หัวหน้าใจดี อาจไม่ใช่หัวหน้าที่ดีเสมอไป ผู้นำคนเก่งคือแบบไหน?

หัวหน้าใจดี อาจไม่ใช่หัวหน้าที่ดีเสมอไป ผู้นำคนเก่งคือแบบไหน?

อย่าเข้าใจผิด เจ้านายใจดี คือ เจ้านายที่ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือน ความใจดีไม่ได้แปลว่าเป็นผู้นำที่มีความสามารถ ส่วนเจ้านายที่ไม่นุ่มนวล ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นผู้นำที่แย่

KEY

POINTS

  • ความเป็นมิตรหรือความใจดีของหัวหน้าไม่ใช่ตัวชี้วัดความเป็นผู้นำที่ดีเสมอไป เพราะความสามารถในการนำทีมให้เติบโตสำคัญกว่า
  • หัวหน้าที่ใจดีเกินไปอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของทีม เพราะมักหลีกเลี่ยงการตัดสินใจเรื่องยากและไม่กล้าให้คำวิจารณ์ที่จำเป็น
  • ผู้นำที่ดีคือผู้ที่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด กล้าให้ฟีดแบ็กที่ตรงไปตรงมาเพื่อช่วยให้ลูกทีมพัฒนา และพาทีมไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ

ในโลกทำงานยุคนี้ หลายคนยังเผลอวัดเกณฑ์หัวหน้าที่ดีจากความเป็นมิตร ยิ้มแย้ม หรือท่าทีสุภาพ มากกว่าความสามารถที่แท้จริง ทั้งที่ความจริงแล้ว “คนใจดี” กับ “ผู้นำที่ดี” อาจแทบไม่เกี่ยวกันเลยด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่ เบ็น แอสกินส์ (Ben Askins) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงาน (เขาแบ่งปันคำแนะนำให้ผู้ติดตามกว่า 1.23 ล้านคนทั้งในชีวิตจริงและบนโลกโซเชียล) นักเขียนและผู้ประกอบการชาวอังกฤษ พยายามอธิบายให้คนทำงานเข้าใจใหม่ เพราะเขาเห็นผู้คนสับสนประเด็นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า  

แอสกินส์บอกว่า เรามักนิยามเจ้านายที่ดีจากพฤติกรรมที่ทำให้รู้สึกสบายใจ เช่น ชวนคุยเล่น ถามสารทุกข์สุกดิบ จัดปาร์ตี้ทีม หรือทำตัวเป็นมิตรในทุกสถานการณ์ จนบางคนคิดว่าเจ้านายที่ไม่เฟรนด์ลี่ ไม่ถามว่าทำอะไรวันหยุด หรือไม่จัดกิจกรรมสนุกๆ ให้ทีม คือผู้นำที่แย่ทันที ทั้งที่อาจไม่เกี่ยวกันเลย

เขาย้ำว่า “เวลาพูดถึงเจ้านายที่ดี เรากำลังพูดถึงความสามารถในการเป็นผู้นำ หรือหัวหน้าที่พาให้ทีมเติบโตก้าวหน้า ไม่ใช่คนเฟรนด์ลี่ที่นั่งดื่มกับลูกน้องหลังเลิกงานได้”

เจ้านายที่คุณไม่ชอบ อาจเป็นหัวหน้าที่ดีกว่าที่คิด

ในฐานะที่ตัวเขาเองเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Gaia บริษัทซอฟต์แวร์ด้านสิ่งแวดล้อมในลอนดอน ก่อนหน้านั้นก็เป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัป Verb Brands ซึ่งถูกขายกิจการในปี 2022 จากประสบการณ์ตรงของเขาเหล่านี้ ทำให้เขาได้รู้จักลักษณะของผู้นำมาแทบทุกรูปแบบ

ทั้งเจ้านายที่คนรักแต่บริหารงานไม่ได้เรื่อง และเจ้านายที่ลูกทีมอาจไม่ชอบแต่พาทีมไปถึงเป้าหมายอย่างมั่นคงเสมอ จึงทำให้เขานำข้อมูลที่พบเห็นมาวิเคราะห์ในประเด็นนี้ได้อย่างหนักแน่นมากขึ้น 

สิ่งที่เขามักบอกกับวัยทำงานเสมอคือ คุณไม่จำเป็นต้อง “ชอบ” เจ้านายของคุณ แต่ถึงอย่างนั้น คนๆ นั้นก็อาจเป็นผู้นำที่ดีได้ เพราะผู้นำบางคนอาจไม่ใช่คนที่ทุกคนเอ็นดู แต่เขามีสัญชาตญาณดี ทำงานได้ผลลัพธ์สม่ำเสมอ และตัดสินใจถูกต้องตามหลักการ แม้เขาหรือเธอจะไม่ใช่คนที่ทุกคนอยากคุยด้วยในช่วงพักกลางวันก็ตาม

เปิดข้อเสียหัวหน้าที่ใจดีเกินไป อาจทำให้ทีมไม่เติบโต ?

แน่นอนว่า ชาวออฟฟิศควรทนทำงานกับเจ้านายที่หยาบคาย ไร้ความเกรงใจ หรือเป็นพิษต่อทีม เพราะพฤติกรรมแบบนั้นย่อมทำลายความไว้วางใจและประสิทธิภาพของงานโดยตรง ซึ่งทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งที่มักถูกมองข้ามได้ง่ายๆ เพราะดูผิวเผินแล้วไม่น่ามีปัญหา ก็คือ “เจ้านายที่ใจดีเกินไป” เพราะเมื่อวิเคราะห์ลึกลงไป พฤติกรรมแบบนี้จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของทีมงานโดยไม่รู้ตัว

แอสกินส์อธิบายว่า ข้อเสียของเจ้านายที่มีนิสัยอ่อนโยนมากๆ มักลังเลที่จะตัดสินใจเรื่องยาก ไม่กล้าบอกข้อผิดพลาดตรงๆ หรือหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ที่จำเป็น แม้คำวิจารณ์นั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกทีมพัฒนาได้จริงก็ตาม เขาย้ำอย่างจริงจังว่า “ถ้าเจ้านายของคุณไม่เคยบอกเลยว่าคุณทำอะไรผิด คุณก็ไม่มีเจ้านายที่ดี” เพราะไม่มีใครเติบโตได้ด้วยคำชมอย่างเดียว

ขณะที่ ฟีบี กาวิน (Phoebe Gavin) ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำ ก็เคยพูดถึงประเด็นนี้ผ่านบทสัมภาษณ์ของ CNBC Make It ในทิศทางเดียวกันว่า ความสนิทสนมเกินไประหว่างลูกทีมกับหัวหน้า อาจทำให้เกิดอคติ และเป็นปัญหาใหญ่เมื่อถึงเวลาตัดสินใจสำคัญ เช่น การเลิกจ้าง

หากผู้บริหารระดับบนบอกให้หัวหน้าเลือกปลดพนักงานหนึ่งคน แม้คนเป็นหัวหน้าจะรักลูกทีมแค่ไหน เขาหรือเธอก็ยังต้องทำตามนโยบายจากระดับบริหารอยู่ดี เธอพูดชัดเจนว่า “เขาอาจร้องไห้ใน Zoom แต่ใบเลิกจ้างก็ยังต้องยื่นให้คุณอยู่ดี”

รู้ตัวว่าเป็นหัวหน้าใจดี จนไม่กล้าวิจารณ์ลูกน้อง ควรปรับแก้อย่างไร?

เทสซ่า เวสต์ (Tessa West) นักจิตวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กแนะนำวิธีที่น่าสนใจไว้ว่า ให้คนที่เป็นหัวหน้าเริ่มจากการขอฟีดแบ็กเล็กๆ น้อยๆ กับลูกน้อง โดยไม่คุกคาม เช่น ถามว่าฟอนต์นี้เหมาะกับการทำพรีเซนต์ไหม หรือสไลด์นี้ควรแก้อะไรเพิ่มไหม คำถามแบบนี้ มักจะง่ายต่อการตอบ และยังช่วยให้บรรยากาศราบรื่น “ไม่ทำลายความเป็นมิตร” 

เมื่อเริ่มจากการสอบถามลูกน้องจากเรื่องเล็กๆ ที่ปลอดภัย คุณในฐานะหัวหน้าก็จะสามารถค่อยๆ ถามเรื่องที่ใหญ่ขึ้นได้ เช่น ติชมผลงานของลูกน้อง จุดที่ควรพัฒนา หรือการให้คำวิจารณ์จริงจังมากขึ้น เป็นต้น

ทั้งหมดนี้สะท้อนประเด็นสำคัญว่า ความใจดีระหว่างเจ้านาย-ลูกน้อง เป็นเรื่องดีเสมอ แต่ความใจดีเพียงอย่างเดียวไม่พอสำหรับการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ หรือพูดง่ายๆ ว่า เจ้านายที่ดีไม่จำเป็นต้องน่ารัก และเจ้านายที่น่ารักก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นผู้นำที่ดีเสมอไป

แต่ลักษณะเด่นของผู้นำที่ดีจริงๆ ต้องพิสูจน์ได้จาก ความสามารถในการตัดสินใจ ชี้ทางแก้ปัญหา และบอกความจริงที่จำเป็นต่อการทำงาน ต่างหากที่จะทำให้ทีมเติบโตได้จริง ท้ายที่สุด คนทำงานไม่ได้ต้องการผู้จัดการที่ปลอบใจได้เก่งที่สุด แต่ต้องการคนที่กล้าชี้ให้เห็นสิ่งที่เราต้องปรับแก้ เพื่อให้เราเดินหน้าไปได้ไกลกว่าเดิม

 

 

อ้างอิง: CNBC, Croud, CNBC 5 Type of bosses