20 ปี ดีวานา...สร้างแรงปรารถนาในการทำงาน

"ผ่านมาทุกช่วงแล้ว ตั้งแต่กีฬาสี ภัยธรรมชาติสึนามิ น้ำท่วมใหญ่ ไข้หวัดต่าง ๆ ผ่านมาหมดทุกอัน ภูมิต้านทานเราก็แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่คราวนี้หนักสุด...”
ในวันวิกฤติ ธเนศ จิระเสวกดิลก หรือ “ตง” CEO และ Co-Founder ดีวานา เวลเนส (Divana Wellness) เล่าถึงบทบาทอันหนักหน่วง ในฐานะผู้ก่อตั้ง ดีวานา สปา ที่ต้องดูแลธุรกิจและผู้คนในปกครองนับหลายร้อยชีวิต
ธเนศ จิระเสวกดิลก (ภาพ : วันชัย ไกรสรขจิต)
วิกฤติครั้งนี้หนักหนานัก
“ใช่ เพราะโรคระบาดไม่ได้เกิดแค่พื้นที่ของเรา..การปิดตัวเอง ไม่มีการเดินทาง ไม่มีใครไปหาใคร สิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้คือทำอย่างไรให้อยู่รอดในสภาวะที่ไม่รู้ว่าอุโมงค์อยู่ตรงไหน เราจะขึ้นจากน้ำได้เมื่อไหร่ เราจึงต้องดำน้ำให้นานที่สุด
เรามีพนักงานกว่า 400 คน ตอนนี้ทำอย่างไรที่จะสู้กับช่วงที่โหดร้ายที่สุด เราสร้าง “ดีวาเนียน คัลเจอร์” ความหมายคือ ต้องทำงานด้วยแพสชั่น (passion) จากจุดเริ่มที่เราทำธุรกิจที่เรารัก สนุก เราชอบ มันคือแพสชั่นมันก็ไม่เหนื่อย และเราต้องต่อยอดของแพสชั่นว่าอะไรคือเป้าหมาย เป็นเป้าหมายของเราและองค์กร ทุกคนต้องทำงานแล้วมองเห็นเป้าหมาย ต่อไปคือความอยู่รอดให้ได้ (survivor) หรือไดนามิก เคยถนัดมือขวาตอนนี้ต้องใช้มือซ้าย เคยวิ่งอยู่บนบกตอนนี้ต้องว่ายน้ำให้เป็น ทำบัญชีมาต้องมาทำก่อสร้าง ทำการตลาดต้องขายของมาขายของด้วย ต่อไปถ้าใครทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เอไอจะมาทำหน้าที่แทน เช่นตอนนี้มีเตียงมีเครื่องจักรนวดนวดแทนคนแล้ว ทำยังไงเราจะรอดพ้น เราต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น และนำองค์ความรู้ที่เรามีเข้าไปผสมผสาน เหมือนกับไฮเทคที่ครอบโดย ไฮทัช หรือฮิวแมนทัช
อย่าคิดว่านี่คือวิกฤติที่แย่ที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเจอกับอะไร ไวรัสผ่านไปก็อาจจะมีอย่างอื่นที่หนักหนามาอีกก็ได้”
ดีวานา ก่อตั้งมากี่ปีแล้ว ?
“ก่อตั้งปี 2001 เกือบ 20 ปี สาขาแรกสุขุมวิท 25 เป็นเดย์สปา ที่ใช้บ้านเก่ามาทำเป็นสปา จากนั้นก็กลายเป็นคอนเซปต์และจุดแข็งของดีวาน่า ที่เอาบ้านโบราณ บ้านเรือนไทยเก่ามาทำสปา ผมกับตี๋ (ผู้ร่วมก่อตั้ง พัฒนพงศ์ รานุรักษ์) ทำงานด้วยกันที่สายการบินสวิสแอร์ เจอกันครั้งแรกที่นั่น จากประสบการณ์การทำงานช่วงนั้นทำให้เราได้รับทั้งเรื่อง mind set และวิธีการใช้ชีวิตจากคนสวิสมาก เช่น ไปซูริคอย่างแรกเลยเราจะชอบไปแช่น้ำพุร้อนที่เมืองบาเดน (Baden) ชื่อเมืองมาจากคำว่า Bath มาจากโรมันที่แปลว่าอาบน้ำ รอบ ๆ บริเวณที่มีน้ำพุร้อนมีคลินิก ไม่ใช่คลินิกแบบในเมืองไทยนะ เป็นบ้านคนธรรมดา เนื่องจากเป็นเมืองน้ำพุร้อนจึงเป็นคลีนิกทางเลือก เช่นใช้ศาสตร์โฮมีโอพาธี่ (Homeopathy) อายุรเวท และอื่น ๆ รักษาโดยใช้ธรรมชาติเป็นตัวปรับ เขาจะพยายามแก้ที่ต้นทางและใช้ยาน้อยที่สุด ยาเป็นแค่หยุดอาการแต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ สาเหตุที่เราไม่สบายร่างกายจะฟ้อง เซลล์มันจะเสื่อม มันจะเตือนร่างกายออกมาว่าต้องการพักผ่อนแล้วนะ ต้องเริ่มดูแลตัวเองแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นหนาวสั่น อ่อนเพลีย สิ่งสำคัญที่หมอบอกคือต้องพักผ่อน นอนเยอะ ๆ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และทำอะไรที่เป็นตัวช่วยเพื่อให้แข็งแรง”
แนวคิดการใช้ธรรมชาติบำบัดจึงมีแรงบันดาลใจจากที่โน่น
“ฝรั่งเขาก็มีสมุนไพรสกัดใช้ เช่นในเมืองน้ำพุร้อนเขามีโซนที่จำหน่ายสมุนไพรสกัด เหมือนเอสเซนเชียลออยล์ ใช้ดรอป หรือจุ่มกับน้ำ บางชนิดกินได้ แบ่งเป็นสมุนไพรประเภทต่าง ๆ เช่น ตัวนี้ลดความดัน ช่วยขับลม ลดความร้อน เหมือนศาสตร์แพทย์จีนและไทย เป็นเมืองน้ำพุร้อนแล้วเอาบ้านมาทำคลินิกรายรอบ คล้ายกับจังหวัดระนองบ้านเรา เป็นเศรษฐกิจพอเพียงจริง ๆ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่า นี่คือคุณค่าของคำว่า “ลักชัวรี่” ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ความหรูหรา หรือสิ่งของที่ประดิษฐ์ขึ้นมา แต่ความแพงมันเกิดจากความเข้าใจว่าอะไรคือหัวใจ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองต้นแบบเรื่องสุขภาพ
และเป็นต้นแบบของการก่อตั้ง “ดีวานา สปา”
“ครับ พอเรามองว่าเรื่องสุขภาพไม่ใช่จะทำแบบผิว ๆ ที่ว่าสร้างอะไรขึ้นมาแล้วไปให้ความสำคัญของสถานที่ ดังนั้นทำไมเราไม่เลือกบ้านโบราณล่ะ เพราะมีคุณค่า มีความเป็นไทย จากเมืองน้ำพุร้อนที่บาเดนกับบรรยากาศโดยรอบ ที่แต่ละหมู่บ้านเขาเปิดคลีนิกสุขภาพทางเลือกแบบต่าง ๆ แล้วพอเปิดประตูเข้าไปเจอคุณหมอออกมาต้อนรับ มานั่งคุยเหมือนเป็นเจ้าบ้านออกมาทักทาย มาซักประวัติเราเป็นอะไรมา กลายเป็นความประทับใจแรกพบเลยครับ แล้วคุณหมอเขาไม่ใช่แค่วิเคราะห์อาการของโรคนะ เขามองไปถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเพื่อเข้าใจและวินิจฉัยอาการได้ถูกต้อง”
ยุคนั้นยังไม่มีเดย์สปาก็เลยไม่มีคู่แข่ง ?
“หลังจากสำรวจดูแล้วพบว่า สปาระดับ 5 ดาวก็อยู่ในโรงแรม 5 ดาว ซึ่งตอนนั้นมีไม่กี่แห่ง ในขณะที่ร้านนวดจะเรียกว่าเป็น 2 ดาว ก็เป็นระดับแมส เช่น วัดโพธิ์ หัตถเวช แนวนั้น จึงมีช่องว่างมาก โมเดลจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เขาใช้บ้านแล้วเทิร์นมาเป็นคลินิกทำให้เราคิดทำสปา ตอนนั้นคำว่าสปายังไม่ค่อยรู้จักกันนัก จะมีแต่ในโรงแรมห้าดาว ทีนี้เราจะทำแบบโรงแรมเราก็ไม่มีทุนขนาดนั้น แต่เราเลือกใช้ความหรูหราในลักษณะของเซอร์วิส ซึ่งเราได้จากการทำงานบนเครื่องบิน ผนวกกับความเป็นไทย เอาธรรมชาติของบ้านโบราณมาใส่ เซอร์วิสดี ใส่ใจในรายละเอียด และทำราคาไม่แพงจนเกินไป ให้คนจับต้องได้ เป็นความลักชัวรี่ที่คนเข้าถึงได้ ไม่ใช่ลักชัวรี่จากองค์ประกอบของการตกแต่ง”
ตอนนั้นคนไทยยังไม่คุ้นกับคำว่าสปา แล้วจะหาลูกค้าจากที่ไหน ?
“เมื่อเราเห็นภาพธุรกิจชัดเจน เรามีจุดแข็ง เราเข้าใจลูกค้าเพราะเราทำงานสายการบิน คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว ก่อนหน้าเปิดสปาก็ทำบริษัททัวร์ พาคนยุโรปมาเที่ยวเมืองไทย และพาคนไทยไปเที่ยวยุโรป ตอนนั้นเราก็เลยเน้นชาวยุโรป สวิส เยอรมัน อย่างแรกเลยทำเว็บไซต์ขึ้นมา 1 หน้า กับนามบัตร 1 ใบ พริ้นท์อย่างละ 1 ใบ แล้ววิ่งไปหา ททท. กับกรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เขาบอกว่าดีเลย กำลังจัดอีเว้นท์งาน Health and Spa เราก็ลองไปเปิดตัวที่นั่น ขณะเดียวกันก็วิ่งไปหาเอเยนต์ใหญ่ ๆ ให้เขาเข้ามาลอง มาสัมผัสของจริงว่าสิ่งที่เราโม้ไปนั้นจริงหรือเปล่า
จังหวะดีที่เปิดสปาวันแรก แขกที่เราไปเยี่ยมที่บูธงานศูนย์สิริกิติ์ มีผู้หญิงไทยกับผู้หญิงฝรั่ง มาหาที่สปาเราวันแรกเลย และนับตั้งแต่นั้นมาสปาที่เราเปิด ไม่มีวันไหนที่ไม่มีลูกค้าเลย มีวันเดียวที่สปาปิดคือวันที่กีฬาสีหนักเหลืองแดง ”
จากนั้นก็ขยายสาขาและเติบโตสู่การผลิตสปาโปรดักท์
“จากจุดเริ่มต้นเราเชิญสื่อ เอเย่นต์ ตัวแทนต่าง ๆ ซีเอ็นเอ็น สำนักข่าวต่าง ๆ ต่างชาติมาใช้เขาก็กลับไปเขียนว่าเป็น heaven on earth ทำให้ต่างชาติมาเยอะ พอจังหวะที่เราอยากได้เอเชียมากขึ้น เราก็พยายามหาช่องทาง เพราะยุโรปเขามาอยู่แล้วและเรามีลูกเรือที่เป็นต่างชาติจากแอร์ไลน์เราก็ชวนมา ตอนหลังมีสื่อเอเชียมา เขาได้รับการดูแลที่ดีเขาก็กลับไปเขียน หลังจากนั้นเริ่มเทมา จนปัจจุบัน 90% ของลูกค้าสปาเป็นชาวต่างชาตินะครับ และมากกว่าครึ่งสัก 70% เป็นเอเชีย คนไทยไม่ค่อยมากนักในช่วงแรก ๆ นะครับ แต่พอเราเริ่มเป็นที่รู้จักคนไทยก็มามากขึ้น แต่บางทีเขาก็ไม่ได้จองมา พอมาถึงแล้วไม่ได้นวด หรือลูกค้าบางคนจองมาก็ไม่ได้เพราะเต็ม ตอนนั้นต้องจอง 3 - 6 เดือน สปาเต็มตลอด แล้วเราจะทำยังไง แทนที่จะเขียนการ์ดขอบคุณหรือส่งการ์ดทุกวันปีใหม่ เราคิดว่าเราไม่สามารถส่งความเป็นสปาของเราไปได้หรอก ก็เลยคิดว่าจะทำให้เขาจดจำเราได้ยังไง ให้เขาสัมผัสถึงเรา ก็เลยทำแฮนด์ครีมแจกลูกค้า ให้ดมแล้วใช้แล้ว นึกถึงเรา เราเบลนด์กลิ่นพิเศษที่แสดงถึงความเป็นดีวาน่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสปาโปรดักท์”
เปิดสปาแล้ว มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาของตัวเอง แล้วยังไงต่อ...
“ดีวานากรุ๊ป เติบโตเร็วมาก หลังจากผมลาออก (จากสวิสแอร์รอบที่สาม) แล้วมาโฟกัสธุรกิจเต็มตัว เราเติบโต 200-300% ตอนขยายจากสปามาทำผลิตภัณฑ์สปา เป็นเรื่องของการบำบัด เน้นทำให้เกิดผ่อนคลาย แต่ปรากฏว่าเทรนด์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในการขยายธุรกิจเราจะ forecast ว่า ธุรกิจจะเป็นอย่างไรเพื่อที่จะได้เห็นเทรนด์ ขณะเดียวกันจะได้ดีไซน์บิสสิเนส โมเดล เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ สิ่งนี้เรียกว่า invovative longevity model ของดีวานา โดยใช้ปัจจัยหลัก ๆ เช่น เทรนด์สุขภาพใน 5-10 ปีข้างหน้าจะเป็นรูปแบบไหน พอเราเห็นเทรนด์ของโลกแล้วเรามองว่าในแต่ละเทรนด์ ใครคือกลุ่มเป้าหมาย พอเรารู้จักเป้าหมายของเราแล้วก็ศึกษาไลฟ์สไตล์ เขาชอบแบบนี้ เป็นแบบนั้น แบบไหนที่เราอยู่กับเขาแล้วเจอกัน เราก็มาพัฒนาธุรกิจโดยเอาจุดแข็งของเราใส่เข้าไปแล้วขยาย ตอนนั้นเราเห็นแล้วว่าธุรกิจสปา คนมาสปาไม่ใช่แค่มาผ่อนคลายแล้ว เขามองถึงเรื่องสุขภาพด้วย เขาอยากจะป้องกันตัวเองก่อนป่วย จึงเป็นที่มาของการเริ่มทำ medical spa
เราจึงศึกษาเชิงลึกขึ้นในทางการแพทย์ โดยเปิดคลินิกด้านแอนไท-เอจจิ้ง ที่สีลมก่อน (มีสปาและเมดิคัลสปา ในบริเวณเดียวกัน) จากนั้นเราก็เบลนด์ออกมาเป็น “เมดิคัล แอนด์ เวลเนสส์” ที่ผสมกลมกลืนกันภายใต้แบรนด์ใหม่ว่า Dii มาจาก Divana Integrated Innovation นำนวัตกรรมทางการแพทย์มาผสมผสาน
ซึ่งเราภูมิใจมากที่ได้รางวัล Best Medical Spa แห่งเอเชีย 3 ปีซ้อน จากการนำคำว่า “เวลเนส” ผสมกับ “เมดิคัล”
เทรนด์โลกเปลี่ยนเร็ว พอ ๆ กับความต้องการที่ไม่หยุดนิ่งของผู้บริโภค แล้วดีวานาจะไปถึงไหน...?
“เทรนด์โลกเปลี่ยนอีกครั้ง ช่วงที่สองของเราคือ from spa to wellness พอถึงช่วงที่ 3 จาก wellness ไปไกลถึงช่วง สังคมคนอายุยืน เทรนด์โลกคาดการณ์ไว้ว่า เด็กที่เกิดยุคปัจจุบันจะมีอายุยืนถึง 100 ปี จากเทคโนโลยีและการแพทย์ สิ่งสำคัญคือไม่ใช่แค่อายุยืน แต่เป็นเรื่องของ การใช้ชีวิตและมีความสุขกับการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ของอายุยืนคือ คุณค่าของชีวิตว่าเป็นแบบไหน ใช่มั้ยครับ เลยเป็นที่มาของ ดีวานา คาเฟ่
เราคิดว่าทำอย่างไรเรื่องสุขภาพและความสุขที่เข้าถึงคนทุกระดับได้ เอาเข้าจริงแล้ว สปาก็ไม่ใช่แค่เป็นสปา เราทำลึกขึ้นถึงเมดิคัล จากนั้นเราก็อยากเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของคน ทั้งความเป็นอยู่และอาหารการกิน เราเปิด “ดีวาน่า ซิกเนเจอร์ คาเฟ่” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของความเป็นเวลเนส และเราต้องการขยายกลุ่มลูกค้าที่ไม่เฉพาะไปสปาอย่างเดียว เป็นคนเจนใหม่ เจนเอ็ม (Millenium) ที่เกิดมาพร้อมยุคดิจิทัล เขาอยากรู้อะไรก็เสิร์ชเอา อยากมีตัวตนบนโลกโซเชียล เลยเป็นที่มาของอาหารที่เขาโชว์ได้ ถ่ายรูปลงไอจี คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ทุกอย่างพร้อมทั้งรูป รส กลิ่น สัมผัส
ตอนนี้เรามีสปา 4 แห่ง ทองหล่อ สุขุมวิท11 สีลม ล่าสุดในซอยสมคิด กำลังจะเปิดที่สุขุมวิท 31 ทุกที่เป็นบ้านโบราณหมด ปลายปีที่ภูเก็ต ลากูน่า เมดิคัล สปา มีที่เอ็กซ์เชนจ์ทาวเวอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และสีลม ส่วนคาเฟ่มี 2 ร้านอยู่ในเซ็นทรัลเวิลด์ และที่เซ็นทรัลพัทยา, เซ็นทรัลภูเก็ต”
หมุดหมายล่าสุดคือ “อะคาเดมี่”
อภิรดี หิรัญรามเดช ผู้อำนวยการ “ดีวานา อินโนเวทีฟ เวลเนส อะคาเดมี่” ตั้งอยู่ที่ถนนสามเสน ให้ข้อมูลว่า
อภิรดี หิรัญรามเดช
“การที่คนเรามีอายุยืนและต้องการมีความสุขในการใช้ชีวิต คือการมี longevity ที่มาพร้อมกับไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น นอกจากคาเฟ่แล้วเราเปิดอะคาเดมี่ ให้เป็นสถาบันเพื่อการเรียนรู้ และเป็นต้นแบบในการผลิตบุคลากรด้านเวลเนสส์ทั้งหมด เริ่มต้นจากเธอราพิสต์, เนิร์สเอด ฯลฯ ที่จริงเราเริ่มทำอินเฮาส์มาตั้งแต่ก่อตั้งสปามาหลายปีก่อน แต่ตอนนี้เราเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเติมเต็มคำว่าไลฟ์สไตล์ของการดูแลสุขภาพในทุก ๆ เซ็กเม้นท์ จากตอนแรกเราฝึกคนเพื่อรองรับบุคลากรของเรา แต่ตอนนี้เรามาเติมเต็มธุรกิจเรื่องสุขภาพทั้งหมด คนข้างนอกเข้ามาฝึกได้ ในลักษณะให้ทุนนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สำหรับเด็กอายุ 18 ปี ขึ้นไปที่ไม่มีเงินไปเรียนต่อ ให้เขามาเรียนหลักสูตรกับเรา 1 ปี เริ่มมาเมื่อต้นปีจะจบปลายปี
และตอนนี้เรารับกลุ่มคนที่ทำงานโรงงานและถูกเลิกจ้าง อายุ 18-45 ปี เรานำคนสองเจนมาเบลนด์กัน ทำให้คอร์สการสอนออกมากลมกล่อม มีการแชร์ริ่งระหว่างกัน แล้วเวลาเขาออกไปทำงานก็จะทำให้ปรับตัวง่าย ตอนนี้เทรนมา 7 รุ่นแล้ว มองเห็นการเติบโตของเด็ก ช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างการเรียนและฝึกงานกันอยู่ ซึ่งต่อไป ล่าสุดมหาวิทยาลัยศรีปทุม เชิญดีวาน่าไปทำคอร์สร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการ เราพยายามทำอะคาเดมี่ ให้สามารถสร้างโอกาสสร้างงานให้คนไทย คนเอเชียนและคนทั่วโลกได้ เพื่อบุคลากรเหล่านี้จะไปสร้างงาน สร้างรายได้ รองรับธุรกิจสปาและการดูแลสุขภาพ”







