เกอิชา:เจ้าแห่งศิลปะครองใจคน

เกอิชา ยังคงมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่นแม้ว่าจำนวนจะลดลงไปตามยุคสมัยแต่หน้าที่สำคัญของเกอิชาคือ สร้างความครื้นเครงให้แก่คนรวย และคนมีอำนา
ในโรงน้ำชาและร้านอาหาร เกอิชา จะได้รับการฝึก จนชำนาญจากเจ้าสำนักหรือโอกาซัง พวกเธอจะต้องเป็นทั้งนักดนตรี, นักร้อง, และนักเต้น และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นคู่สนทนาที่ดีสำหรับแขก การมีเกอิชาที่สวยงาม, พูดเสียงดังฟังชัด และสามารถอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงายามเย็นในร้านอาหารได้นั้น เป็นดัชนีชี้วัดทางสังคมที่ดีได้อย่างหนึ่ง
เดิมทีลูกค้าของเกอิชา เป็นซามูไรและเหล่าโชกุน แต่ตอนนี้ ลูกค้ารายใหญ่ของเกอิชาคือ บรรดานักการเมือง, นักแสดง และ เหล่าผู้บริหารระดับสูง ที่มักจะจ้างเกอิชาเป็นรายชั่วโมง เพื่อมานั่งเป็นเพื่อนรับประทานอาหารในเรียวเทะอิ ที่เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของญี่ปุ่น และโอชายาหรือโรงน้ำชา แต่เกอิชาไม่ใช่โสเภณี หรือหญิงขายบริการ ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เกอิชาที่ยังบริสุทธิ์จะได้รับการประมูลในราคาสูง แต่จะไม่มีเพศสัมพันธ์กับแขก เรียกว่าเกอิชาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในยุคนั้น และเป็นอาชีพสุจริต
แต่จำนวนเกอิชาแท้ๆในญี่ปุ่นกำลังลดลง โดยช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 มีจำนวนเกอิชาอยู่ 80,000 คน แต่ในปัจจุบัน เหลือแค่ไม่กี่พันคน ในเกียวโต มีเกะโก หรือเกอิชาท้องถิ่น ประมาณ 150 คน ส่วนไมโกะ หรือ เกอิชาฝึกหัด จะไม่อยู่ที่เกียวโต
เกอิชาดั้งเดิม ไม่เหมือนเกอิชาสมัยใหม่ ที่เป็นหญิงสาวสวมชุดกิโมโน และผ้าคาดเอวโอบิ, ใส่ถุงเท้าทาบิสีขาว และสวมรองเท้าเกี๊ยะ ที่ต่างเพลิดเพลินกับการที่นักท่องเที่ยวมาขอถ่ายรูปด้วย ซึ่งกรรมการบริหารของสถาบันสังคมญี่ปุ่น-อเมริกา แห่งเพนซิลวาเนีย เอมี บูตส์ กล่าวว่า สำหรับสาวญี่ปุ่นนั้น การได้ใส่ชุดที่ผิดแผกไปจากทุกวัน เป็นเรื่องสนุกสนาน ในเกียวโต มีร้านให้เช่าชุดกิโมโนทั้งหญิงและชาย โดยของผู้ชายจ ะเป็นกิโมโนสีดำ กับเสื้อคลุมสีดำที่เรียกว่า มอนสึกิ ฮาโอริ ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ลองใส่
ส่วนผู้ประสานงานการช่วยเหลือด้านการศึกษาของสถาบันสังคมญี่ปุ่น-อเมริกา แห่งเพนซิลวาเนีย คัตสึโกะ เชลฮามเมอร์ กล่าวว่า ชุดกิโมโน ประกอบด้วยผ้าหลายชิ้นมาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใส่ชุดโดยไม่มีคนช่วย แถมชุดกิโมโน ยังมีราคาสูงมาก ห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงโตเกียว และเกียวโต ต่างมีร้านขายชิ้นส่วนของกิโมโน หรือรับสั่งทำกิโมโน และผ้าคาดเอวโอบิ แต่ชุดกิโมโนมือสอง จะมีราคาถูกกว่า ส่วนใหญ่ชุดกิโมโนจะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ปัจจุบัน ชุดกิโมโน มีรูปแบบและลวดลายสวยงามขึ้น บริษัทผลิตเสื้อผ้าของญี่ปุ่นอย่าง ซูซู นำรองเท้าและถุงเท้าทาบิมาปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยเพิ่มสีสันและลวดลายเข้าไป นอกจากนี้ ยังได้ปรับภาพลักษณ์เสื้อผ้าพื้นเมืองชิ้นอื่นๆของญี่ปุ่นด้วย
การเป็นเกอิชา ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเธอต้องหันหลังให้กับชีวิตสมัยใหม่ในญี่ปุ่น และหันมาใช้ชีวิตแบบเกอิชา ไมโกะ หรือเกอิชาฝึกหัดที่อายุ 15 ปี จะต้องอาศัยอยู่ในบ้านเกอิชา หรือที่เรียกว่าโอกิย่า เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตเป็นเกอิชา ซึ่งจะใช้เวลา 3-5 ปี เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งเรื่องชุดกิโมโน การจัดหาห้องและอาหาร และไมโกะจะถูกทดสอบความพร้อมก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเกอิชาในพิธีเอริเกะ หรือพิธีเปลี่ยนชุด ซึ่งจะเปลี่ยนจากชุดสีแดงของเมอิโกะ เป็นชุดสีขาวของเกอิชา







