“พาสปอร์ต” ใคร อยู่ตรงไหน

พาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเปิดโลกกว้างให้กับผู้ถือหรือเจ้าของ แต่สิทธิทุกอย่างก็มีข้อจำกัด
แม้ว่าคุณจะโชคดีได้ถือหนังสือเดินทางของประเทศที่มีเอกสิทธิ์หรือเสรีมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ก็ยังคงถูกจำกัดการเดินทางเข้าบางประเทศอยู่ดี
บริษัท Henley and Partners ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการวางแผนถิ่นที่อยู่และความเป็นพลเมืองได้จัดทำดัชนีข้อจำกัดวีซ่าปี 2014 หรือ Visa Restrictions Index โดยเป็นการสำรวจและจัดอันดับว่าพาสปอร์ตประเทศไหนสามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องขอวีซ่า
การจัดอันดับครั้งนี้คำนวณจากระเบียบการขอวีซ่าของทุกประเทศและจำนวนของประเทศที่พลเมืองประเทศอื่นๆ สามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งพบผลลัพธ์ที่น่าแปลกใจบางอย่าง
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเกาหลีเหนือและคิวบาน่าจะติดอันดับบ๊วยของประเทศที่มีสิทธิเสรีในการเดินทาง แต่ความจริงแล้วพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 86 และ 69 ตามลำดับจากประเทศที่มีการจัดอันดับทั้งหมด 94 ประเทศ
อัฟกานิสถานต่างหากที่เป็นประเทศที่ติดอันดับสุดท้ายของการเดินทางได้อย่างเสรีโดยสามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆ ได้เพียง 28 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ส่วนพาสปอร์ตอิรักสามารถเข้าได้ 31 ประเทศ ตามมาด้วยปากีสถานและโซมาเลียสามารถเข้าได้ 32 ประเทศและปาเลสไตน์สามารถเข้าได้ 35 ประเทศ นอกจากนั้นต้องขอวีซ่า
พลเมืองประเทศที่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่ามากสุดเป็นอันดับ 1 คือ ฟินแลนด์ เยอรมนี สวีเดน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา โดยผู้ถือพาสปอร์ตประเทศดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศอื่นๆ ได้มากถึง 174 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า
Henley and Partners บอกว่า ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ วีซ่ามีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเดินทางข้ามพรมแดนของชาวต่างชาติ โดยตอนนี้ประเทศในโลกเกือบทั้งหมดบังคับให้คนบางสัญชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศของพวกเขาต้องขอวีซ่า
ทางบริษัทบอกว่า ข้อจำกัดเรื่องวีซ่ายังเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันของแต่ละประเทศ และยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทั่วไปและสถานะของประเทศใดประเทศหนึ่งในประชาคมนานาชาติด้วย
อย่างเช่น ชาวปากีสถานที่สามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆ ได้ 32 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าซึ่งรวมถึงตรินิแดดและโตเบโก เฮติและโดมินิกาด้วย แต่คนที่ถือพาสปอร์ตปากีสถานต้องขอวีซ่าถ้าจะข้ามแดนเข้าอินเดียและอิหร่าน
สำหรับพลเมืองชาวอัฟกานิสถานที่อยู่อันดับสุดท้ายของตารางก็ถูกห้ามเข้าคูเวตอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเขาสามารถเดินทางไปยังไมโครนีเซีย เซนต์ วินเซนต์และเกรนาดีนส์ และเฮติโดยไม่ต้องขอวีซ่า
พลเมืองของสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปหรือวีซ่าเชงเก้นโดยไม่ต้องขอวีซ่า จึงทำให้อันดับเรื่องการมีเสรีในการเดินทางของยูเออีเลื่อนขึ้นมาจากปีก่อน
พลเมืองของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่ามากที่สุดคือสิงคโปร์ที่สามารถเดินทางเข้าได้ 170 ประเทศ รองลงมาคือมาเลเซีย 166 ประเทศ ตามมาด้วยบรูไนที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเมื่อจะเดินทางเข้าประเทศ 150 ประเทศ
ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 62 และสามารถเดินทางเข้า 69 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ที่อยู่อันดับ 68 อินโดนีเซียอยู่อันดับที่ 72 กัมพูชา ลาวและเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 78 80 และ 81 ตามลำดับ สุดท้ายคือพม่าอยู่ในอันดับที่ 86 และสามารถเดินทางเข้าได้ 42 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า
รายงานขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่า ประชากรในโลกจำนวน 3 ใน 4 ที่ต้องการเดินทางไปยุโรปต้องขอวีซ่า
ตามรายงานของ UNWTO ล่าสุดเรื่องการเปิดกว้างของวีซ่าปี 2014 หรือ Visa Openness พบว่าหลายประเทศมีการผ่อนคลายวีซ่ามากขึ้น โดยร้อยละ 62 ของประชากรโลกต้องขอวีซ่าก่อนที่จะเดินทางซึ่งลดลงจากร้อยละ 77 ในปี 2008
รายงานดังกล่าวยังพบว่า ร้อยละ 19 ของประชากรโลกสามารถที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในขณะที่ร้อยละ 16 สามารถขอวีซ่า on arrival หรือวีซ่าที่ได้รับเมื่อเดินทางถึงประเทศที่เป็นจุดหมายการเดินทาง
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2008 ที่มีประชากรเพียงร้อยละ 17 เท่านั้นที่มีเสรีในการเดินทางหรือเข้าประเทศอื่นโดยไม่ต้องขอวีซ่าและร้อยละ 6 ที่อนุญาตให้ขอวีซ่า on arrival ได้
...........................
ที่มา www.henleyglobal.com







