อวสานงานเลี้ยงสิ้นปี? พนักงานรู้สึกโดนบังคับ ให้เงินสดดีกว่า

อวสานงานเลี้ยงสิ้นปี? พนักงานรู้สึกโดนบังคับ ให้เงินสดดีกว่า

ผลสำรวจชี้ พนักงานไม่ตื่นเต้นกับงานเลี้ยงสิ้นปีอีกต่อไป แต่อยากได้โบนัส หรือวันหยุดเพิ่มมากกว่า ขณะที่รูปแบบงานเลี้ยงแบบเน้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจไม่ตอบโจทย์

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจชี้ว่าพนักงานส่วนใหญ่ไม่ตื่นเต้นกับงานเลี้ยงสิ้นปีอีกต่อไป และต้องการโบนัสเป็นเงินสด วันหยุดเพิ่ม หรือบัตรของขวัญมากกว่า
  • พนักงานยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z รู้สึกว่าการเข้าร่วมงานเลี้ยงหลังเลิกงานเป็นภาระ และกังวลว่าจะถูกมองในแง่ลบหากไม่ไปร่วมงาน
  • รูปแบบงานเลี้ยงแบบดั้งเดิมที่เน้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจไม่ตอบโจทย์พนักงานทุกคน โดยเฉพาะกลุ่ม Introvert หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางระบบประสาท
  • แม้พนักงานบางส่วนจะเบื่องานเลี้ยง แต่กิจกรรมสังสรรค์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างขวัญกำลังใจและวัฒนธรรมองค์กร โดยเฉพาะในยุคการทำงานแบบไฮบริด

งานเลี้ยงปลายปีของออฟฟิศเคยเป็นภาพจำของความสุขส่งท้ายปี บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันความสนุก มีโซนอาหารบุฟเฟต์ ไฟสลัว บนเวทีมีเล่นดนตรีสด หรือมีดีเจเล่นเพลงฮิตดังไปทั่วห้องจัดงาน พนักงานใส่ชุดที่ดูดีที่สุดในรอบปีที่มาพร้อมรอยยิ้ม และพลังงานสุดเอ็นจอยไปกับเพื่อนร่วมงาน

แต่ในปีหลังๆ ความรู้สึกบางอย่างเริ่มเปลี่ยนไป รอยยิ้มของพนักงานที่เห็นในงานเลี้ยง บางครั้งก็แยกไม่ออกว่า “สนุกจริง” หรือ “ยิ้มตามมารยาท” คำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ในใจคนทำงานช่วงหลังมานี้ อาจไม่ใช่ว่า “ปีนี้จะจัดงานที่ไหน?” แต่คือ “ฉันจำเป็นต้องไปไหม?”

ถ้าเลือกได้.. คนทำงานอยากได้อะไรแทนงานเลี้ยงสิ้นปี ?

ผลสำรวจล่าสุดจาก Capital on Tap ซึ่งเป็นบริษัทด้านบัตรเครดิตในสหราชอาณาจักร อาจทำให้เจ้าหน้าที่ HR ของหลายๆ บริษัทต้องสะดุ้ง เมื่อพบว่า พนักงานยุคนี้ไม่ได้ตื่นเต้นกับปาร์ตี้บริษัทเหมือนเดิมอีกแล้ว โดยเกือบ 9 ใน 10 ของพนักงานในสหราชอาณาจักร บอกว่า พวกเขาอยากได้สวัสดิการรูปแบบอื่นมากกว่าการต้องไปงานเลี้ยงปลายปีของบริษัท

สำหรับสวัสดิการที่พนักงานโหวตว่าอยากได้มากที่สุด ไม่ใช่อะไรหรูหรา แต่คือ เงินสด โดยตามผลสำรวจชี้ว่า พนักงานกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 50% เลือก “โบนัสแบบจ่ายตรง” ขณะที่พนังกานส่วนที่เหลือ เลือก “วันหยุดเพิ่ม” หรือ “บัตรของขวัญ” แทนการไปร่วมงานกินเลี้ยงบริษัท

ตัวเลขนี้ไม่ได้สะท้อนว่าคนทำงานไม่รักองค์กร แต่กำลังสื่อสารว่า ในยุคที่เวลาและพลังงานมีค่ามากขึ้น ความสนุกที่ต้องแลกกับค่ำคืนหลังเลิกงาน อาจไม่ใช่ดีลที่คุ้มอีกต่อไป

งบตึง พนักงานเบื่อกิจกรรมสังสรรค์ = ความท้าทายใหม่ของฝ่ายบริหาร

สำหรับองค์กร ผลสำรวจนี้ไม่ใช่แค่ข่าวร้าย แต่มันคือโจทย์ใหญ่ของโลกการทำงานยุคใหม่ที่แฝงไปด้วย “ความท้าทาย” และ “โอกาส” ในเวลาเดียวกันเพราะในโลกการทำงานยุคนี้ ต้องยอมรับว่าหลายๆ บริษัทก็ต้องตั้งรับกับ "งบประมาณตึงตัว" ขณะที่ฝั่งลูกจ้างก็พบว่า พนักงานจำนวนมากรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานและชีวิต

คำถามสำคัญของการบริหารองค์กรในปีนี้ อาจไม่ใช่การคิดว่า “จะจัดงานเลี้ยงต่อไปหรือไม่” แต่คือ จะสร้างความรู้สึกผูกพันในองค์กรอย่างไร โดยไม่ยึดติดกับธรรมเนียมที่อาจไม่ตอบโจทย์อีกแล้ว

แม้พนักงานเกือบครึ่งจะยังเห็นว่า กิจกรรมสังคมของบริษัทมีส่วนช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดี แต่พวกเขาก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่า รูปแบบและจังหวะของกิจกรรมเหล่านี้ควรถูกออกแบบใหม่

ยืนยันจากแบบสำรวจพนักงานกว่า 2,000 คนในสหราชอาณาจักรที่ชี้ว่า แม้งานสังสรรค์ของบริษัทยังมีความหมายอยู่บ้าง เกือบครึ่งหนึ่งเห็นว่าสำคัญต่อการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเชิงบวก แต่รูปแบบและความถี่ของกิจกรรมเหล่านี้อาจต้อง “ปรับจูน” ใหม่ให้สอดคล้องกับพนักงานยุคปัจจุบันมากขึ้น

ช่องว่างระหว่างวัย: Gen Z เกรงว่าถ้าไม่ไปร่วมงาน จะถูกมองไม่ดี

ข้อมูลยังเผยให้เห็นความแตกต่างระหว่างช่วงวัยอย่างชัดเจน โดย มากกว่า 1 ใน 3 ของพนักงาน Gen Z กังวลว่าจะถูกตัดสินในแง่ลบ หากไม่เข้าร่วมกิจกรรมสังคมของบริษัท ขณะที่พนักงานรุ่น Baby Boomer มีความกังวลในประเด็นนี้เพียงราวๆ 30% เท่านั้น

ในขณะเดียวกัน เกือบครึ่งหนึ่งของพนักงานมิลเลนเนียล (Gen Y) ระบุว่า พวกเขาจะเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทมากขึ้น หากจัดขึ้นในเวลางาน ไม่ใช่หลังเลิกงาน ภาพนี้สะท้อนว่า โมเดล “ดื่มหลังเลิกงาน” ที่เคยเป็นมาตรฐาน อาจไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของแรงงานยุคใหม่อีกต่อไป

อเล็กซ์ ไมลส์ (Alex Miles) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Capital on Tap ให้ความเห็นว่า งานเฉลิมฉลองของบริษัทควรกลับไปโฟกัสที่ “การเชื่อมโยงผู้คน มากกว่าความฟุ่มเฟือย” เพราะเอาเข้าจริง งานฉลองของบริษัทควรมีแก่นอยู่ที่ความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่ความอลังการของการจัดงาน หากใช้งบอย่างรอบคอบ วางแผนอย่างครอบคลุม และบริหารการเงินอย่างมีวินัย องค์กรก็สามารถสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำให้พนักงานได้ โดยไม่กระทบเสถียรภาพทางการเงิน

งานเลี้ยงอาจดูครอบคลุม แต่ยังไม่ตอบโจทย์ทุกคน

แม้เกือบ 8 ใน 10 ของพนักงาน จะมองว่างานสังสรรค์ของบริษัทมีความครอบคลุมโดยรวม แต่ผลวิจัยก็พบ “จุดบอด” สำคัญเช่นกัน โดยตามรายงานฉบับดังกล่าวชี้ว่า มีเพียง 2 ใน 3 ที่รู้สึกว่างานเลี้ยงเหล่านี้รองรับกลุ่มพนักงานที่มีบุคลิกภาพ Introvert 

และเกือบ 1 ใน 3 ระบุว่า กิจกรรมของบริษัทไม่ตอบโจทย์พนักงานที่มีความหลากหลายทางระบบประสาท (neurodivergent) เช่น กลุ่มคนย้ำคิดย้ำทำ, สมาธิสั้น, บกพร่องทางการอ่านหรือเขียน ฯลฯ

นอกจากนี้ "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บางคนไม่อยากเข้าร่วมงานเลี้ยงบริษัท โดย ประมาณ 1 ใน 5 ของพนักงาน จัดให้ผับ บาร์ หรือกิจกรรมที่เน้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสถานที่ที่พวกเขาไม่อยากไปมากที่สุด ตรงกันข้าม กิจกรรมขนาดเล็ก เช่น การนัดดื่มกาแฟสั้น ๆ หรือกิจกรรมที่เป็นมิตรกับครอบครัว กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

การจัดกิจกรรมบริษัทที่ไม่ตอบโจทย์พนักงานนั้น ไม่ได้แค่สร้างความผิดหวังให้คนทำงาน แต่ยังอาจกระทบต้นทุนองค์กรในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน โดยข้อมูลจาก gov.uk ระบุว่า นายจ้างในสหราชอาณาจักร สามารถใช้งบจัดกิจกรรมให้พนักงานได้ราว 200 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี โดยไม่ต้องเสียภาษี แต่หากเกินเพดานนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะกลายเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีทันที

ยกตัวอย่างเช่น งานเลี้ยงที่ใช้งบ 261 ดอลลาร์ต่อคน อาจบานปลายเป็นเกือบ 500 ดอลลาร์ต่อคน เมื่อรวมภาษีเงินได้และเงินสมทบประกันสังคม ในกรณีแบบนี้  อเล็กซ์ ไมลส์ แนะนำให้องค์กรมีนโยบายการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน ตั้งแต่การขอบเขตค่าใช้จ่าย การบันทึกรายการ ไปจนถึงการเชิญพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม

ของขวัญปีใหม่ที่แปะโลโก้บริษัท พนักงานไม่อยากได้อีกแล้ว

อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงคือ “ของขวัญปลายปี” ซึ่งหลายองค์กรยังเลือกวิธีเดิมๆ เช่น แก้วกาแฟหรือเสื้อยืดที่แปะโลโก้บริษัท หนึ่งเสียงจาก เมย์-จอย ฟอสเตอร์ (Mei-joy Foster) รองประธานฝ่ายบริหารบุคลากรของ Blackhawk Network ระบุว่า จากงานวิจัยของบริษัท พนักงานอยากได้ของขวัญที่ “ใช้ได้จริง” มากกว่า เช่น บัตรของขวัญ ของขวัญเชิงประสบการณ์ หรือสิ่งที่ช่วยดูแลตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกฝ่ายที่จะมองว่างานเลี้ยงปลายปีถึงจุดอวสาน แต่ยังมีพนักงานออฟฟิศอีกไม่น้อยที่ยังอยากร่วมงานเลี้ยงสิ้นปีต่อไปทุกปี ตามรายงานเรื่อง Workplace Holiday Party Trends ปี 2025 จาก ezCater ระบุว่า พนักงาน 4 ใน 5 คน วางแผนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงปลายปีในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 70% ในปีก่อน และราวครึ่งหนึ่งของบริษัทมีแผนเพิ่มงบจัดงานเลี้ยง

โรเบิร์ต แคสเคล (Robert Kaskel) รองประธานฝ่ายบุคลากรของ ezCater มองว่า งานเลี้ยงปลายปีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างขวัญกำลังใจ โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานแบบไฮบริดและรีโมตกลายเป็นเรื่องปกติ

ขณะที่ผลการศึกษาจาก Avital Food & Drink Experiences ยังพบว่า บริษัทที่ลงทุนกับงานเลี้ยงปลายปี อย่างน้อย 200 ดอลลาร์ต่อคน มักได้คะแนนความพึงพอใจจากพนักงานสูงกว่าบริษัทที่ประหยัดจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทจะเลือกจัดงานเลี้ยงสิ้นปีต่อไปหรือไม่ แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับความพร้อมทั้งในแง่ของงบประมาณ และการสำรวจความต้องการของพนักงาน ก่อนที่จะตัดสินใจ แต่หากเลือกที่จะจัดงานเลี้ยงสิ้นปีในยุคนี้ ก็คงต้องมีการปรับรูปแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์พนักงานให้คุณค่ากับเวลา เงิน และความรู้สึกเป็นเจ้าของชีวิตมากขึ้น

ดังนั้น งานสังสรรค์แบบเดิมที่เน้นความสนุกตามสูตร อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป องค์กรที่เข้าใจพนักงานจริงๆ อาจไม่จำเป็นต้องจัดงานใหญ่ที่สุด แต่ต้องจัดกิจกรรมที่ “มีความหมายที่สุด” สำหรับคนทำงานของตัวเอง

 

 

อ้างอิง: WorklifeNewsNewsfilecorp, Capitalontap, Blackhawknetwork