คู่รัก ใน คู่กรรม 2556

"คู่กรรมในยุคใหม่ เป็นเหมือนหนังรักวัยรุ่น...และผมเล่นเป็นคนญี่ปุ่น เป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่ง มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องมาทำในประเทศไทย แล้วดันมาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรักเราเลย..แล้วความรักที่เขามีให้ผู้หญิงหนึ่ง ก็เพิ่มพูนขึ้นในแต่ละวัน โดยที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเหตุผลเลย พูดแต่เรื่องของหัวใจครับ" ณเดช คูกิมิยะ

“คู่กรรม” บทประพันธ์อมตะของ “ทมยันตี” นักเขียนนวนิยายยอดนิยม ศิลปินผู้เลือกใช้ตัวอักษรตรึงใจนักอ่าน ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวจินตนาการณ์เกี่ยวกับความรัก กล่าวได้ว่า “คู่กรรม” ชื่อของนวนิยายเรื่องนี้ไม่เคยตกชั้นจากความนิยมเลยสักวินาทีเดียว เป็นสุดยอดของนวนิยายเมืองไทย ที่ได้รับการขานรับจากผู้อ่านทุกระดับมานานกว่าสี่ทศวรรษ

บทประพันธ์หลายเรื่องของเธอนั้นสร้างชื่อเสียง และได้รับการสร้างสรรค์ ถ่ายทอดออกมาหลากหลายรูปแบบทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ และละครเวที ในปีพ.ศ.2556 บริษัท M39 นำวรรณกรรมชั้นเยี่ยมเรื่อง คู่กรรม กลับมาในรูปแบบของภาพยนตร์อีกครั้ง โดยถ่ายทอดผ่านมุมมองของผู้กำกับแถวหน้า เรียว กิตติกร เลียวศิริกุล

เอกลักษณ์เฉพาะของผู้กำกับท่านนี้ มีความชัดเจนว่างานของเขาจะต้องแปลกใหม่และโดนใจวัยรุ่น โดยนักแสดงบท โกโบริและอังศุมาลิน ทั้งคู่ล้วนเป็นมือใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์

โดยเฉพาะนางเอกเป็นนักกีฬาเหรียญทองแบดมินตันเยาวชนแห่งชาติวัย 18 ปี ที่ไม่เคยผ่านงานวงการบันเทิงมาก่อน และฝ่ายชาย ซูเปอร์สตาร์ยุคนี้ แม้ว่าเขาจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านภาพยนตร์ แต่ด้านละคร และโฆษณา ณ เวลานี้ เขาคือผู้ชายที่มีผลงานและค่าตัวสูงเป็นอันดับต้นๆ “ณเดช คูกิมิยะ”

พระเอกชื่อดังเอ่ยปากเล่าถึง คู่กรรม ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาและความกังวลว่า

“ผมไม่เคยดูเรื่องคู่กรรมแบบจริงจัง เคยดูในเวอร์ชั่นพี่เบิร์ดเล่นมาบ้างครับ ที่เขาเคยเอามาเปิดย้อนฉายในโทรทัศน์ ซึ่งตอนนั้นก็เด็กมาก นี้ไม่ได้ว่าพี่เบิร์ด(แก่)นะ (หัวเราะ) ตอนนั้นผม 3 ขวบ แต่ตอนที่ได้มาดูอีกทีเป็นตอนประถม จริงๆแล้ว ก็อย่างที่ผมบอกว่า ผมไม่เคยดูคู่กรรมก่อนๆมาเลย พอได้มาคุยกับพี่เรียว เหมือนกับเป็นหนังเรื่องแรก เพราะผมไม่เคยเล่นภาพยนตร์มาก่อน แล้วก็ได้มาเล่นเรื่องแรกคือ ‘คู่กรรม’ ซึ่งคำว่าคู่กรรม ทำให้ผมกดดันกับอะไรหลายๆ เรื่องเช่น การแสดง จากที่ผมได้คุยกับพี่เรียว เขาก็แนะนำผมว่า แค่เล่นเป็นคนญี่ปุ่นที่มาหลงรักผู้หญิงไทย อย่ามองภาพของคู่กรรมในเวอร์ชั่นก่อนๆ หรือนำเนื้อหาในบทประพันธ์มากดดันครับ"

ณเดช หันมาเล่าอย่างกระตือรือร้นว่า เขาลืมบอกเกี่ยวกับคู่กรรมในยุคนี้ว่า เป็นหนังรักวัยรุ่นและบทบาทของเขา เป็นชายหนุ่มที่มีรักแท้มากเพียงใด
"คู่กรรมในยุคใหม่ เป็นเหมือนหนังรักวัยรุ่น และผมเล่นเป็นคนญี่ปุ่น เป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่ง มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องมาทำในประเทศไทย แล้วดันมาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรักเราเลย เป็นคนขี้น้อยใจ ดื้อด้าน ตลก เป็นคนที่ไม่ท้อถอยต่อเรื่องใดทั้งปวง แล้วความรักที่เขามีให้ผู้หญิงหนึ่ง ก็เพิ่มพูนขึ้นในแต่ละวัน โดยที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเหตุผลเลย พูดแต่เรื่องของหัวใจครับ”

ขณะที่ ริชชี่-อรเณศ ดีคาบาเลส นางเอกหน้าใหม่ เผยว่าเข้ามารับบทนี้ได้อย่างไร
“ริชเป็นนักกีฬาแบดมินตันค่ะ พอดีตอนนั้นเป็นช่วงน้ำท่วม พี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร-ผู้จัดการของ ณเดช และ ริชชี่) มีโอกาสไปเชียงใหม่ และได้ดูริชกำลังซ้อมแบดมินตันอยู่ค่ะ พอพี่เอได้คุยกับคุณแม่ก็เลยชวนว่า ถ้าว่างก็มากรุงเทพฯ แล้วช่วงนั้นริชก็มาที่กรุงเทพฯ มาเจอพี่เอ ก็ให้มาแคสกับพี่เรียว ตอนที่ให้มาแคส พี่เอก็ไม่ได้บอกริชเลยว่ามาแคสเรื่องอะไร พอมาเจอพี่เรียว พี่เขาก็ให้ริชแนะนำตัว ซึ่งริชก็บอกว่าริชมีความสามารถเป็นแค่นักกีฬาแบดมินตัน ไม่เคยเรียนแอ็คติ้งมาก่อน แล้วพี่เรียวก็เลยให้ทดสอบเป็นจิตวิทยา ให้เล่นเกมอะไรพวกนี้ค่ะ”

สำหรับความกังวลว่าคนดูจะเอาไปเปรียบเทียบกับนางเอกคนก่อนๆไหม

“ ริชจะกังวลในเรื่องของการแสดงมากกว่า เพราะเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับริช แล้วริชก็ไม่เคยแสดงอะไรมาก่อน ถ้าในเรื่องของบทแต่ละคนที่เล่นมา การตีความหลายๆอย่างของแต่ละเรื่องแต่ละเวอร์ชั่นก็จะมีการตีความที่ไม่เหมือนกัน อย่างของพี่เรียวก็จะตีความออกมาในอีกแบบหนึ่ง ซึ่งริชคิดว่าไม่น่าจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ อังศุมาลินในเวอร์ชั่นนี้ พี่เรียวเขาก็ตีความออกมาว่าเป็นผู้หญิงดุ เป็นคนมีความมั่นใจ ซึ่งริชก็ต้องเข้าเวิร์กช็อป สร้างตัวละครตามที่พี่เรียวตีความมา แล้วก็มาเรียนรู้กับพี่เรียวเพื่อให้ออกมาตรงกับความต้องการของเขาค่ะ ” ริชชี่ตอบคำถาม ด้วยแววตาใสซื่อ

สำหรับปัญหาในการร่วมงานครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นมือใหม่ในงานแสดงภาพยนตร์ทั้งคู่ ณเดช ตอบว่า หลังจากที่พวกเขาเริ่มสนิทกันแล้ว ทำให้การเถียง การทะเลาะตามบทบาททำได้เต็มที่ แต่ตอนนี้เขาลุ้นและตื่นเต้นกับผลตอบรับจากผู้ชมมากกว่า
"ปัญหาในการร่วมงานก็อย่างที่น้องบอกว่าต้องมาเวิร์กช็อปกัน ค่อนข้างบ่อยมากๆ ให้ความเกรงที่คนไม่รู้จักกันต้องมาเล่นด้วยกันหายไป ก็จะมีนิดหนึ่งบ้าง ในเรื่องของการให้เกียรติ การระวัง แต่ว่าผมกับน้องก็รู้สึกว่าการที่มาเวิร์กช็อปกันบ่อยๆทำให้การเข้าฉากเข้าบทมันง่ายขึ้น การต่อล้อต่อเถียงต่อบทกันทำได้ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ต้องถึงเนื้อถึงตัว ฉากที่ต้องทะเลาะ ต้องตีกันก็ทำง่ายขึ้น ก็ต้องเวิร์กช็อปกันก่อน ค่อนข้างนานพอสมควร ที่กังวลก็น่าจะเป็นเรื่องภาพยนตร์ เรื่องคู่กรรมที่กำลังจะเข้าฉาย ว่าจะเป็นยังไงบ้าง จะถูกใจแฟนๆที่รอดูรึเปล่า น่าจะเป็นเรื่องของการลุ้นมากกว่าสำหรับภาพยนตร์คู่กรรมในครั้งนี้ " ณเดชตอบ พร้อมกับปั้นหน้า และท่าทางที่พ้องกับคำบอกเล่าว่า "ตื่นเต้น ๆ "

สุดท้าย ณเดช เผยว่า คู่กรรม ในยุคของเขามาในแนว(หนัง)น่ารัก
“พี่เรียวมีมุมมองในแบบของพี่เรียวที่ผมก็บอกไม่ได้ ต้องรอดูในหนัง บทหนังก็เป็นแนวโรแมนติกดราม่า มีเสียงหัวเราะปนๆไปด้วย ซึ่งผมได้นั่งดูบางฉาก ผมก็ว่า น่ารักดีนะ ผมว่าถ้าคนดูไม่ได้ยึดติดกับความเป็นบทประพันธ์มากจนเกินไป เหมือนกับ Harry Potter อย่างนี้ (ที่หนังถ่ายทอดบทประพันธ์อย่างตรงไปตรงมา) และไม่ได้ยึดติดกับเวอร์ชั่นเก่าๆ ไม่คิดที่จะเปรียบเทียบอะไร"

"เวอร์ชั่นนี้ทำให้คนดูรู้สึกว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นเรื่องหนึ่งที่ดึงเอาโกโบริกับอังศุมาลินเข้ามา แล้วก็นำเสนอออกมาในลู่ทางของพี่เรียว ผมว่าคนดูน่าจะถูกใจแฟนๆหลายๆ คน ที่ยังรอคอยอยู่ เพราะมีความน่ารัก ที่ทะเลาะกันตลอดเวลา ด่ากันตลอดเวลา ซึ่งคนดูก็อาจจะขำขึ้นมาเองกับการสนทนาของคนสองคนทั้งคู่ ที่โกโบริกับอังศุมาลิน คุยกันแต่เข้าใจไม่ตรงกัน ทำให้เข้าใจกันคนละเรื่อง”

คู่กรรม เปิดฉายในโรงภาพยนตร์เริ่ม 4 เมษายนศกนี้

-----------------

นักแสดงนำ บทโกโบริและอังศุมาลิน ใน ละคร/ภาพยนตร์ คู่กรรม ฉบับที่ผ่านมา ระหว่างปี พ.ศ.2513-2556 :

พ.ศ. 2513 ละครโทรทัศน์ :มีชัย วีระไวทยะ บุศรา นฤมิตร
พ.ศ. 2515 ละครโทรทัศน์ :ชนะ ศรีอุบล ผาณิต กันตามระ
พ.ศ. 2516 ภาพยนตร์ :นาท ภูวนัย ดวงนภา อรรถพรพิศาล
พ.ศ. 2521 ละครโทรทัศน์ :นิรุตต์ ศิริจรรยา ศันสนีย์ สมานวรวงศ์
พ.ศ. 2531 ภาพยนตร์ :วรุฒ วรธรรม จินตหรา สุขพัฒน์
พ.ศ. 2533 ละครโทรทัศน์ :ธงไชย แมคอินไตย์ กมลชนก โกมลฐิติ
พ.ศ. 2538 ภาพยนตร์ :ธงไชย แมคอินไตย์ อาภาศิริ นิติพน
พ.ศ. 2547 ละครโทรทัศน์ :ศรราม เทพพิทักษ์ พรชิตา ณ สงขลา
พ.ศ. 2556 ละครโทรทัศน์ : สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว หนึ่งธิดา โสภณ
พ.ศ. 2556 ภาพยนตร์ : ณเดชน์ คูกิมิยะ อมราวดี ดีคาบาเลส
-------