายผลด้านวัดยังน้อยกว่าเรื่องการศึกษา
เมื่อท่านละสังขารไปแล้ว คนจึงเห็นว่าท่านเป็นผู้ให้ เมื่อเห็นท่านทำแล้วคนอื่นก็อยากเลียนแบบ เป็น “ศรัทธาที่น่าศรัทธา” เพราะการเลียนแบบท่านคือกุศล คือ สิ่งที่ดี
“ในฐานะเป็นผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัย ในตอนแรกยอมรับว่า หนักใจ จะทำอย่างไรให้สมเกียรติหลวงพ่อที่สุด ให้คนโคราช ลูกหลาน ลูกศิษย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศยอมรับ แต่พอได้ดำเนินการจริงๆ ความเป็นเจ้าภาพของทุกคนในมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทย์ที่ถือว่า เป็นหลักได้ทำอย่างเต็มที่ทุกคน ส่วนคณะอื่นๆ ต่างก็ทุ่มกำลังกายกำลังใจมาช่วย โดยไม่รอคำร้องขอมีแต่เสนอเข้ามามีส่วนอย่างเต็มที่ เช่นวิทยาลัยปกครองท้องถิ่น ก็ขอดูแลเรื่องดอกไม้ตลอดทั้งงาน โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง คณะพยาบาลมาดูแลเรื่องดอกบัวที่ไว้อำนวยความสะดวกประชาชนทุกวัน” อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เอ่ย
และย้ำว่า งานนี้ได้แสดงถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนขอนแก่นทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วย มาร่วมมือกัน ทั้งจังหวัด ทหาร ตำรวจ แม้แต่การไฟฟ้าซึ่งไม่ได้มีการร้องขอไปแต่ก็ได้นำไฟสำรองมาตั้งไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับได้ เทศบาลทั้งที่เทศบาลนคร เทศบาลบ้านเป็ด เมืองเก่า ศิลา และใกล้เคียง ต่างก็นำรถมาขนขยะซึ่งมีจำนวนมหาศาลวันละ 50-60 ตัน มาช่วยโดยไม่ร้องขอค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง
“ทุกคนที่มาช่วยกันมาด้วยใจ นี่คือโมเดลบุญที่ดีที่สุด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความงดงาม แต่จะเกิดขึ้นได้เพราะตัวอริยสงฆ์ หลวงพ่อคูณ ท่านได้สร้างคุณงามความดีให้กับสังคม”
การจัดงานตลอดทั้ง 9 วัน 8 คืน นับตั้งแต่รับสรีระสังขารของหลวงพ่อ จนถึงวันเริ่มบำเพ็ญกุศล และส่งสรีระสังขารให้กับคณะแพทย์ แม้ว่าจะเป็นการจัดงานโดยไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกวัน เพื่อทำให้งานสมเกียรติ ต้อนรับศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ โดยที่แต่ละวันไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน จำนวนจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน คาดว่าที่มาร่วมงานตลอดทั้ง 9 ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน
ทุกอย่างลุล่วงไปอย่างราบรื่นแสดงให้เห็นพลังของคนขอนแก่น ที่ต้องการทำด้วยใจการร่วมกันต้อนรับคนจำนวนมหาศาล ขนาดนี้ต้องเกิดจากพลังแห่งความสามัคคีของทุกคน และอีกสามปีข้างหน้าที่จะคนขอนแก่นจะร่วมกันทำบุญใหญ่อีกครั้งคือพิธีพระราชทานเพลิงครูใหญ่ ที่สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณจะได้รับพระราชทานเพลิงเช่นเดียวกับครูใหญ่ทุกท่าน ทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ดำเนินการตามเจตนา และเป็นไปตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ ได้ระบุไว้ทุกอย่าง
รวมพลังเจ้าบ้าน
ในขณะที่ กำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น บอกว่า ช่วงระยะเวลา 8-9 วัน ที่คนขอนแก่นทั้งจังหวัดได้เป็นเจ้าภาพได้ร่วมกันจัดงานให้กับอริยสงฆ์ที่ประพฤติชอบเป็นที่ประจักษ์อย่างหลวงพ่อคูณ เป็นพลังของความปิติ ที่อยากร่วมทำภารกิจ ทำหน้าที่ในฐานะพุทธศาสนิกชน และอยากทำให้สมเกียรติหลวงพ่อคูณที่เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วประเทศ และอาเซียน เพราะท่านมีลูกศิษย์จากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ลาว มีตัวแทนจากรัฐบาล และยังมีพระเถระผู้ใหญ่จากประเทศในอาเซียนมาร่วมงาน และยังมีทั้งคนที่ไม่เป็นลูกศิษย์ แต่จากการประพฤติปฏิบัติของหลวงพ่อคูณ ได้เป็นแบบอย่าง ต่างก็อยากมาร่วมงาน
งานครั้งนี้ทำให้คนขอนแก่นได้บุญได้เห็นธรรมมะ ได้เห็นพุทธะอย่างชัดเจน ว่า เราเอาอะไรไปไม่ได้ เราต้องทำความดี เราต้องให้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่ขอนแก่น จะเห็นได้ว่าคนขอนแก่นร่วมมือกันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย หลายคนไปทุกวันเพราะถ้าไม่ไป รู้สึกไม่ได้เป็นเจ้าภาพ ไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน พฤติกรรมของพี่น้องชาวขอนแก่นได้รับการกล่อมเกลาจากเหตุการณ์นี้ ความรู้สึกเป็นเจ้าของบ้านด้วย ต้องทำหน้าที่ดูแลแขกที่มา ไม่ให้งานของหลวงพ่อคูณขาดตกบกพร่อง
“หลวงพ่อคูณอุทิศร่างของท่านให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือว่าเป็นการให้เกียรติคนทั้งขอนแก่น เพราะมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ขอนแก่น งานทุกอย่างจึงเกิดความร่วมมือ มีการแบ่งงานกันโดยอัตโนมัติ ปัญหากับงานที่จัดการโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า แต่ด้วยบารมีของหลวงพ่อคูณทุกอย่างไม่ใช่ปัญหา กลับกลายลุล่วง เพราะทุกคนตั้งใจทำดีที่สุด”
ลูกศิษย์ของท่านก็พอใจกับความตั้งใจของคนขอนแก่น ทุกอย่างสมเกียรติ สถานที่ใช้ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกเป็นครั้งแรกที่ใช้ได้คุ้มที่สุด เป็นโลเกชั่นที่สง่างาม สมเกียรติ สะดวก บรรยากาศทุกอย่าเรียบง่าย เหมาะสม ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย พิธีกรรมพิธีการทางศาสนาได้มีเจ้าคณะฝ่ายสงฆ์ พระเถระ สำนักพุทธศาสนา จากหลายจังหวัดทั้งขอนแก่น นครราชสีมา นครสวรรค์ มาช่วยกันทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เหมาะสมกับสถานการณ์ จะเห็นได้ว่าการจัดให้มีพิธีสวดพระอภิธรรมรอบพิเศษ ในช่วงบ่ายในบางวัน บางวันสองรอบ ก็ทำโดยการพิจารณาของพระผู้ใหญ่ซึ่งเห็นว่าทำได้เหมาะสมสอดคล้อง เพราะคนมาร่วมงานในแต่ละวันมีจำนวนมหาศาล
“ต้องยอมรับว่าเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารอริยสงฆ์ที่เป็นครูใหญ่ ไม่ใช่การปฏิบัติกับพระทั่วไปที่มรณภาพ ที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ภาพแห่งความงดงามเกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เกิดจากความศรัทธาของทุกคนที่มีต่อหลวงพ่อคูณ ทุกคนเข้ามามีบทบาท ตั้งแต่คำสั่งยังไม่ตั้ง ร่างไว้แล้วแต่ยังไม่ส่ง ทุกคนรู้ว่า ตัวเองต้องอยู่ฟังก์ชั่นไหน ทั้งตำรวจที่เตรียมกำลังไว้เพื่อทั้งด้านความปลอดภัย อำนวยสะดวกด้านการจราจร ทหารก็เข้ามาเสริม และเป็นเรี่ยวแรงสำคัญตลอดทั้งงาน ด้านการขนส่งก็มีผู้ใจบุญมาขอมีส่วน ทำให้การอำนวยความสะดวกในการเดินทางมีระบบ มีรถมากก็จริงแต่ย้ำทุกฝ่ายให้ร่วมมือกันว่าห้ามรถติด ทุกอย่างต้องหมุนเวียน รถบริการฟรีก็เต็มที่ เพราะทุกคนที่เดินทางมีความตั้งใจ มีศรัทธาเช่นกัน
โรงทานที่เกิดขึ้นไม่วันละไม่น้อยกว่าพันราย โดยเฉพาะวันหลังโรงทานก็ขยับเพิ่มขึ้น ตามจำนวนคนที่มาร่วมงาน เป็นไปโดยธรรมชาติ ทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจทำบุญ โดยไม่มีการร้องขอ คนที่อยากมีส่วนร่วมก็นำเงินมาร่วมกับผู้เปิดโรงทาน เห็นคนทำโรงทานแล้วไม่เหน็ดไม่เหนื่อย ตำรวจที่ทำงานคอยโบกรถแม้ว่าจะอ่อนล้าจนแขนเดี้ยง แต่เห็นแล้วปลื้มมาก ทำด้วยความเต็มใจทำด้วยความสุข
“ในพิธีกรรมตอนเช้าก็มีพิธีกรรมที่เหมาะสม เช่นสวดมาติกา บังสุกุลสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาค่ำ เลี้ยงพระเพลมีบรรยากาศผลัดกันเข้ามาเป็นเจ้าภาพ มีบางรายมาขอสวดพระอภิธรรมรอบพิเศษ ต้องจัดให้ โดยไปกราบนมัสการคณะสงฆ์ ซึ่งท่านเข้าใจว่า เจ้าภาพมีจำนวนมาก เพื่อลดปัญหาไม่ให้แน่นในช่วงค่ำ ก็สามารถจัดได้ทุกอย่างไม่มีปัญหา เข้าใจว่า เป็นสรีระของครูใหญ่ ทำให้ทุกอย่างเรียบง่าย ไม่ยึดติด มีผ่อนสั้นผ่อนยาว ทำให้งานนี้สมเกียรติ สง่างาม ตามความเป็นพุทธะ สมกับที่หลวงพ่อคูณได้ทำความดี ได้ให้เป็นแบบอย่าง ส่งผลให้คนเป็นเจ้าภาพชาวขอนแก่นได้ทำหน้าที่ได้อย่างดี ให้ความภาคภูมิใจแก่ศิษยานุศิษย์ทุกคน รวมทั้งคนที่ไม่ใช่ศิษย์แต่ได้เห็นความดีของท่าน” พ่อเมืองขอนแก่นบอก
ด้าน พลตรีธรากฤต ทับทองสิทธิ์ ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบก ที่ 23 ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ไปร่วมงานทุกวัน บอกว่า งานของหลวงพ่อคูณเป็นแรงศรัทธาในตัวของหลวงพ่อคูณที่ได้ทำไว้ให้เห็น ทุกคนที่เข้าไปทำงานไปร่วมงาน ไม่มีการร้องขอ แต่ทุกคนมีความเต็มใจอยากมีส่วนร่วม มีการเสนอตนเข้าไป เพราะเมื่อหลวงพ่อคูณได้อุทิศสรีระของท่านเพื่อการศึกษา ยกให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นของคนทุกคน ขณะที่หลวงพ่อคูณก็เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วประเทศ
“ในส่วนของทหารเองนั้นได้นำกำลังเข้าไปตั้งแต่ทราบว่า จะมีการนำสรีระของหลวงพ่อมาที่ขอนแก่น โดยไปช่วยด้านการจัดเตรียมสถานที่ ตั้งแต่อาคาร 25 ปี จนกระทั่งเคลื่อนไปสถานที่บำเพ็ญกุศลที่ศูนย์ประชุม และเห็นแล้วว่า งานของหลวงพ่อจะต้องมีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมงานจำนวนมากอย่างแน่นอน ในเมื่อเรามีกำลังเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานทั้ง มทบ.23 ค่าย ร.8 ม.6 และใกล้เคียง สิ่งที่จะลงแรงกันได้คือนำกำลังมาช่วยเจ้าภาพหลักมหาวิทยาลัยขอนแก่น”
สายธารศรัทธา
ความช่วยเหลือด้านกำลังทหาร สารวัตรทหาร ที่เข้ามาเสริมด้านการรักษาความปลอดภัย การจราจร โดยเฉพาะในพื้นที่จอดรถที่กำลังทหารจะเข้าไปดูแลคอยตรวจตราไม่ให้เกิดปัญหามิจฉาชีพ วันละ 100 นาย และเพิ่มกำลังในส่วนรักษาความปลอดภัยเป็นวันละ 200 นายในช่วงสองวันสุดท้าย และยังมีกำลังเจ้าหน้าที่อีก 100 นาย ที่เสนอตัวขอมาช่วยงานในส่วนภายในอาคาร ด้านสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการดูแลรักษาความสะอาด ซึ่งผลัดกันทำสองกะ กลางวัน 50 นาย กลางคืนอีก 50 นาย ทั้งช่วยยกช่วยขนอุปกรณ์อาหาร ทำความสะอาดพื้น ช่วยยกขนขยะ ยกโต๊ะ ยกเก้าอี้ และยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยด้านพิธีการ ทางศาสนา
“ทุกคนจากค่ายทหารไปร่วมงานเพราะอยากทำด้วยความสมัครใจ แม้ตอนแรกจะไปด้วยคำสั่ง แต่สุดท้ายก็ขอไปเองด้วยความเต็มใจ ส่วนตัวผมเองนั้นไม่เคยใกล้ชิดหลวงพ่อคูณเป็นการส่วนตัว ไม่เคยได้เคาะหัว เวลาป่วยก็เห็นหลวงพ่อผ่านกระจกเท่านั้น แต่ผมศรัทธาเคารพในความดีสิ่งที่หลวงพ่อปฏิบัติ สิ่งที่หลวงพ่อให้ และการให้ครั้งสำคัญคือให้สรีระเพื่อการเรียนการสอนแก่คณะแพทย์ ยิ่งมีความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้รับใช้สรีระของหลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” พลตรีธรากฤต กล่าว
และจากการ่วมงานทุกวันทำให้เห็นว่าคนที่มาร่วมงานทุกคนที่มาด้วยศรัทธา ต่างก็ไม่มีเงื่อนไข มีข้อต่อรอง เคารพกฎเกณฑ์ตามกติกาที่กำหนดภายในงาน เพราะทุกคนเห็นร่วมกันว่าคนที่เดินทางมาต่างก็มีจำนวนมาก มาถึงก็นั่งรอต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบ เป็นภาพที่งดงาม เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานในจังหวัดที่มาลงแรง ร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกันทำงานตลอดหลายวัน ก็ได้รู้จักกันได้มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น ดีใจปลื้มใจที่ทุกคนในขอนแก่น ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ทำเพื่อหลวงพ่อคูณผู้เป็นผู้ให้
ด้าน พลตำรวจตรีจิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณทุกส่วนได้ร่วมมือร่วมแรงใจกันเป็นอย่างดี ทำให้งานทุกอย่างลุล่วง โดยในส่วนของตำรวจเองนั้นได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยรวมทั้งอำนวยความสะดวกทุกด้าน โดยระยะแรกๆ วันละ ประมาณ 500 นาย แต่ช่วงสองวันสุดท้ายได้เพิ่มกำลังกว่า 1,300 นาย รวมทั้งอาสาสมัคร และยังจัดรถตู้มาบริการประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกตลอดโดยเฉพาะสองวันสุดท้าย จัดรถตู้วันละ 50 คันหมุนเวียนให้บริการประชาชนที่มาร่วมงาน
กำลังเจ้าหน้าที่จะผลัดกันเข้าดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาคอยช่วยเสริมด้วย โดยทุกคนต่างก็มีความตั้งใจที่จะเข้ามีส่วนในงานครั้งนี้ โดยไม่ร้องขอค่าตอบแทน ไม่ต้องมีหนังสือคำสั่ง เพราะทุกคนต้องการทำเพื่อหลวงพ่อคูณ ทุกคนอยากเป็นเจ้าภาพให้ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อทั่วประเทศได้ภาคภูมิใจ ที่คนขอนแก่นทุกคน ได้ร่วมกันจัดงานอย่างสมเกียรติที่สุด รู้สึกชื่นชมกับน้ำใจของทุกคน มีการลงแรง ร่วมบุญกัน มีการประเมินสถานการณ์กันทุกวัน ประทับใจมากตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เรียกได้ว่าตลอดงานไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่เหตุการณ์ร้ายแรงใดๆเกิดขึ้นระหว่างนั้นด้วย และด้วยบารมีของหลวงพ่อทำให้งานออกมาสวยงามที่สุด
ในขณะที่ภาคเอกชนอย่าง สมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ได้พูดในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ว่า การที่มีคนเดินทางมานมัสการสรีระหลวงพ่อคูณเป็นจำนวนมากถึง 2 ล้านคน ทำให้คาดการณ์ว่าร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นจะต้องขายดีแบบถล่มทลาย แต่ปรากฏว่า ผลออกมาตรงกันข้าม ร้านอาหารในพื้นที่หน้ามหาวิทยาลัยขายไม่ได้เลย เพราะในงานมีโรงทานจำนวนมาก กินฟรีแถมยังอร่อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลยิ้มแย้มแจ่มใส คนที่มางานก็เลยไม่ออกมากินอาหารข้างนอก จนร้านอาหารเกิดศรัทธาเอาอาหารที่จะขายไปแจกฟรีในงาน
...เรียกว่า อิ่มบุญกันถ้วนหน้า สาธุ สาธุ สาธุ







