สีสันชีวิต&บทเพลง‘เปิ้ล-หัทยา’

สีสันชีวิต&บทเพลง‘เปิ้ล-หัทยา’

เป็นนักจัดรายการวิทยุ ที่มีสไตล์เฉพาะตัว ผู้บริหารและคุณแม่ลูกสอง และนี่คือสีสันส่วนหนึ่งในชีวิต

กว่า 30 ปีที่เปิ้ล-หัทยา วงษ์กระจ่าง ส่งเสียงแจ้วๆ จัดรายการวิทยุ เปิดเพลง แล้วชวนคุยเรื่องชีวิตและสังคม ทั้งในกระแสและนอกกระแส และวันนี้เธอก็ยังคงนั่งอยู่หลังไมค์ ทำงานที่ตัวเองรักอย่างมีความสุข พร้อมๆ กับเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทอินดิเพนเด้นท์ คอมมูนิเคชั่น เนตเวิร์ค จำกัด โดยดูแลคลื่น เก็ท 102.5 ,103.5 เอฟ.เอ็ม.วัน และเลิฟ เรดิโอ 104.5 นอกจากนี้เธอยังทำรายการคิดถึงจัง ทางมะจังทีวี ทรูวิชั่นส์ ช่อง 82 และปีนี้รับแสดงละครทีวีอีกสอง

ชีวิตอีกด้านเป็นคุณแม่ลูกสอง เธอสร้างสมดุลระหว่างงานกับครอบครัวอย่างไร ระหว่างสนทนาเธอบอกว่า ปกติจะให้อิสระลูก แต่เป็นอิสระที่มีกรอบ รวมถึงเรื่องราวชีวิตคู่กับห้วงเวลาที่ตกผนึกทางความคิดและผ่านร้อนผ่านหนาว พร้อมๆ กับจุดยืนที่มั่นคง โดยยึดหลักว่า ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข ไม่กอบโกยมากไป...

งานบริหารคลื่นวิทยุในปีนี้วางแนวทางอย่างไร
เท่าที่จัดรายการมา กลายเป็นว่าคลื่นเพลงลูกทุ่งขายดี ซึ่งไม่ใช่ความถนัดของเรา เราถนัดเพลงไทยและเพลงสากล เราจัดรายการมา 30 กว่าปี ครั้งแรกจัดรายการเพลงสากล จำได้ว่าตอนนั้นทำงานกับคุณพ่อของนิโคล เทริโอ หลังจากนั้นเป็นดีเจเต็มตัว ก็อยู่กับเพลงไทยมาตลอด แต่รสนิยมการฟังจะเป็นเพลงสากล ส่วนเพลงไทยก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราเป็นนักจัดรายการวิทยุ หัวใจเราก็อยู่กับเพลงและรายการ พอคาดเดาคนฟังเพลงได้ ถึงแม้บางคนจะร้องเพลงไม่เป็น เล่นดนตรีไม่ได้ แต่การฟังเพลงเหมือนเติมอะไรให้ชีวิต

ยังคงมีจุดยืนที่มั่นคงตามแบบฉบับของเปิ้ล-หัทยา ?
เราอยู่วงการบันเทิงมานาน และอายุมากขึ้น มีวุฒิภาวะ ทั้งเรื่องการดำเนินชีวิตและสังคม เวลาจัดรายการ อาจไม่ถึงกับเน้นเรื่องการเมืองหรือศีลธรรม ยกตัวอย่างเราคุยเรื่องนโยบายรถคันแรก เราก็ให้แสดงความเห็นว่าจำเป็นไหม แต่เราไม่ได้บอกว่า ถูกหรือผิด เราก็ให้ความรู้ อยู่ที่คนฟังจะนำส่วนไหนไปใช้กับชีวิต

การพูดคุยเรื่องสังคม เปิดกว้างแค่ไหน
ขอยกตัวอย่างเรื่องที่เกี่ยวกับเด็ก ปัจจุบัน...ทำไมเด็กที่อยู่ในชุดนักเรียนกล้าที่จะดื่มเหล้า สูบบุหรี่และพูดคำหยาบ เรื่องแบบนี้เราไม่มีวันเข้าใจเลย เพราะเราถูกสอนมาว่า ต้องรักสถาบัน รักโรงเรียน ไม่ทำให้เสียชื่อเสียง ในยุคหนึ่งเราก็ไม่กล้าที่จะทำสิ่งเลวร้าย แต่เราก็ต้องเข้าใจ เด็กๆ วุฒิภาวะยังไม่โตพอ เรื่องแบบนี้ถ้าพ่อแม่ฟังอยู่ เราก็พูดกับพ่อแม่ สื่อสารและชี้นำ ซึ่งเราจะทำหน้าที่ตรงนี้

ในฐานะที่มีลูกวัยรุ่น มีวิธีการดูแลอย่างไร
จะบอกลูกว่า ต้องให้เกียรติโรงเรียน เวลาอยู่ในชุดนักเรียน ไม่ควรทำอะไรไม่ดี เราต้องบอก แต่สังคมทุกวันนี้ อิสระและเสรีภาพเยอะไป ใครอยากโพสต์อะไรในอินเตอร์เน็ตก็ได้ บางทีก็มากไป เรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่ต้องควบคุม แต่อาจควบคุมไม่อยู่ เราสามารถนำมาพูดคุยในรายการ โดยไม่ให้คนฟังรู้สึกว่า ฉันกำลังสอนเธออยู่ เราไม่มีสิทธิสอนคนฟัง แต่เรามีสิทธิให้สิ่งที่งดงามและมีคุณค่า

พอมีลูกแล้ว บางครั้งเราก็จำเป็นต้องสอนลูกให้คิดหนักแน่นขึ้น บางทีคิดหนักแน่น ไม่จำเป็นต้องคิดบวกอย่างเดียว ยกตัวอย่าง ถ้าสิ่งที่เราทำ คนอื่นบอกว่าดี สร้างชื่อเสียงและเงิน แต่ถ้าทำแล้วไม่มีความสุข ไม่จำเป็นต้องทำ ก็เลือกทำอย่างอื่นที่ทำให้เรามีความสุข แม้จะไม่ได้เงินเยอะ

ให้อิสระลูกแค่ไหนคะ
ลูกเคยเรียนโรงเรียนรุ่งอรุณ ถูกสอนมาแบบไทยๆ ถอดรองเท้าวิ่ง เรียนวิธีปลูกต้นไม้ ดำนา ปลูกข้าว จึงมีพื้นฐานตรงนี้ ตอนนี้ลูกสาวเรียนโรงเรียนร่วมฤดี ชั้นมัธยมปีที่ 5 เราก็ให้อิสระ แต่มีกรอบ ถ้าลูกอายุไม่ถึง 15 ปีจะไม่ค่อยให้อิสระมาก แต่ตอนนี้อายุ 16 ปีก็อนุญาต แค่ให้พ่อแม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน ถ้าพ่อไม่ไปรับ แม่ก็ไปรับ จะไม่ให้ค้างบ้านเพื่อน เวลาลูกๆ ขอไปงานวันเกิดเพื่อน แม้จะมีเครื่องดื่มมึนเมา ลูกก็จะรู้ว่า อะไรควร ไม่ควร เราก็ไว้ใจ ไม่ต้องถาม ถ้าลูกบอกว่าจะกลับบ้านกี่โมง ก็ให้คนขับรถคอย เรารู้ว่าจะไว้ใจลูกในจุดไหน และจุดไหนควรให้ลูกระวัง

เป็นธรรมดาที่วัยรุ่นต้องออกนอกกรอบบ้าง
มี...อย่างเวลาโดนเพื่อนล้อ เพราะเขาเป็นลูกหัทยาและศรัณยู ซึ่งเราไม่ได้หวังว่า ลูกต้องเก่งหรือได้เกรดเอตลอด แค่ไม่โดดเรียน สอบไม่ตก แต่ปกติลูกก็ไม่หนีเรียนและทำอย่างอื่นได้ดี เล่นดนตรี เล่นกีฬา ทั้งๆ ที่เราไม่เน้นเรื่องเรียน แต่บางครั้งลูกก็ฮึด อยากเรียนให้ได้เกรดเอ เราก็เตือนลูกว่า อย่าเยอะเกินไป อย่าทำเพื่อสนองความต้องการ เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าเก่ง ต้องมีความสุขในการทำสิ่งนั้นด้วย ไม่อยากให้ลูกกดดันตัวเอง เพราะการเป็นลูกหัทยาและศรัณยู ก็ถูกกดดันหลายเรื่องแล้ว

สนิทกับลูกไหม
เหมือนเป็นเพื่อนกัน สนิทกัน ลูกสามารถถามได้ว่า แม่มีแฟนตอนอายุเท่าไหร่ แม่จูบกับผู้ชายตอนอายุเท่าไหร่ เราจะคุยกันทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องเรียน เพื่อนผู้หญิง เพื่อนผู้ชาย เรื่องร้องเพลง เรื่องเต้น เรื่องไปเที่ยว

มีช่องว่างที่ไม่เข้าใจกันไหม
กลับกลายเป็นเรื่องการทำงานวงการบันเทิง บางทีเป็นช่องว่างที่ลูกคิดว่า มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ แม้ลูกจะชอบวงการบันเทิง ดนตรี และการแสดง แต่กลัวคนว่า เพราะเป็นลูกหัทยาและศรัณยู เขาก็อยากพยายามด้วยตัวเอง ไม่อยากเข้าวงการเพราะพ่อแม่ ซึ่งเป็นทั้งจุดดีและไม่ดี จุดดีคือ ทำให้เขาฝึกฝนด้วยตัวเอง แต่จุดไม่ดี คือ คิดเยอะไป บางทีก็น่าเป็นห่วง

ชีวิตคู่เป็นอย่างไรบ้าง
เราอยู่ด้วยกันกว่า 20 ปี เพราะอยู่กันมานาน และเคยมีข่าวว่าแยกกันอยู่ ช่วงนั้นพี่ตั้วไปยุ่งกับการเมืองเยอะ เราก็ไม่ได้ห้าม ครอบครัวเราไม่ได้คุยกันแค่ไปเที่ยวที่ไหน เรายังคุยกันเรื่องความเป็นอยู่ของประเทศชาติ เศรษฐกิจ และอนาคต เพื่อให้ลูกได้รู้สึกว่า ชีวิตคนเราต้องสนใจเรื่องอื่นด้วย เราทั้งสองอาจดูซีเรียสในบางเรื่อง

ข่าวที่ออกมาสะเทือนกับความสัมพันธ์ไหม
ตอนนั้นลูกกำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น จึงไม่มีผลต่อชีวิตมากนัก เพราะเราก็ชอบทำงาน พี่ตั้่วก็ไปเรื่องการเมือง ซึ่งเราก็เคารพในสิทธิของเขา เข้าใจเขา เราเจอกันก่อนช่วงพฤษภาทมิฬ มีความคิดคล้ายๆ กันในเรื่องบ้านเมืองและความเป็นอยู่ ดังนั้นเรื่องราวที่เราคุยกันไม่ใช่แค่ความบันเทิง พอพี่ตั้วมีมุมมองทางการเมืองมาก เราก็เข้าใจว่าเขาอยากทำ แต่สิ่งที่เราควรทำคือ หยุด เพราะคนหนึ่งก็ไปแล้ว เราก็ทำงานด้านสื่อมวลชน มีลูกต้องดูแล เราแค่รู้ว่า พี่ตั้วอยู่ที่ไหน มีอันตรายไหม ต้องขับรถไปรับไหม มีผลกระทบต่อครอบครัวไหม

ตอนนั้นถูกคุกคามไหม
ตอนสถานการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เราทั้งคู่และครอบครัวถูกคุกคามว่าจะวางระเบิด แม้จะเครียด แต่ก็ผ่านไปได้
สถานการณ์ตอนนั้น ลูกๆ เข้าใจอย่างไร

เข้าใจ ลูกๆ ได้ฝึกตัวเอง จากเด็กที่ค่อนข้างยอมคน เฉยเมย กลายเป็นเด็กแข็งแรงขึ้น ลูกเคยรับโทรศัพท์ มีคนโทรมาบอกว่า “มารับศพพ่อแกเดี๋ยวนี้” จากเด็กที่รับโทรศัพท์แล้วร้องไห้...กลายเป็นเด็กที่สามารถตอบได้ว่า “พ่อนอนอยู่ตรงนี้จะคุยไหม” ทำให้เรายิ้มทั้งน้ำตา ลูกสามารถตอบอย่างมีสติ และลูกพูดคุยกับเพื่อนๆ ว่า ถ้าไม่มีใครใส่ใจบ้านเมืองเลย แล้วสังคมจะเป็นยังไง พี่ตั้วปลูกฝังลูกว่า "พ่อเป็นนักแสดง มีอาชีพ มีกินทุกวันนี้ เพราะเงินของประชาชน ในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ควรที่จะออกไปแสดงเจตจำนงบ้าง" แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเล่นการเมือง เราก็อธิบายให้ลูกฟังตลอด ดีใจที่ลูกรู้ว่า ประเทศชาติเดินไปในทิศทางไหน อย่างลูกถามว่าทำไมต้องมีนโยบายรถคันแรก แล้วทำไมอายุแค่นี้ต้องขับรถ

ชีวิตคู่...ผ่านทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย แล้วประทับใจเรื่องใดที่สามีเลือกที่จะทำ
ในช่วงตั้งครรภ์ ช่วงนั้นพี่ตั้วโด่งดังจากเรื่องมนตร์รักลูกทุ่ง มีบริษัทโฆษณาติดต่อเข้ามาเยอะ เพื่อให้พี่ตั้วแสดงโฆษณาเครื่องดื่มมึนเมา พี่ตั้วบอกว่า ถ้าไปโฆษณาก็เท่ากับหลอกตัวเอง เพราะเลิกดื่มเหล้าและเลิกสูบบุหรี่แล้ว ถ้าไปโฆษณาก็เอาเงินอย่างเดียว พี่ตั้วบอกว่า เราได้เงินจากการเดินสายออกคอนเสิร์ตเยอะแล้ว ต้องรู้จักพอ นั่นเพราะเขาไม่ใช่คนกอบโกยหรือเห็นแก่เงิน

เพราะการเมือง ทำให้บางรายการเลิกจ้างศรัณยู ในฐานะภรรยาให้กำลังใจอย่างไร
ตอนที่พี่ตั้วถูกถอดจากรายการทีวี ก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่เราเคารพในการตัดสินใจของกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อยู่กับพี่ตั้วมา 20 ปี เขาไม่เคยทำสิ่งที่เลวร้ายหรือไม่ให้เกียรติเรา อาจมีบ้างที่โมโหกัน อย่างเรื่องรับงานการแสดง ถ้าไม่จำเป็นเขาก็ไม่อยากให้เล่นหนังหรือละคร เพราะเรามีอาชีพเป็นนักจัดรายการวิทยุ ต้องดูแลบริหารคลื่นวิทยุ แล้วก็ดูแลลูกๆ แต่เพิ่งรับละครไว้สองเรื่อง เพราะสัญญากันไว้นานแล้ว

ดูแลความสัมพันธ์ในชีวิตคู่อย่างไร
บางเรื่องเราก็เป็นคนยอม การยอมไม่ได้หมายถึงแพ้นะ แต่ยอม เพื่อไม่ให้ต่อความยาว สาวความยืด ตอนที่เขาทำละครน้ำพุ ก็คิดว่า เป็นละครเรื่องแรก มีเท่าไหร่ใช้เต็มที่ ล่าสุดละครเรื่องหลังคาแดง ก็ยอมขาดทุนกว่าล้านบาท
ในฐานะผู้บริหารคลื่นวิทยุ คุณตอบแทนสังคมอย่างไร

ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าจะได้อะไรมากขนาดนี้ ก็เลยอยากคืนกลับสังคม เราไม่สามารถเอาทุกอย่างโดยไม่ให้คนอื่น เราไปสร้างโรงเรียน ทาสีห้องสมุด ทำคอนเสิร์ตเพื่อหาเงินให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าจะสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร ก็แค่เอาเงินไปบริจาค แต่เราไม่ทำอย่างนั้น เราลงมือทำด้วยกัน