ทะเลในฝัน ของ เบนซ์ พริกไทย

เจ้าของเพลงฮิต “เงียบทำไม” เพลงป๊อปผสมซาวน์ดนตรีที่มีกลองสดอยู่ในเพลง และยังทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวคั่นรายการทางช่องสตาร์แม็กซ์

วันนี้นอกจากผลงานในวงการบันเทิงแล้ว อีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ เบนซ์กำลังเรียนปริญญาโท ปี1 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ทำไมถึงเลือกเรียนรัฐศาสตร์คะ

เบนซ์ตั้งใจว่าอยากจะเรียนปริญญาโทมานานแล้ว และมองว่าช่วงนี้พอมีจังหวะโอกาสก็เลยลงเรียนเสียที ในใจลึกๆ อยากมีความรู้ติดตัวเพิ่มขึ้นด้วย บวกกับความสนใจทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งปัจจุบันเบนซ์ว่ามันสำคัญกับการใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้อยากรู้ อยากวิเคราะห์ และอยากเห็นประเทศชาติเป็นไปในทางที่ดีด้วยค่ะ

ทั้งเรียนทั้งทำงาน ถ้ารู้สึกเครียดมีวิธีคลายเครียดอย่างไร

อ๋อ เบนซ์จะชอบฟังเพลง หรือไม่ก็ไปทะเลเลยค่ะ เป็นคนชอบเดินทางมากๆ ถ้าใครถามว่าชอบเที่ยวแนวไหน เบนซ์ก็จะตอบว่าชอบทะเลค่ะ ใช้คำว่า รักเลยดีกว่านะคะ (หัวเราะ) คือไปบ่อยมากๆ และจะพยายามหาเวลาไปทะเลให้ได้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพราะทุกครั้งที่ไปมันทำให้รู้สึกเหมือนกับเราได้พักผ่อนจริงๆ บางทีเพิ่งกลับจากทะเลมา พอเวลาผ่านไปสักสองอาทิตย์จะรู้สึกว่า เอ๊ะ...ไม่ได้ไปมานานแล้ว อยากไปเที่ยวอีก

ส่วนใหญ่ไปเที่ยวทะเลที่ไหน

น่าจะเป็น พัทยา หัวหิน นะคะ ไปจนรู้สึกว่าเป็นเหมือนบ้านที่สองเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะการเดินทางค่อนข้างสะดวก และใกล้กรุงเทพฯมากๆ นึกอยากไปเมื่อไหร่ก็ขับรถไปเลยค่ะ และ เบนซ์ รู้สึกว่ามันเป็นการพักผ่อนในระยะสั้นๆ ที่คุ้มค่า อย่างเรื่องอาหารการกินก็สะดวก มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ไม่ต้องเตรียมตัวมากค่ะ แต่ถ้ามีเวลาในการพักผ่อนจริงๆ ก็อาจจะลงใต้ไปเลยค่ะ อย่างพวกสมุย ภูเก็ต ฯลฯ

ทางใต้มีที่ไหนที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษบ้าง

สถานที่ทำให้เบนซ์ประทับใจมากที่สุดเลย ก็คือที่ภูเก็ต ป่าตองค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีก เพราะด้วยความรู้สึกส่วนตัวของเบนซ์ คือที่นั่นมันสงบมาก คลื่นสวย น้ำทะเลสีฟ้า จะได้เห็นอีกบรรยากาศที่แปลกตา และมันค่อนข้างแตกต่างจากทะเลที่อื่นเลยทีเดียว เพราะได้เห็นฝรั่งใส่บิกินี่ นอนอาบแดด คือไปแล้วมันทำให้รู้สึกว่าเราได้พักผ่อนจริงๆ และอีกความรู้สึกหนึ่งคือ เหมือนเราไม่ได้เที่ยวเมืองไทยเลยค่ะ

ทราบว่าเบนซ์เองก็ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยเหมือนกัน

อ๋อค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวแถวโซนเอเชียมากกว่า อย่างเช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊า ออสเตรเลีย ฯลฯ ซึ่งถ้าถามว่าไปเที่ยวแบบไหน คือถ้าไปกับครอบครัวก็จะไปตามสถานที่ท่องเที่ยว ศึกษาเกี่ยวกับสถานที่นั้น ดูพวกสถาปัตยกรรมต่างๆ ของประเทศเขา ถ่ายรูปสถานที่สำคัญๆ แต่ถ้าไปเที่ยวกับเพื่อนๆ อย่างญี่ปุ่น ฮ่องกง ก็จะเน้นถ่ายรูป เดิน กิน และชอปปิงค่ะ

อะไรคือสิ่งที่คิดว่าได้จากการเดินทางท่องเที่ยว

คือเบนซ์จะเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะในประเทศ หรือนอกประเทศ เที่ยวได้หมด เพราะคิดว่าการท่องเที่ยวมันเหมือนกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างสถานที่ที่เราไม่เคยไป ก็จะทำให้เรารู้สึกสนุกและตื่นเต้น ทำให้เรามีมุมมองแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ดีขึ้น ได้เรียนรู้วัฒนธรรม และภูมิอากาศของแต่ละประเทศ

มีสถานที่เที่ยวในฝันไหม

ถ้าเป็นที่เที่ยวในฝันของเบนซ์จะมีอยู่ 3 ที่ค่ะ ที่แรกคือ โบลา โบล่า ซึ่งเป็นเกาะอยู่ตอนใต้ของสก๊อตแลนด์ เบนซ์ว่าที่นั่นสวยมากและฝันว่าวันหนึ่งต้องไปให้ได้ ส่วนที่ที่สองคือ ฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ไป เพราะมันต้องใช้เวลาหลายวัน ไปทีนึงเราก็อยากไปเป็นอาทิตย์ ต้องเคลียร์ทั้งเวลางานและเวลาเรียนด้วย ก็เลยต้องหยุดพักไว้ก่อน ส่วนที่สุดท้ายในฝันก็คือ มัลดีฟ ที่เพิ่งมีโอกาสได้ไปมาล่าสุด ซึ่งเหตุผลที่เบนซ์เลือกไปมัลดีฟก่อนก็เพราะว่ามันเป็นสถานที่ใกล้ที่สุด เดินทางสะดวกที่สุด และไม่ต้องขอวีซ่าด้วยค่ะ

แล้วมีการเตรียมตัวในการเดินทางอย่างไรบ้าง

อย่างที่มัลดีฟ เบนซ์ใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต บางทีก็เสิร์ชหาใน pantip.com บ้าง หลังจากนั้นก็เริ่มเตรียมตัว เคลียร์งานทั้งหมด เกือบสองเดือนเลยค่ะ ทริปนี้เบนซ์ไปกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน ซึ่งต้องเคลียร์คิวให้ตรงกับเพื่อนๆ ด้วยค่ะ
ความรู้สึกกับมัลดีฟเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนแรกคำว่ามัลดีฟสำหรับเบนซ์ มันคือสวรรค์ของคนรักทะเลเลยค่ะ แค่เห็นในรูปก็รู้สึกว่ามันสวยมากๆ จนทำให้เราสามารถมโนภาพตามเลยว่า วันหนึ่งต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต อยากไปเหยียบไปยืน และไปสัมผัสจริงๆ ค่ะ จนล่าสุดที่มีโอกาสได้ไปตอนนั้นดีใจมาก ซึ่งถ้าถามว่าเหมือนกับที่เราคิดเราจินตนาการมั๊ย ..บอกได้เลยค่ะว่า มันมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย อย่างเวลาเราไปทะเล พัทยา หัวหิน ภูเก็ต หรือไปที่อื่นๆ ถึงแม้เราไปเที่ยวไปพักผ่อนก็จริงแต่มันก็ยังมีเรื่องงานเรื่องอื่นๆ วนเวียนอยู่ในหัว ชะแว๊บเข้ามาให้ต้องคอยคิดอยู่ตลอด

แต่ที่มัลดีฟ พอไปถึงและได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ บอกได้เลยว่า ในหัวสมองตอนนั้นมันโล่งไปหมด มันเคลียร์เลย ว่างเปล่าจริงๆ เพราะมันเงียบและสงบมาก จากทุกวันที่เราใช้ชีวิตเร่งรีบ ทำงาน กลับบ้าน รถติด สำหรับที่มัลดีฟตื่นเช้ามาก็จะได้ยินเสียงคลื่น เสียงลม ท้องฟ้า ทะเล มันสะกดเราไว้หมด ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน เพราะเราได้อยู่กับมันทั้งวัน ชิลมากๆ เลยค่ะ คือทะเลมันสวยจริงๆ น้ำในทะเลเป็นสีเหมือนน้ำในสระว่ายน้ำเลยค่ะ สามารถมองเห็นปะการัง แค่หย่อนขาลงไปในน้ำก็จะได้สัมผัสกับปะการัง มีปลาตัวเล็กๆ ว่ายน้ำไปมา รู้สึกเหมือนเราได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ

คือแค่มองลงไปก็จะเห็นหมดทุกอย่างเลยค่ะ ส่วนที่พักก็จะอยู่ท่ามกลางทะเลเลย เปิดหน้าต่างมาก็จะเห็นทะเล มีสระว่ายน้ำ แต่ “เบนซ์” ไม่ได้ว่ายเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะทะเลที่โน่นมันน่าว่ายมากกว่า เราสามารถเล่นน้ำทะเลหน้าห้องนอนได้เลย ตื่นเช้ามาก็โดดลงทะเลก่อนเลยค่ะ

มีกิจกรรมสนุกๆ น่าสนใจบ้างไหม

ที่นั่นก็มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเหมือนกันค่ะ อย่างเช่นเบนซ์ตกปลา ที่นั่นเขาจะมีบริการให้ล่องเรือไปมหาสมุทร อุปกรณ์พร้อมหมด ก็มีโอกาสได้ไปตกปลา มีเหยื่อให้ ซี่งเป็นปลาเหมือนกัน สนุกดีค่ะ เบนซ์ตกปลาได้มาตัวนึง รู้สึกดีใจมากที่ทำได้ แต่มองไปมองมาก็สงสารมันเหมือนกันค่ะ ซึ่งตอนนั้นตั้งใจว่าจะไม่กินแล้ว คือเราจะมีเสียค่าปรุงอาหาร เขาก็มีส่วนผสมต่างๆ เราสั่งได้ทุกอย่าง ก็ให้เขาทำให้ พอกินแล้วรู้สึก เฮ้ย...อร่อยมาก เนื้อแน่นมากๆ เลยค่ะ (หัวเราะ) ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็จะเป็นนั่งเรือ ดำน้ำดูปะการังค่ะ ซึ่งถ้าเราจะดำน้ำแบบจริงๆ จังๆ ก็จะมีเทรนเนอร์คอยดูแลคอยสอนให้ค่ะ

อุปสรรคในการเที่ยวครั้งนี้มีบ้างไหม

ในเรื่องของอุปสรรคการเที่ยวครั้งนี้จริงๆ ไม่มีเลยค่ะ ทุกอย่างมันเพอร์เฟคไปหมด มันมากกว่าที่คิดไว้ ทุกอย่างมันเหมือนอยู่ในความฝันเลยค่ะ จะติดอยู่แค่นิดเดียวจริงๆ ในเรื่องของภาษา เพราะคนที่นั่นจะเป็นคนแขก พวกอินเดีย เวลาสื่อสารกันเขาจะพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งค่อนข้างฟังยาก เขาจะพูดเร็ว สำเนียงแปลกๆ แต่ด้วยความที่พวกเขามีมนุษยสัมพันธ์ดี เลยทำให้ทุกอย่างมันราบรื่นค่ะ

แล้วประทับใจกับทริปนี้ยังไง

ถ้าเป็นเรื่องความประทับใจ จริงๆ เบนซ์ว่ามันมากเกินจะบรรยายเลยค่ะ ประทับใจทุกอย่างเลยค่ะ ทั้งในเรื่องของผู้คน สถานที่ บรรยากาศ สภาพแวดล้อม ไม่มียุงและแมลงเลยค่ะ และทะเลสวยมากกว่าที่เราคาดไว้เลยค่ะ ตื่นมาทานอาหารเช้า ว่ายน้ำทะเล ถ่ายรูป เดินเล่น และก็ลงน้ำอีก วันๆ นึงเล่นน้ำทะเลประมาณ 3 รอบได้ ขนาดทาครีมกันแดดทั้งวัน กลับมายังดำเลยค่ะ (หัวเราะ)

สุดท้ายประทับใจคนที่นั่นมาก เขาบริการดีเลยทีเดียว ไปถึงจะมีคนดูแลให้เราห้องละคน ซึ่งจะดูแลเราทุกเรื่องอยากได้อะไรเรียกได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การให้ข้อมูลกับเรา เขาจะคอยเดินเรื่องให้หมด ตอนเรากลับเขาจะมายืน 6-7 คน คือมายืนส่งเราขึ้นเรือกลับ และก็จะคอยโบกมือบ๊ายบาย...ส่งเราขึ้นเรือ จนกระทั่งเรือไปไกลแล้วก็ยังเห็นเขาโบกมืออยู่ มันเป็นภาพที่ประทับใจมากๆ ค่ะ คือถ้าทริปนี้มีคะแนนเต็ม 5 ก็ให้ 5 เลยค่ะ