เห็นเงี้ยว-มอญ-ม่าน...ผ่านวัดลำปาง

เที่ยวชมวัดต่างๆ ในลำปาง ด้วยความชื่นชมในสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แปลกตา
ดูคล้ายคลึงกับวัดในประเทศเมียนมาร์ ถ้าไม่มีสรรพสำเนียงไทยรอบข้างก็อาจนึกเคลิ้มว่าอยู่ในพม่าจริงๆ ความงามอันวิจิตรของสถาปัตยกรรมในรูปของวิหาร โบสถ์และเจดีย์ต่างๆ ในวัด ทั้งชื่นชมและสงสัยไปในที บางส่วนมีเครื่องบ่งชี้ว่าเป็นของมอญ บางอย่างกลับเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่(เงี้ยว) บางอย่างกลับดูคล้ายคลึงพระราชวังมัณฑะเลย์ที่พม่า แล้วที่แท้ภายใต้วัดพม่าในลำปางนั้นซ่อนชาติพันธุ์ใดไว้บ้าง
เสาหงส์ที่ปรากฏอยู่หลายวัดอย่าง วัดป่าฝาง วัดพระแก้วดอนเต้า หรือแม้กระทั่งวัดปงสนุก ถ้าไปเห็นแถวปทุมธานี ปากเกร็ด พระประแดง สมุทรสาคร หรือทางตะวันตกของไทย จะไม่แปลกใจเลยเพราะย่านนี้เป็นย่านที่คนมอญอพยพเข้ามาตั้งรกรากกันตามสภาวะทางการเมืองแต่ละยุคสมัย คนมอญนั้นศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก วัดที่สร้างในชุมชน จึงมักมีเสาหงส์เพื่อบ่งบอกว่านี่เป็นวัดมอญ ซึ่งหงส์นั้นมีนัยยะซ่อนอยู่หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นตำนานของการสร้างเมืองหงสาวดี (หรือพะโค) ให้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมอญที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต แล้วจึงรุกรบยึดคืนไปมาระหว่างพม่าและมอญ
จนกระทั่งในพะโคหรือหงสาวดีปัจจุบันที่เราเห็นคนนุ่งโสร่ง เคี้ยวหมากหยับๆ ก็ไม่แน่ใจว่านั่นคือพม่าจริงๆ หรือมอญแปลงเป็นพม่ากันแน่ แต่ถ้าจะให้ชัด ดูเหมือนมอญจริงๆ จะเห็นที่มะละแหม่ง ทวาย ทางด้านตะวันตกของไทยนี้มากกว่า หงส์กับคนมอญทั้งอาจจะเป็นมาจากตำนานการสร้างเมืองหลวงของอาณาจักรดั้งเดิมของมอญ ทั้งอาจจะมาจากความศรัทธาทางศาสนาที่มีหงส์มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะด้วยมูลเหตุใดก็ตาม หงส์ก็เป็นตัวแทนของมอญไปโดยปริยายแม้นไม่ปรากฏบนธงชาติมอญก็ขอเพียงมีหงส์บนยอดเสาในวัดก็ได้
อาณาจักรมอญนั้นเคยยิ่งใหญ่ คนมอญกระจายกันอยู่โดยทั่วดินแดนสวรรณภูมิ นักประวัติศาสตร์บางท่านบอกว่าชนชาติมอญโบราณตั้งอาณาจักรทวารวดี ในศูนย์กลางของสุวรรณภูมิที่นครปฐมนี่เอง ขอบเขตคลุมถึงเมืองอู่ทอง เมืองละโว้ ครั้นพระนางจามเทวีราชธิดาของเจ้าเมืองลวปุระหรือละโว้ลพบุรี ต้องขึ้นไปครองเมืองหริภุญชัย ก็นำผู้คนขึ้นไปตั้งเมืองหริภุญชัยที่ลำพูนด้วย ระหว่างทางจึงอาจมีการตกหล่นของผู้คนเชื้อสายมอญจากละโว้ที่ตามพระนางจามเทวีขึ้นไปด้วย ผู้คนในล้านนาส่วนหนึ่งจึงอาจมาจากเชื้อสายมอญ ลำปางเองก็อาจจะมีคนมอญดั้งเดิมมาอยู่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว (แต่นี่ไม่ใช่ข้อสรุปว่าคนที่อยู่ในลวปุระจะเป็นคนเชื้อสายมอญ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ นี่คือเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ที่พร้อมถกเถียงแลกเปลี่ยนกันตามสมติฐานและหลักฐาน)
แต่ชาติพันธุ์ในพม่า ไม่ใช่มีแต่คนมอญหรือคนพม่าเท่านั้น หากแต่มีไทยใหญ่(หรือเงี้ยว)ที่ช่วงยุคสมัยหนึ่งเคยมีอิทธิพลในดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของพม่า ต่อเนื่องกับอาณาจักรล้านนาในอดีต พม่าหรือที่เรียกกันว่า"ม่าน"นั้น เก่งที่ผสานผสมชาติพันธุ์ของผู้คนในแผ่นดินตัวเอง รวมทั้งรับกลืนวัฒนธรรมต่างเผ่าผสมกลมกลืนจนกลายเป็นหนึ่งเดียวได้ จนยากจะแยกออกว่าไหนคือพม่า ไหนคือมอญหรือไทยใหญ่ ดินแดนล้านนาเป็นอาณาจักรท่ามกลางอำนาจที่เข้มแข็งกว่าทั้งจากม่านหรือจากไทยตอนใต้ เป็นแบบนี้มาช้านาน ล้านนาต้องประคองตัวอยู่ให้ได้ ครั้งพม่าแข็งแกร่งก็เคยถูกพม่าปกครองถึง 200 ปี นานพอที่จะทิ้งสิ่งปลูกสร้าง ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี แม้กระทั่งผู้คนให้ผสมกลมกลืนไปในดินแดนล้านนาเช่นกัน
ในยุคล่าอาณานิคมจากตะวันตก ไทยเราประสบความยุ่งยากอย่างมากทางการเมือง ทั้งภาวะที่ถูกฝรั่งเศสบีบคั้นทางตะวันออกและทางอีสาน อังกฤษก้าวล่วงเข้ามาทางใต้และตะวันตก การเข้ามาของบริษัททำไม้ของอังกฤษที่รุกคืบมาจากพม่า เข้ามาสู่ดินแดนภาคเหนือของไทย แม้ไม่ใช่การคืบเข้าปกครองดินแดน แต่ก็เป็นการคืบเข้ามาโกยทรัพยากรธรรมชาติของเราออกไป บริษัททำไม้อังกฤษขนคนงานจากพม่าเข้ามาทำกิจการทำไม้ คนเหล่านี้มาอยู่กันนาน ลงหลักปักฐาน บ้างเข้าไปรับช่วงทำไม้จากบริษัททำไม้อังกฤษ สะสมทุนจนร่ำรวย เป็นเศรษฐีคหบดี
ในช่วงที่คนจากพม่าเข้ามาอยู่ในลำปางเพื่อทำไม้นี่เองที่มีคนพยายามจะอธิบายการมีเสาหงส์ในวัดลำปางว่า เป็นการบ่งบอกของคนมอญที่เข้ามาทำไม้แล้วคิดถึงบ้าน เลยสร้างเสาหงส์ไว้ให้หงส์หันหน้าไปทางเมืองมอญ เหมือนกับจะบอกว่าสักวันจะกลับไปเมืองมอญ ซึ่งข้อนี้มีคนแย้งว่าไม่น่าจะใช่ เพราะแม้กระทั่งในเมืองหงสาวดี ประเทศพม่าเองก็มีเสาหงส์เช่นกัน อยู่ที่บ้านอยู่แล้วจะคิดถึงอะไรอีก คำอธิบายนี้จึงดูไม่มีน้ำหนักจนกระทั่งไม่ควรจะถูกหยิบยกมาอธิบายเหตุผลของการมีเสาหงส์ที่วัดพม่าในลำปางอีกต่อไป
ครั้นมีเงินมีทอง คหบดีที่มาจากพม่าเหล่านั้นก็คิดสร้างวัด ทั้งเพื่อเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของกลุ่มชนของตนที่แม้จะมาในนามจากพม่า ถูกคนล้านนาเรียกว่าม่านเหมือนกัน แต่เนื้อแท้เขาก็รู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร มอญ ม่าน หรือเงี้ยว การเน้นย้ำถึงชาติพันธุ์ของคนสร้างอาจปรากฏให้เห็น
วัดในลำปาง ที่เราเรียกรวมๆ ว่าวัดพม่านั้น มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นโดยเฉพาะทรงของเครื่องบนหลังคาโบสถ์หรือวิหาร จนมีคนสรุปว่าถ้าเป็นทรงปราสาทที่ทำยอดซ้อนกันหลายๆ ชั้น ค่อยๆ เรียวสูงขึ้นฟ้า อย่างที่วัดพระแก้วดอนเต้า วัดศรีชุม ว่านี่คือมอญ แต่ถ้าเป็นหลังคาซ้อนต่อๆ กัน เล็กขึ้นไปเรื่อย(ยิ่งอยู่บนยอดยิ่งเป็นหลังคาเล็ก) ที่เรียกว่าทรงยวน อย่างที่วัดป่าฝาง วัดจองคา(ไชยมงคล) วัดศรีรองเมือง วัดท่ามะโอ วัดม่อนสัณฐาน วัดม่อนจำศีลนั้นคือของไทยใหญ่ แม้บางวัดจะมีทั้งยอดปราสาท หลังคาทรงยวน อีกทั้งเสาหงส์ แต่ในสายตาเราเหล่านี้คือวัดพม่าทั้งสิ้น
การได้เห็นสถาปัตยกรรมที่หลากหลายบนแผ่นดินไทย ทำให้เราย้อนคิดได้ว่าการประกาศตัวตนบนแผ่นดินอื่นนั้น แม้จะเนิ่นนานไปแต่อัตลักษณ์ที่ผ่านสิ่งปลูกสร้างก็ยังคงบอกตัวตนชัดเจน แต่กับการสร้างสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนปนเปกันไป สร้างพระพิฆเณศในวัดพุทธศาสนา สร้างพระนารายณ์ร่ายรำในวิหาร เทพเจ้ากวนอู เทพเห้งเจียในวัด ฯลฯ ไม่รู้ว่าอีก 100 ปีข้างหน้าคนในยุคนั้นมาเห็นจะงงกันไหมว่าเป็นใคร มีความเชื่ออะไร รากเหง้าจากไหนจึงสร้างไว้เช่นนี้ หรือแม้กระทั่งคนสร้างก็ยังบอกไม่ถูกว่าตัวเองเป็นใคร
มาดูวัดลำปางก็ได้แง่คิดไปสารพัดอย่าง อย่างนี้แหละ...







