บีม-ศรัณยู ชีวิตนี้ต้องเดินทาง

นักแสดง พิธีกร ดีเจ นายแบบ บีม- ศรัณยู ประชากริช หนุ่มวัย 30 ปีคนนี้ เขาเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526 เป็นทายาทกิจการอะไหล่ยนต์
นอกจากจะชื่นชอบการแข่งรถเป็นพิเศษ ว่างเว้นจากงานประจำในการเป็น ดีเจ.ที่คลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ งานพิธีกร และงานเดินแบบเมื่อไหร่ เป็นต้องออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามใจปรารถนา
-ล่าสุดบีมไปเที่ยวที่ไหน
เมื่อเดือนตุลาคมปีนี้ผมไปพักผ่อนที่ฮ่องกงประมาณ 3-4 วันมาครับ แต่บอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบชอปปิง ส่วนมากก็จะไปซิตี้ทัวร์ ไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ร้านใหม่ๆ มากกว่า เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบกินอาหารอร่อยๆ
-ไปฮ่องกงบ่อยไหม
เท่าที่จำได้ผมว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 30-40 ครั้งแล้วละครับ ไปมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่พาไป น่าจะประมาณชั้นป.1 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ เพราะว่าเรามีญาติอยู่ที่นั่น อยู่แถวๆ ริมทะเล เหมือนกับเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่แบบคนที่นั่นจริงๆ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวแบบฉาบฉวย ได้ไปเห็นวิถีชีวิตของคนที่นั่น ตื่นเช้ามาเปิดประตูระเบียงออกไปมองเห็นทะเล เห็นความเป็นอยู่กิจวัตรประจำวันของคนแถวนั้น
-คิดว่าเสน่ห์ของฮ่องกงอยู่ตรงไหนในสายตาของบีม
ผมว่า เสน่ห์ของฮ่องกงคงเป็นเรื่องของอาหารการกินแหละครับ เพราะว่าผมเป็นคนชอบกินด้วยมั้ง มีอาหารที่เราชอบอยู่ที่นั่น เวลาไปแต่ละทีก็จะไปหาร้านอาหารใหม่ๆ ทาน ซึ่งอีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าฮ่องกงสมัยก่อนตอนที่ผมไปเห็นแรกๆ มีเสน่ห์กว่านี้เยอะเลยครับ บ้านเมืองสะอาด มีระเบียบวินัย ไม่ยุ่งวุ่นวาย เพราะว่าเขามีความเป็นผู้ดีเยอะ จะยึด Standard แบบอังกฤษมาตั้งแต่สมัยอังกฤษปกครอง ปัจจุบันนี้คนจีนจากผืนแผ่นดินใหญ่พยายามเข้ามาอยู่ที่ประเทศฮ่องกงเยอะขึ้นๆ ก็เลยทำให้ทุกอย่างมันยุ่งวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ ซึ่งตรงนี้คนฮ่องกงเองก็อึดอัดอยู่และยังคงพยายามรักษาStandard แบบอังกฤษเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
-บีมไม่ชอบชอปปิง ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ไปฮ่องกงเพื่อชอปปิง?
ผมไปที่นั่นกิจกรรมของผมก็คือขับรถเที่ยวมากกว่า ผมจะไม่ชอปปิง ผมว่าการขับรถเที่ยวที่ต่างประเทศมันตื่นเต้นดีนะครับ แต่เดี๋ยวนี้ผมว่าตื่นเต้นน้อยลงเพราะว่ามี GPS กดปุ่มปุ๊บมันก็พาเราไปในที่ที่เราต้องการ สมัยก่อนตื่นเต้นกว่าเยอะเพราะว่าเราต้องเดาว่าจะไปทางไหน หลงทางบ้างก็สนุกดีนะครับ ตอนที่ผมไปญี่ปุ่นก็เช่ารถขับ ได้ขับรถเล่น ชมเมืองไปเรื่อยๆ ด้วยตัวเองสนุกดีชอบ
-แสดงว่าชีวิตนี้บีมไม่เคยไปเที่ยวกับทัวร์เลยใช่ไหม?
เคยครับ ตอนเด็กๆ เคยไปทัวร์กับแม่ ผมรู้สึกว่าเวลามันเร่งรีบมากเกินไปไม่ชอบเลย ต้องตื่นตามเวลาเป๊ะทุกวัน 6-7-8 ต้องตื่น 6 โมงเช้า กินข้าว 7 โมง ล้อหมุน 8 โมง เวลาไปเที่ยวก็ต้องรีบๆ ให้เวลาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ยังไม่ทันได้ซึมซับอะไรไปแล้ว ผมว่ามันเหมือนเข้าค่ายลูกเสือมากกว่าไปเที่ยวนะ
-เห็นบีมชอบไปฮ่องกงเพราะอาหารอร่อย มีร้านประจำไหมคะ
ร้านที่ผมชอบก็คือ ‘สวีทไดนาสตี้’ มีหลายสาขามากในฮ่องกง แถวๆ นาธานโรสก็มี เป็นร้านดังร้านหนึ่ง มีทุกอย่างที่ผมชอบ เช่น ข้าวหมูแดง เป็ดย่าง ห่านย่าง ซุปเกี๊ยวกุ้ง ผัดผัก นี่ผมมีแผนจะไปฮ่องกงอีกนะ วันที่ 13-15 ธันวาคมนี่แหละ พอกลับมา 21-28 ธันวาคมผมก็จะไปคริสต์มาสเคาท์ดาวน์ที่อเมริกา
-เห็นบีมเป็นคนที่ชอบขับรถ คิดว่าขับรถประเทศไหนตื่นเต้นที่สุด
ที่ขับรถตื่นเต้นที่สุดผมว่าน่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่นนะครับ ขับในสมัยที่ยังไม่มี GPS ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว ตอนผมอายุประมาณ 20 ต้นๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นป้ายภาษาอังกฤษไม่มีเลย ตื่นเต้นมาก จะไปไหนแต่ละทีหลงทางอยู่นั่นแหละ เคยขึ้นทางด่วนวนไปวนมาลงผิด ขึ้นผิด หมดค่าทางด่วนไป 2,000 กว่าบาทเห็นจะได้ (หัวเราะ)
-ไปญี่ปุ่นบ่อยไหมคะ
ผมไปญี่ปุ่นไม่ค่อยบ่อยประมาณ 8 ครั้งเอง แต่ไปทุกครั้งจะเป็นเมืองที่ไม่ซ้ำ อย่างล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ผมไปเที่ยวที่ โอซาก้า นารา เกียวโต และก็โกเบ เป็นแถบคันไซด้านล่าง ผมชอบโอซาก้านะเป็นเมืองที่น่าอยู่ (บีมเคยไปเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ด้านบริหารธุรกิจที่เมืองโอซาก้า ทว่าต้องรีบกลับเมืองไทยเพราะไปมีเรื่องกับยากุซ่า จนต้องย้ายไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาแทน) แต่เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจซบเซามาก ล่าสุดที่ไปเห็นมาเหมือนกับเป็นเมืองบ้านนอก
-เวลาไปญี่ปุ่นชอบทำอะไรเป็นพิเศษ
ส่วนใหญ่จะไปใช้ชีวิต ไปเรียนรู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของเมืองที่เราไปครับ ส่วนเรื่องของความทันสมัย นวัตกรรมต่างๆ รวมทั้งราคาของสินค้า ผมว่าเผลอๆ แล้วบ้านเราลดราคามากกว่าด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ผมต้องไปซื้อที่นั่น เวลาไปบางทีอาจจะซื้อของฝากเล็กน้อย
-แล้วประเทศอื่นๆ มีเรื่องน่าตื่นเต้นบ้างไหม
พนมเปญ ประเทศเขมร ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไป ขี่จากบ้านเราไปเลยนะครับ เข็ดมากไม่เอาอีกแล้ว ถนนหนทางไม่ดี เป็นถนนดินแดง ความเจริญบ้านเราดีกว่าเยอะ และก็มีประเทศอินโดนีเซีย บาหลี เป็นเมืองที่ขับรถเองไม่ได้อันตราย ผมก็เลยต้องเช่ารถไปมีคนขับให้ ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 เพื่อนั่งรถไป 2 ชั่วโมง ดูโลมาว่ายแข่งกับเรือ ซึ่งเป็นครั้งหนี่งในชีวิต อาหารการกินที่นั่นทุกอย่างเขาจะเน้นเครื่องเทศเยอะๆ แต่ก็มีที่ประทับใจนะเพราะทะเลเขาคลื่นใหญ่ยักษ์มาก ขั้นต่ำเมตรครึ่ง ถึงสองเมตร แถวๆ คูตาร์บีช เหมาะกับการเล่นเซิร์ฟ ผมเองก็ไปเรียนเซิร์ฟขั้นบิกินเนอร์ที่นั่น 2 วัน ใครที่ชอบเล่นเซิร์ฟผมแนะนำที่นี่เลยครับรับรองมันแน่ๆ
-มีประเทศที่อยากไปแล้วยังไม่ได้ไปอีกไหมคะ
ผมอยากไปแอฟริกา แถบเคนย่า เพราะเคยได้ยินมาว่าน่าสนใจมาก คงต้องไปทัวร์แบบส่วนตัวหน่อย ไปส่องสัตว์ ดูสิงโต ช้างป่า ฯลฯ ธรรมชาติต่างๆ น่าสนใจ และอีกที่หนึ่งก็คือ นอร์ธโพล ผมอยากไปเห็นหมู่บ้านซานต้า ชีวิตนี้ควรจะได้ไปเห็นสักครั้งหนึ่ง ซึ่งอยู่เหนือสุด หนาวสุด อยากเห็นแมวน้ำ เพนกวิน สิงโตทะเล เพราะที่นั่นจะหนาวมากๆ อยากไปสัมผัสสักครั้ง อยากรู้ว่าเป็นยังไง เขาอยู่กันยังไง ต้องใช้เงินประมาณคนละแสนห้า อย่างต่ำบิน 36 ชั่วโมงกว่าจะไปถึง ที่นี่ผมว่าต้องไปให้ได้สักครั้งครับ
-ทุกครั้งที่เดินทาง บีมมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง
ผมก็จะจัดกระเป๋าไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทางประมาณ 4 วัน เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม แลกเงินก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ ขนาดกระเป๋าแล้วแต่ภูมิอากาศและประเทศที่เราไป แต่ต้องเป็นกระเป๋าที่ไม่โดนกรีดง่าย เก็บของได้เยอะ ผมไม่ค่อยคลอดลูกคลอดหลานกระเป๋าระหว่างทางเพราะไม่ช้อป อย่างแม่ผมนี่ประจำเลยเวลาไปต่างประเทศคลอดลูกหลานกระเป๋าตลอด (หัวเราะ)
-การเดินทางให้อะไรกับเราบ้าง?
แน่นอนครับสิ่งที่เราได้จากการเดินทางก็คือประสบการณ์ ได้เรียนรู้ชีวิต ได้เห็นผู้คนที่มีสองมือสองเท้าครบ 32 ประการเหมือนกับเรา แต่มีการสื่อสารต่างกัน ความคิดต่างกัน วัฒนธรรมต่างกัน บางทีก็เหมือนกันกับเราบางเรื่อง มันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมากสำหรับผมที่จะได้ไปพบไปเห็นเรียนรู้ไปเรื่อยๆ โลกใบนี้สำหรับผมไม่มีอะไรน่ากลัวที่จะเดินทางไป ไม่ต้องกลัวหลง ยกเว้นสถานที่ที่อันตรายเกินไป เป็นแหล่งอโคจรเหลือเกินนะครับ (หัวเราะ)
-มาพูดถึงเรื่องงานกันบ้างตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง
ตอนนี้ผมมีละครทางช่อง 3 กำลังถ่ายทำอยู่ เรื่อง รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน น่าจะออกอากาศประมาณเดือนพฤษภาคมปีหน้า จะออกมาแนวญี่ปุ่นๆ หน่อยสำหรับเรื่องนี้ อีกงานหนึ่งที่ผมยังทำอยู่ก็คือเป็นดีเจ. คลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ และกำลังมีซิงเกิ้ลเพลงใหม่ ชื่อ ‘เวรกรรม’ สังกัดค่ายสยามคาเฟ่ ซึ่งกำลังทยอยโปรโมทอยู่ครับ







