หนีเมืองเข้าวัด

สำนักข่าวซินหัวของจีนได้รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ ถึงความนิยมที่มีมากขึ้นจากปุถุชนชาวจีนที่หันมาสนใจการเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามอย่างพระในพุทธศาสนานิกายมหายาน
สำนักข่าวซินหัวของจีนได้รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ ถึงความนิยมที่มีมากขึ้นจากปุถุชนชาวจีนที่หันมาสนใจการเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามอย่างพระในพุทธศาสนานิกายมหายาน ภายในสำนักสงฆ์บนภูเขา หลังจากที่ทางวัด Ci'en ในเมืองหังโจว ประกาศเปิดคอร์สพิเศษให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจบวชในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มาจากเมืองใหญ่
วัด Ci'en ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจีน ในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ได้เชิญชวนทั้งนักบวช และฆราวาส ทั้งเพศชาย และหญิง มาร่วมปฏิบัติธรรมและใช้ชีวิตแบบพระในวัดช่วงระยะสั้น จาก 3 เดือนขึ้นไปจนถึงสูงสุด 1 ปี โดยผู้สนใจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด แต่ตลอดระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ ต้องปฏิบัติกิจตามแบบอย่างพระ และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย รวมทั้งต้องทานอาหารมังสวิรัติเท่านั้น
"โครงการนี้ตั้งเป้าที่จะให้ผู้เข้าร่วมปฏิบัติได้ฝึกฝนทางด้านจิตใจ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง" ข้อความเชิญชวนผ่านเว็บไซต์ของทางวัดชี้แจงจุดประสงค์ของโครงการ และกลายเป็นประเด็นร้อนหลังจากนสพ.ท้องถิ่นได้ข้อความเกี่ยวกับโครงการนี้บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ Sina Weibo หรือทวิตเตอร์ของจีน และกลายเป็นกระทู้เด่นประเด็นดัง จนทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของวัดมหาศาลจนเว็บล่มเลยทีเดียว ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว
หนึ่งในข้อความของบล็อกเกอร์รายย่อยใน Sina Weibo แสดงความรู้สึกต่อโครงการบวชเพื่อปฏิบัติธรรมระยะสั้นนี้ว่า
"ผมหวังเสมอว่าจะหลบลี้จากความกดดันและปัญหาในชีวิตประจำวันของตัวเองไปได้ และอารามพระพุทธที่สุขสงบฟังดูจะเป็นความคิดที่ดีเลยล่ะ"
พระอาจารย์จื๋อตู้ พระมหาสมภารของวัด Ci'en ได้แสดงความประหลาดใจที่ได้รับความสนใจจากคนหนุ่มสาวในโลกออนไลน์มากมายเช่นนี้ เพราะท่านสมภารเห็นว่า การที่วัดพุทธเชิญชวนสาธารณชนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ทางธรรมอย่างพระนั้นเป็นวิถีปฏิบัติปกติของทางวัดอยู่แล้ว โดยท่านสมภารยังได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า เริ่มแรกมีคนสนใจเข้ามาตามข่าวสารเราเพียงจำนวนน้อย และปฏิกิริยาตอบรับเช่นนี้เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทางวัดด้วย
วัดแห่งนี้มีพระสงฆ์จำวัดเพียง 7-8 รูป ภายในบริเวณเขาเถี่ยนไท้ เมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทางวัดเริ่มเปิดโครงการรับพระที่บวชในระยะสั้น แต่นับจากปีนั้นเป็นต้นมา มีพระจำวัดเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งพระสงฆ์เฉพาะกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจากเมืองใหญ่ที่หวังมาปลดทุกข์และความเครียด หรือไม่ก็เป็นคนว่างงานที่ต้องการที่พักพิงชั่วคราว เป็นส่วนใหญ่ ตามคำบอกเล่าของพระมหาสมภาร
อย่างไรก็ตามในปี 2013 มีผู้สนใจสมัครเข้าบวชระยะสั้นมากกว่า 200 คน ซึ่งมีทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัย และนักธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่สมัครบวชในระยะสั้น 3 เดือน ตามคำบอกเล่าของอาสาสมัครคนหนึ่งของวัดที่ดูแลเรื่องใบสมัครของโครงการ
เมื่อผ่านพิธีกรรมการบวชแล้ว พระสงฆ์เฉพาะกิจเหล่านี้ จะเริ่มต้นใช้ชีวิตประจำวันแบบพระ เริ่มวันด้วยการทำวัตรเช้า สวดมนต์ และต่อด้วยการออกกำลังกายแอโรบิคท่ามวยจีน และต้องพำนักอยู่ภายในกุฏิพระที่ทางวัดจัดให้
"มีบางวัดที่เปิดโครงการแบบนี้ และเปิดห้องพักที่มีลักษณะคล้ายห้องพักในโรงแรม แต่วัดเรายืนกรานที่จะให้ผู้เข้าร่วมได้อยู่แบบพระสงฆ์ และปฏิบัติกิจ และรักษาธรรมวินัยอย่างพระทุกประการ รวมทั้งห้ามดื่มสุราเมรัย ห้ามทานเนื้อสัตว์และเนื้อปลา" พระมหาสมภารกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางวัดอนุญาตให้พระสงฆ์เฉพาะกิจนำโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมาใช้ในบริเวณวัดได้ เพื่อให้พวกเขาสามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้บ้าง และมีบริการสัญญานอินเทอร์เน็ตไวไฟแต่จำกัดเป็นช่วงเวลา
กระแสความนิยมต่อโครงการบวชระยะสั้นนี้ พระมหาสมภารจื๋อตู้ ชี้ว่าเป็นภาพสะท้อนถึงชีวิตอันเคร่งเครียดของพลเมืองจีนในเมืองใหญ่ และคนต้องการหนีความกดดันและวิถีชีวิตที่ติดอยู่กับวัตถุนิยมในเมืองใหญ่มาสู่โลกสงบนั่นเอง
"มีคนจำนวนมากที่มองโครงการบวชระยะสั้นเช่นนี้เป็นช่องทางลดความกดดันเคร่งเครียดในชีวิต เพราะวิถีอันเรียบง่ายสมถะของพระ แตกต่างอย่างมากจากวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่อิงความเจริญทางวัตถุ และทำให้ผู้คนหลงทาง จนอยากกลับมาแสวงหาจิตวิญญานของตนอีกครั้ง"
เกงจิ้ง อาจารย์สอนสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ได้แสดงความเห็นว่า พลเมืองในเมืองใหญ่ของจีนกำลังแสวงหาความสุขสงบทางใจ เพราะวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่เร่งรีบทุกอย่าง ปิดกั้นพวกเขาจากการคิดใคร่ครวญสิ่งต่างๆ
"พระพุทธศาสนากำเนิดมาในสังคมกสิกรรมที่ชีวิตก้าวไปอย่างไม่เร่งรีบ และเป็นศาสนาที่สอนเรื่องการใช้ชีวิตและความตาย และปรัชญาทางพุทธหลายๆ อย่างเป็นสิ่งที่ดึงดูดประชาชนในยุคสมัยใหม่จำนวนมากด้วย" อาจารย์สังคมวิทยา ม.เซี่ยงไฮ้ เผย
แต่ความนิยมอันพุ่งสูงจนเป็นกระแสในขณะนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า โครงการนี้จะช่วยพัฒนากล่อมเกลาจิตใจของผู้เข้าร่วมได้จริงหรือไม่ และมีอีกหลายความเห็นที่เป็นห่วงว่า อาจจะมีพวกไม่ตั้งใจจริง ที่แอบแฝงมาร่วมโครงการบวชระยะสั้นนี้ ด้วยจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์ กระทั่งอาจจะกลายเป็นโครงการหาเงินของคนบางกลุ่มได้
"การที่ไม่ตัดขาดการติดต่อโลกภายนอก อาตมาเป็นห่วงว่า ฆราวาสที่มาร่วมโครงการบวชระยะสั้นนี้ จะสามารถตั้งสมาธิกับการศึกษาพระธรรมได้จริงจัง และการใช้คอมพิวเตอร์ก็จะเป็นการก่อกวนสมาธิได้ง่ายด้วย" เจ้าอาวาสแห่งวัดนานฉาน บนเขาวูไท่ มณฑลชานซี แสดงความเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสมาคมพุทธศาสนาแห่งเขาวูไท่ เชื่อว่าโครงการนี้จะให้ประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วม ทั้งบางคที่เคร่งครัดในการปฏิบัติจริงจัง หรือบางคนที่อาจจะหวังมาพักพิงและหนีปัญหาในชีวิตสมัยใหม่เพียงชั่วคราว
"กฎระเบียบเคร่งครัดจะช่วยฝึกนิสัยและบ่มเพาะนิสัยที่ดีได้ และวิถีชีวิตเรียบง่ายสมถะแบบพระจะทำให้คนธรมดาได้ผ่อนคลายและมองเห็นตัวตนได้ชัดเจนขึ้นเอง" เลขาธิการสมาคมพุทธศาสนากล่าว




