สายงานช่างค่าแรงพุ่ง 30% หลังบิ๊กเทคทำ Data Center สุดบูมในสหรัฐ

สายงานช่างค่าแรงพุ่ง 30% หลังบิ๊กเทคทำ Data Center สุดบูมในสหรัฐ

ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีแข่งกันสร้าง Data Center ดันสายงานก่อสร้างค่าแรงพุ่ง 30% บางคนได้หลักแสน! ดึงคนรุ่นใหม่หันหลังให้โต๊ะออฟฟิศ มุ่งสู่สายอาชีพที่ AI ยังแทนไม่ได้

KEY

POINTS

  • การแข่งขันสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อรองรับ AI ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการแรงงานสายช่างและก่อสร้างเพิ่มขึ้นมหาศาล
  • ค่าแรงของช่างในโครงการสร้างศูนย์ข้อมูลพุ่งสูงขึ้นเฉลี่ยเกือบ 32% โดยมีคนงานบางส่วนที่ทำรายได้ต่อปีสูงถึงหลักแสนดอลลาร์
  • การเร่งรัดโครงการก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้น จากเดิมที่ใช้เวลาหลายปีเหลือเพียงไม่กี่เดือน เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ค่าแรงสูงขึ้น
  • ปรากฏการณ์นี้ดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ให้หันมาสนใจอาชีพสายช่างมากขึ้น เนื่องจากมีรายได้สูงและมีความมั่นคงในยุค AI

การแข่งขันสร้าง Data Center หรือศูนย์ข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เพื่อรองรับ AI ทำให้ค่าแรงคนงานก่อสร้างในสหรัฐฯ พุ่งสูงผิดปกติ บางตำแหน่งขยับขึ้นกว่า 30% และเริ่มมีผู้ที่ทำรายได้ต่อปีแตะหลักแสนดอลลาร์ (ราวๆ 3.2 ล้านบาท) ขณะที่โปรเจกต์ถูกเร่งความเร็วการก่อสร้างให้เสร็จจากระดับ “หลายปี” เหลือเพียง “ไม่กี่เดือน” ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานที่กำลังดึงคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพสายช่างมากขึ้น

กระแสลงทุน AI ดันค่าแรง "สายงานก่อสร้าง" พุ่งไม่หยุด

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ของบริษัทของบิ๊กเทคฯ  ระดับโลก อย่าง Google, Amazon และ Meta ทำให้สหรัฐฯ กำลังเผชิญ “การเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลครั้งใหญ่” ซึ่งต้องใช้แรงงานก่อสร้างจำนวนมหาศาล และส่งผลให้ค่าแรงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ราวล์ มาร์ตินเนก (Raul Martynek) ซีอีโอของ DataBank บริษัทรับเหมาสร้างศูนย์ข้อมูลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ เผยว่า เฉพาะปี 2026 เพียงปีเดียว บริษัทเทคโนโลยีอาจวางแผนอัดงบล่วงหน้าไว้แล้ว รวมกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นอีก

ด้าน Bank of America คาดว่า การลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 67% ในปี 2025 และอีก 31% ในปี 2026 รวมแล้วสูงถึง 611,000 ล้านดอลลาร์ ในเวลาแค่เพียงสองปี ..ความต้องการที่พุ่งแรงนี้ ส่งผลให้ค่าแรงคนงานก่อสร้างในโปรเจกต์ศูนย์ข้อมูลสูงขึ้นกว่าปกติอย่างชัดเจน

เงินเดือนแรงงานสายช่าง กระโดดสู่หลักแสน!

เฟรเซอร์ แพตเตอร์สัน (Fraser Patterson) ซีอีโอของ Skillit แพลตฟอร์มหางานก่อสร้างที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลแรงงาน ระบุว่า ค่าแรงงานก่อสร้างทั่วไปบนแพลตฟอร์มอยู่ที่ 62,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือ 29.80 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่เมื่อเป็นงานสร้างศูนย์ข้อมูล ค่าแรงเฉลี่ยกระโดดขึ้นเป็น 81,800 ดอลลาร์ต่อปี หรือ 39.33 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 32%

ในรายงานของ The Wall Street Journal ยังพบว่า คนงานบางส่วนมีรายได้แตะ หลักแสนดอลลาร์ต่อปี หลังย้ายมาทำงานในโปรเจกต์ศูนย์ข้อมูลโดยตรง

แพตเตอร์สันอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไปจะมีงบประมาณจำกัด แต่โปรเจกต์ศูนย์ข้อมูลกลับมี “งบยืดหยุ่นกว่า” เพราะบริษัทเทคต้องการเร่งสร้างให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อตอบรับการแข่งขันด้าน AI ที่ดุเดือด

จากโปรเจกต์ “หลายปี” ถูกเร่งให้เสร็จใน “6 เดือน” ยิ่งบูมก็ดึงดูด Gen Z สู่งานช่าง

หนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันค่าแรงให้สูงขึ้นคือ ระยะเวลาก่อสร้างที่ถูกบีบให้สั้นลงอย่างผิดปกติ โดย แพตเตอร์สัน เผยว่า โครงการที่ควรใช้เวลาหลายปี กลับถูกเร่งด่วนให้เสร็จภายใน เพียง 6 เดือน ในบางกรณีทำให้ต้องใช้งานแรงงานทักษะสูง เครื่องจักรเฉพาะทาง และการประสานงานที่ละเอียดซับซ้อนกว่าโครงการทั่วไป

ข้อมูลจาก Synergy Research Group ยังชี้ว่า Google, Amazon และ Microsoft มีศูนย์ข้อมูลใช้งานแล้ว 522 แห่ง และกำลังก่อสร้างเพิ่มอีก 411 แห่ง ตัวเลขนี้สะท้อนความต้องการแรงงานที่ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอลงในเร็ววัน

แม้จะยังไม่มีใครบอกได้ว่ากระแสลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์รอบนี้จะไปไกลอีกแค่ไหน แต่แพตเตอร์สันเผยว่า ปรากฏการณ์นี้ทำให้แรงงานคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z และบัณฑิตจบใหม่ หันมาสนใจอาชีพสายช่างและงานก่อสร้างมากขึ้น

เขาให้เหตุผลว่า เมื่อ AI ทำให้แรงงานออฟฟิศเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง แต่ สายงานก่อสร้างเป็นงานที่ “แทบจะเป็นไปไม่ได้” ที่จะถูกทำแทนด้วยระบบอัตโนมัติ จึงกลายเป็นอาชีพที่ให้ความมั่นคงและรายได้สูงขึ้นในยุค AI

“ตลาดแรงงานกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใหม่” ซีอีโอของ Skillit ย้ำทิ้งท้าย

กระแสลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังเร่งก่อสร้างไปทั่วโลก อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนสมการตลาดแรงงานยุค AI อย่างแท้จริง เพราะในขณะที่หลายอาชีพกำลังเผชิญความเสี่ยงถูกแทนที่ งานช่างและงานก่อสร้างกลับกลายเป็น “เสาหลัก” ของเศรษฐกิจดิจิทัลที่ไม่มีวันเดินต่อได้หากขาดแรงงานทักษะเฉพาะทางเหล่านี้

นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เราต้องมองสายงานช่างด้วยสายตาใหม่ เพราะไม่ใช่แค่อาชีพภาคปฏิบัติหลังบ้าน แต่คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจยุค AI ที่ให้รายได้ดี มีอนาคต และยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้อย่างแข็งแรงที่สุด

 

อ้างอิง: Fortune, YahooFinance, TheWallStreetJournals