คลายเบอร์ - มูติ - คารายาน กับเบื้องหลังการอำนวยเพลง

คลายเบอร์ -  มูติ - คารายาน กับเบื้องหลังการอำนวยเพลง

แง่มุมการทำงานของคอนดักเตอร์ในวงการเพลงคลาสสิก

คำถามหนึ่งที่ผู้เขียนมักถูกถามบ่อยครั้ง คือ วาทยกรมีหน้าที่ทำอะไร? ออกมายืนเต้นแร้งเต้นกาหน้าวง ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรีสักชิ้น มีเพียง “ไม้บาตอง” อยู่ในมือเท่านั้น


ถ้าตอบอย่างคนชอบฟังเพลงคลาสสิก ที่ไม่ใช่นักดนตรีหรือนักวิชาการ คงตอบว่า นักดนตรีในวงออร์เคสตรามีหลายสิบคน แต่ละคนเล่นพร้อมกัน อาจนับจังหวะช้าเร็วไม่ตรงกัน เลยต้องมีผู้นำสักคนเป็นศูนย์กลางให้จังหวะ เพื่อนักดนตรีทุกคนในวง เล่นดนตรีในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน

พอมาถึงเรื่องการ “ตีความเพลง” วงออร์เคสตรา ต้องการใครสักคนที่จะมาบอกว่า วลีเพลง ประโยคเพลง หรือเพลงแต่ละท่อน ควรจะเล่นให้ได้สุ้มเสียงและสีสันดนตรีอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการตีความเพลง เล่นดนตรีไปคนละทิศละทาง

ลึกลงไปอีก วาทยกรถึงไม่ได้เล่นเครื่องดนตรี แต่ต้องฝึกฝนโสตประสาทด้านดนตรี เพื่อความแม่นยำเสียง สามารถระบุได้ว่านักดนตรีเล่นออกมาได้เสียงและจังหวะถูกต้องตามโน้ตและสกอร์เพลงหรือไม่

การใช้ภาษาท่าทาง เพื่อสื่อสารบอกถึงสีสันทางดนตรี ที่นักดนตรีในวงควรจะเล่นออกมา เพื่อให้ตรงกับความต้องการของวาทยกร ซึ่งวาทยกรเองก็ต้องตีความและเล่นดนตรีออกมาให้ตรงกับความต้องการของผู้แต่งเพลง

ถ้าถามลึกๆ ลงไปถึงหน้าที่และบทบาทของวาทยกร ผู้เขียนอยากแนะนำให้ฟังการบรรยายและดูคลิปการอำนวยเพลงของวาทยกรชื่อดังหลายคน ในเว็บไซต์ “เทด ดอด คอม” http://www.ted.com/playlists/79/maestros_if_you_please.html บรรยายโดย อิเทย์ ทัลกัม (Itay Talgam) ในหัวข้อสนทนา Lead like the great conductors

TED เป็นคำย่อของ Technology, Entertainment and Design เว็บไซต์ที่ส่วนหนึ่งเป็นการบรรยายหรือสนทนา เรื่องราวศาสตร์ต่างๆ จากผู้รู้ในแต่ละวงการ รวมถึงรายการที่ว่าด้วยดนตรีคลาสสิก ซึ่งอยู่ในส่วนของรายการ TED Talks by Classical Musicians สามารถดาวน์โหลดคลิปภาพชัดเจน พร้อมคำบรรยายภาษาต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย (ยกเว้นภาษาไทย) มาเก็บไว้ชมและศึกษาได้อีกด้วย

อิเทย์ ทัลกัม เป็นวาทยกรชาวอิสราเอล เริ่มต้นเรียนเปียโน ต่อมาหันเหไปเรียนต่อด้านการอำนวยเพลงกับวาทยกรชื่อดังหลายคน อาทิ เลอะนาร์ด เบิร์นสไตน์, เซอิจิ โอซาวา, ลิออน ฟลายเชอร์

นอกจากโดดเด่นด้วยการเป็นวาทยกรวงออร์เคสตราหลายวงแล้ว ทัลกัมยังสนใจ เชี่ยวชาญ และเป็นผู้บรรยายเรื่องราวด้านการบริหารจัดการ โดยอิงกับเรื่องการเป็น “ผู้นำ” วงออร์เคสตรา

ผู้เขียนฟังและชมการบรรยายของทัลกัม ประกอบคลิปการอำนวยเพลงของ คาร์ลอส คลายเบอร์, ริคคาร์โด มูติ และ แฮร์เบิร์ตเบิร์ต ฟอน คารายาน แล้ว เกิดความเข้าใจ (อย่างลึกๆ) ถึงเบื้องหลังการทำงานของวาทยกรแต่ละคนมากขึ้น
สำหรับวงออร์เคสตราระดับนักเรียนดนตรี อาจต้องการวาทยกรที่ให้จังหวะชัดเจน ให้ “คิว” นักดนตรีได้ทุกกลุ่มทุกเครื่องมือ ทำให้ “มือใหม่” เกิดความมั่นใจในการเล่น

แต่สำหรับนักดนตรีอาชีพที่เล่นในวงออร์เคสตราชื่อดัง การนับจังหวะไม่ใช่เรื่องต้องกังวล อีกต่อไป แล้ววาทยกรดังกับวงดัง นักดนตรีฝีมือเยี่ยม ทำงานร่วมกันอย่างไร?

อิเทย์ ทัลกัม ผู้บรรยายในเครื่องแต่งกายเรียบง่าย สบายๆ ดูจะเป็นเอกลักษณ์ของการสนทนารายการ “เทด” ที่ต้องการทลายกำแพงความน่ากลัวของดนตรีคลาสสิกออกไป เพื่อเข้าถึงมหาชนทั่วไปได้ง่ายขึ้น เริ่มการสนทนาด้วยการให้ผู้ชม ชมและฟังคลิปการอำนวยเพลงของ คาร์ลอส คลายเบอร์ วาทยกรชื่อดัง ที่มีลีลาท่าทางการอำนวยเพลง “หนึ่งเดียว” ไม่เหมือนใคร อำนวยวงเวียนนา ฟิลฮาร์โมนิค ออร์เคสตรา บรรเลงเพลง Radetzky March พร้อมเสียงปรบมือเข้าจังหวะเพลง จากผู้ชมผู้ฟังในรายการ นิวเยียร์ คอนเสิร์ต ฟรอม เวียนนา

เป็นคลิปตัวอย่างที่เขาต้องการนำเสนอประเด็นที่ดีของ การเป็นหนึ่งเดียวกัน ระหว่าง วาทยกร, นักดนตรี และผู้ชมผู้ฟังการแสดง

ในคลิปนี้ นักดนตรีในวงแทบไม่ได้มองดูวาทยกร วาทยกรก็อำนวยเพลงแบบหลวมๆ สบาย ไม่กดดันนักดนตรี ผสมกับตอนที่ผู้ชมผู้ฟังปรบมือพร้อมกับเพลง เป็นปรากฏการณ์ที่ทัลกัมเรียกว่าเป็น “เอกภาพ” ของการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ดนตรีร่วมกัน

คลายเบอร์กำลังมีความสุขและสนุกกับการอำนวยเพลง เขากำลังเผื่อแผ่ความสุขไปสู่คนอื่นๆ ความสุขในการสร้างสรรค์ดนตรีของคลายเบอร์คือ

เขาสามารถทำให้คนอื่นๆ (นักดนตรีและผู้ชมผู้ฟัง) เล่าเรื่องราวของตนเองผ่านเสียงดนตรี หรือแม้มีส่วนร่วมเพียงการปรบมือไปพร้อมกับเสียงดนตรี

ทัลกัมบอกว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ ล้วนได้ยินพร้อมกัน เป็นประสบการณ์แท้จริงของการไปชมการแสดงสด นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องออกนอกบ้านไปฟังเพลง ทัลกัมเชื่อว่าคลายเบอร์ ให้อิสระกับนักดนตรี ในการตีความเพลง เล่นดนตรีในแบบที่ตนเองต้องการออกมา

ผิดตัวอย่างการอำนวยเพลงของ ริคคาร์โด มูติ ในคลิปที่สอง อำนวยเพลงอุปรากรเรื่อง ดอน จิโอวานนี เขาอำนวยเพลงได้ยอดเยี่ยม ชัดเจน มีพลังสั่งการที่เด็ดขาดผ่านภาษาร่างกาย ซึ่งทัลกัมคิดว่า บางครั้งมูติอาจจะอำนวยเพลงชัดเจนมากเกินสักนิด

มูติมีท่าทางการอำนวยเพลง เพื่อสั่งการสิ่งที่นักดนตรี “ต้องเล่น” และ “ต้องไม่เล่น” ตามที่เขาต้องการอย่างชัดเจน
การที่มูติต้องการให้นักดนตรีเล่นตามที่ตนเองตีความนั้น เขาให้เหตุผลว่า “ผมมีความรับผิดชอบต่อการแสดงดนตรี” กล่าวคือ เล่นตามที่เขาคิดและตีความว่า โมสาร์ทต้องการให้เล่นแบบนั้น

ผลของสไตล์การอำนวยเพลงและตีความเพลงอันเด็ดขาด ต้องการให้นักดนตรีเล่นตามที่วาทยกรต้องการ ทัลกัมเล่าให้ฟังในการบรรยายว่า

“คุณรู้ไหมว่า เกิดอะไรขึ้นกับมูติ เขาได้รับจดหมาย เซ็นชื่อโดยลูกจ้าง 700 คนของ ลา สกาลา (โรงแสดงอุปรากรในประเทศอิตาลี ที่มูติเคยเป็นผู้อำนวยการดนตรี - ผู้เขียน) ผมหมายถึงนักดนตรีนะครับ จดหมายบอกว่า “คุณเป็นวาทยกรที่ยิ่งใหญ่ เราไม่ต้องการทำงานกับคุณ กรุณาลาออกเสียเถิดครับ”

“ทำไมหรือครับ เพราะคุณไม่ให้โอกาสพวกเราได้พัฒนา คุณใช้เราแค่เป็นเครื่องดนตรีเท่านั้น ไม่ใช่คนทำงานดนตรีร่วมกัน หรือ ไม่ใช่หุ้นส่วนทางดนตรีด้วยกัน”

นี่คือตัวอย่าง วาทยกร ที่ รวบอำนาจเบ็ดเสร็จในการบรรเลงดนตรี โดยไม่ให้อิสระกับนักดนตรีในการตีความเพลง

คลิปต่อมา ทัลกัมต้องการนำแสดงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการอำนวยเพลงของมูติ การอำนวยเพลงของ ริชาร์ด สเตร๊าส์ ท่าทางและสไตล์การอำนวยเพลงแบบหลวมๆ ง่ายๆ ไม่ออกลีลามาก มองดูน่าเบื่อ น่าเซ็ง เพราะสเตร๊าส์ต้องการปล่อยให้เสียงดนตรีจากการบรรเลงของนักดนตรีดำเนินไปอย่างอิสระ โดยเขาไม่เข้าไปสอดแทรก ควบคุมการบรรเลง

เขาต้องการให้นักดนตรีเล่นตรงตามโน้ตเพลงและเครื่องหมายต่างๆ ที่เขียนไว้ในสกอร์เพลง ไม่ใช่การบรรเลงที่เกิดจากการตีความเพลงเองของนักดนตรี

มาถึงคลิปของ เฮอร์เบิร์ต ฟอน คารายาน วาทยกรผู้ยิ่งใหญ่ ผู้หลับตาระหว่างการอำนวยเพลง และท่าทางการอำนวยเพลงที่แขนทั้งสองข้างหมุนวนไปมารอบๆ ไม่ได้บ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการในการบรรเลงให้นักดนตรีรับรู้เลย

ทัลกัมเล่าว่า “ผมสามารถบอกพวกคุณได้เลยว่า แม้แต่นักดนตรีวงเบอร์ลิน ฟิลฮาร์โมนิค ออร์เคสตรา เอง ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่นเมื่อไร และควรจะเล่นอย่างไร”

“แต่ผมจะบอกคุณว่า พวกเขาทำอย่างไร นี่คือวงออร์เคสตราของเยอรมัน นักดนตรีมองไปที่คารายาน จากนั้นก็มองหน้ากันและกัน พูดว่า คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าคารายานต้องการให้เราเล่นอย่างไร หลังจากพูดเช่นนั้นแล้ว นักดนตรีมองซึ่งกันและกัน และหัวหน้ากลุ่มเครื่องดนตรีต่างๆ ก็จะเล่นนำวงทั้งวง ให้เล่นไปพร้อมๆ กัน”

เมื่อมีคนถามคารายานในเรื่องนี้ เขาบอกตรงๆ ว่า

“ใช่ครับ ความเสียหายหนักที่สุด ที่ผมเคยก่อให้เกิดขึ้นกับวงออร์เคสตรา คือการให้คำแนะนำในการเล่นที่ชัดเจน เพราะถ้าผมทำเช่นนั้นจะทำให้นักดนตรีในวงไม่ฟังซึ่งกันและกัน การฟังซึ่งกันและกันระหว่างการบรรเลงดนตรี เป็นสิ่งที่ต้องการยิ่งในวงออร์เคสตรา”

“เทด ทอล์คส์” ในส่วนของดนตรีคลาสสิก เป็นรายการ “สนทนา” ที่ทำให้เข้าใจการทำงานของวาทยกรแต่ละคนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องราวอื่นๆ ทางดนตรี.