'เปปเปอร์'แก้ข่าวปัดยื้อเป่าวัดแอลกอฮอล์

"เปปเปอร์" นักร้องดังวงยูเอชที ออกโรงแก้ข่าวยื้อเป่าวัดแอลกอฮอล์ ชี้ไม่มั่นใจอุปกรณ์ ปัดมีปากเสียงกับตำรวจ
จากกรณีอดีตนักร้องชื่อดังวง "ยูเอชที" และนักแสดงชื่อดัง "เปปเปอร์ รัฐศาสตร์ กรสูต" อายุ 38 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา เรียกตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ดาราหนุ่มกลับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าไม่เชื่อมั่นในเครื่องมือตรวจวัดของตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ยื่นคำขาดว่าหากไม่เป่าจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พนักงาน ทำให้ดาราคนดังกล่าวยินยอมลงจากรถ แต่ขอให้ตรวจวัดในจุดที่มีสักขีพยาน เจ้าหน้าที่จึงพาไปที่ สน.และลงมือวัด ผลครั้งที่ 1-2 ไม่พบปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกาย แต่เมื่อวัดครั้งที่ 3 พบมีปริมาณแอลกอฮอล์ 2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ให้ไม่เกินคือ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนปล่อยตัวกลับ โดย “เปปเปอร์” ได้กล่าวภายหลังเป่าวัดแอลกอฮอล์ว่า ได้พาแฟนสาวที่นั่งรถมาด้วยกันไปทานอาหารที่ร้านย่านปากคลองสาน มีการดื่มค็อกเทลไป 2 แก้ว โดยขณะขับรถเพื่อไปส่งแฟนสาวที่บ้านพักย่านบุปผาราม ก็มาเจอด่านตรวจ ส่วนสาเหตุที่พยายามเลี่ยงการตรวจครั้งแรก เพราะรู้สึกไม่ไว้วางใจกับเจ้าหน้าที่ หลังเคยถูกจับคดีเมาแล้วขับที่ สน.มักกะสัน เมื่อหลายปีก่อน
ต่อมาเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ก.ย. "เปปเปอร์-รัฐศาสตร์ กรสูต" กล่าวว่า ข่าวที่ออกมามีความคลาดเคลื่อน ตนจึงขอแก้ข่าวใน 3 ประเด็น เรื่องแรกที่พูดไปว่า เคยถูกจับคดีเมาแล้วขับที่ สน.มักกะสัน นั้น ไม่เป็นความจริง ตรวจสอบประวัติดูได้ ตนไม่เคยถูกจับในคดีเมาแล้วขับมาก่อน มีเพียงช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ตนกำลังขับรถเดินทางกลับจากที่ทำงาน โดยที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มาเจอด่านตรวจแถวพระราม 9 เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจ ซึ่งตนได้ให้ความร่วมมือปกติ ด้วยความบริสุทธิ์ใจจึงลงไปเป่าเครื่องตรวจวัด แต่ปรากฏว่า ผลที่ออกมากลับขึ้นว่าเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขอตรวจค้นรถ ตนจึงพยายามอธิบายเหตุผลให้ฟังว่าไม่ได้เมา หรือดื่มเหล้ามา โดยใช้คำพูดที่สุภาพ ภายหลังจากที่พูดคุยกันและเจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟฉายส่องดู เห็นการแต่งตัวของตนที่เพิ่งทำงานเสร็จมาจึงเชื่อ ก่อนจะปล่อยตัวไป
นายรัฐศาสตร์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่ด่านพระราม 9 พอมาเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์อีกเมื่อคืนนี้(5 ก.ย.) ตนจึงรู้สึกไม่มั่นใจอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ เมื่อถูกเรียกตรวจจึงขอไปตรวจที่สถานที่เป็นกลาง และมีพยานรู้เห็น คือ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งอยู่ติดกับด่าน โดยขอให้แพทย์หรือพยาบาลเป็นคนตรวจให้ แต่ทางตำรวจไม่ยินยอม จึงต้องไปเป่าที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา แทน โดยเป่าไปถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 1-2 ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่มามีในครั้งที่ 3 ในปริมาณเพียง 2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งข่าวที่บอกว่าตนยื้อ เพื่อให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดลงจนทำให้เป่าผ่านนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนสั่งค็อกเทล ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์เบาบาง มาเพียง 2 แก้ว โดยดื่มไปแค่แก้วเดียว ส่วนอีกแก้วแฟนสาวเป็นคนดื่ม
"เรื่องที่ 2 คือข่าวออกมาว่า ผมมีปากเสียงกับตำรวจ และมีการอ้างนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอยืนยันว่า ขณะถูกเรียกตรวจ ผมได้ใช้คำที่สุภาพพูดคุยกับตำรวจ ไม่ได้มีปากเสียงกัน หรืออ้างนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ โดยระหว่างที่อธิบายให้ตำรวจฟังว่าไม่ได้เมาอยู่นั้น ได้มีเพื่อนที่รู้จักกับนายตำรวจระดับสารวัตรของ สน.สมเด็จเจ้าพระยา โทรศัพท์ไปจะปรึกษา แต่ตำรวจคนนั้นไม่ได้รับสาย เรื่องที่ 3 รูปภาพข่าวที่ออกมา อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้ใบหน้าตนดูคล้ายกับคนเมา" อดีตนักร้องชื่อดัง ชี้แจง







