4ค่ายยักษ์ร่วมผลิตหนังครบวงจรลดค่าใช้จ่าย

นายสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด เปิดเผยถึงการร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม เป็นความร่วมมือภายใต้พันธมิตรธุรกิจร่วมทุน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ จำกัด บริษัท ทรู ไอคอนเท้นท์ ในกลุ่มทรู ร่วมทุนในสัดส่วนเท่ากัน 28.57% คิดเป็นมูลค่ารายละ 50 ล้านบาท และ บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส จำกัด สัดส่วน 14.29% มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภาพยนตร์ โดยใช้จุดแข็งของพันธมิตรแต่ละรายสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจหนัง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ-ปลายน้ำ

"ความร่วมมือจะทำให้ต้นทุนทำหนังลดลง ถือเป็นการทำธุรกิจหนังแบบครบวงจรครั้งแรกของวงการหนังในไทย"

นับเป็นการสร้างห่วงโซ่มูลค่าร่วมกัน เริ่มตั้งแต่การใช้จุดแข็งด้านดิจิทัล แพลตฟอร์ม และการประชาสัมพันธ์ ของทรู ไอคอนเท้นท์ ในการนำหนังออกอากาศผ่านรูปแบบช่องเพย์ทีวี การใช้โปรดักชั่นส์ ของ บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ รวมถึงการใช้อุปกรณ์การถ่ายทำหนัง ของแม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส และพันธมิตรด้านช่องทางโรงฉายภาพยนตร์ คือ เอ็มพิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

ตั้งแต่เดือน ส.ค.ถึงสิ้นปีนี้ จะผลิตภาพยนตร์รวม 2 เรื่อง ตั้งเป้าหมายรายได้จากการฉายในโรงภาพยนตร์เรื่องละ 100 ล้านบาท ปีหน้าคาดผลิตภาพยนตร์ 5-6 เรื่อง ทำรายได้เฉพาะการฉายเรื่องละ 100 ล้านบาท หรือรวมกว่า 500-600 ล้านบาท ยังไม่รวมรายได้จากการฉายหนังผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งช่องทางโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ การฉายหนังในต่างจังหวัด ช่องเพย์ทีวี และอื่นๆ จะช่วยผลักดันรายได้รวมเพิ่มขึ้นอีก 50% รวมถึงในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจรับจ้างผลิตภาพยนตร์

ในปี 2559 มีแผนขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดย “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ไปฉายในต่างประเทศ เริ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน จากปัจจุบันเข้าเจาะตลาดกัมพูชาแล้ว เบื้องต้นตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ประเทศละ 3 ล้านบาทต่อปี

พร้อมกันนี้ มีแผนขายลิขสิทธิ์หนังไทยในจีน และเกาหลี เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีศักยภาพในการสร้างรายได้ค่อนข้างมาก ขณะนี้มีค่ายภาพยนตร์จีนเข้ามาเจรจาร่วมทำโปรเจคหนังร่วมกัน คือ ค่ายไชน่า ฟิล์ม กรุ๊ป และค่ายปักกิ่ง มีเดีย กรุ๊ป

ขณะที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ภายในประเทศ มีมูลค่ารวมมากกว่า 3,000 ล้านบาท มีการเติบโตค่อนข้างผันผวน เป็นผลมาจากการฉายหนังที่มีเนื้อหาน่าสนใจแตกต่างกันในแต่ละปี แบ่งเป็นหนังต่างชาติ 70% หนังไทย 30% คาด 2-3 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมหนังไทยจะมีสัดส่วน 50% เท่ากับหนังต่างชาติ ท

นายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ผลิตภาพยนตร์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มดีขึ้น และเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 4 คาดปีนี้รายได้รวมเติบโตกว่า 10% ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมตั้งไว้ที่ 30%