คนยุคใหม่เลือก ‘ดูคอนเสิร์ต’ มากกว่า ‘มีเซ็กส์’ สร้างค่ำคืนพิเศษกับศิลปิน

ตามรายงาน Living for Life จัดทำโดย Live Nation ผู้จัดคอนเสิร์ตระดับโลก ทำการสำรวจผู้คน 40,000 คน อายุระหว่าง 18-54 ปี จาก 15 ประเทศทั่วโลก พบว่าถ้าจำเป็นต้องเสพความบันเทิงประเภทเดียวไปตลอดชีวิต ผู้ตอบแบบสอบถาม 39% เลือกดูคอนเสิร์ตมากที่สุด ตามมาด้วยมีเพศสัมพันธ์ 30% จากนั้นเป็นดูภาพยนตร์ 17% และดูกีฬา 14%

เรื่องนี้อาจจะฟังดูไม่น่าแปลกใจนัก เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีรายงานระบุว่า คนหนุ่มสาวมีกิจกรรมทางเพศน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ผลสำรวจของ YouGov ในปี 2020 พบว่าชาวอังกฤษเกือบหนึ่งในสามไม่มีกิจกรรมทางเพศ 

ขณะที่ภาวะถดถอยทางเพศกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในสหรัฐ โดยข้อมูลจากการสำรวจการเติบโตของครอบครัวแห่งชาติ (NSFG) ปี 2025 แสดงให้เห็นว่าคนหนุ่มสาวไม่มีเซ็กส์เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ชายอายุ 22-34 ปี ไม่มีเพศสัมพันธ์มากถึง 24% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 9% ในช่วงปี 2013-15 เช่นเดียวกับผู้หญิงในช่วงอายุเดียวกัน ก็ไม่มีเซ็กส์เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ 13% เพิ่มจากเดิมที่อยู่ 8%

รายงานยังระบุอีกว่า ในปี 2025 เพียงปีเดียว มีการจำหน่ายตั๋วไปมากกว่า 130 ล้านใบ ขณะที่จำนวนผู้เข้าชมคอนเสิร์ตในสเตเดียมเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ก็ขายบัตรหมดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาก รวมถึงในปี 2026 จะมีการเปิดฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 แห่งทั่วโลก ยิ่งจะทำให้วงการคอนเสิร์ตเติบโตมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ รายงานยังเสริมอีกว่า ในปี 2024 แฟนเพลงเดินทางมากกว่า 40,000 ล้านไมล์เพื่อชมคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดแบบสด นี่จึงทำให้ดนตรีเป็นรูปแบบความบันเทิงอันดับหนึ่งของโลก “ไม่ใช่กระแสชั่วครั้งชั่วคราว” แต่เป็น “การรีเซ็ตวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนใช้เวลา หล่อหลอมตัวตน เชื่อมต่อ และแบ่งปันเรื่องราว”

อันที่จริงการไปดูคอนเสิร์ตก็ไม่ต่างจากการแข่งขันกีฬา เพราะในตอนนี้แฟนคลับศิลปินต้องใช้กลยุทธ์มากมาย ตั้งแต่เริ่มกดบัตรที่ต้องหาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อมาแข่งขันกับบอทและร้านรับกดบัตร รวมถึงต้องมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่าบัตรที่นับวันยิ่งแพงหูฉี่ แต่ใช่ว่าได้บัตรแล้วจะจบ (อย่างน้อยในหมู่แฟนคลับ) ก็ต้องค้นหาเซ็ตลิสต์ในคอนเสิร์ต เพื่อซ้อมร้องเพลง ฝึกร้องแฟนชานท์ ยังไม่รวมถึงค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าชุดที่จะใส่ไปคอนเสิร์ตอีก

รายงานระบุว่า 93% ของผู้คนปรารถนาประสบการณ์จริงมากกว่าประสบการณ์ดิจิทัล และ 80% ต้องการใช้เงินไปกับการซื้อประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ

“ในยุคของ AI และอัลกอริทึม คอนเสิร์ตคือยาแก้พิษ สร้างประสบการณ์ร่วมทางอารมณ์ที่เข้มข้นมากที่สุดในโลก” ผลสำรวจเผยว่า 85% ของแฟนเพลงรู้สึกมีความสุขเมื่อออกจากคอนเสิร์ต โดยคนรุ่นมิลเลนเนียลให้คะแนนความสุขนี้สูงที่สุด”

การศึกษายังอธิบายว่าศิลปินหญิงกำลัง “กำหนดช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัฒนธรรม” รายงานระบุว่า 76% ของแฟน ๆ สนใจคอนเสิร์ตของศิลปินหญิง เช่นเทย์เลอร์ สวิฟต์, บียอนเซ่, โอลิเวีย ร็อดริโก และเลดี้ กาก้า เห็นได้จากคอนเสิร์ต “Taylor Swift Eras Tour” ที่ทำรายได้ไปมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากโชว์ทั้งหมด 149 รอบทั่วโลก ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความพยายามที่ผู้คนจะทุ่มเทเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาทางวัฒนธรรมและชมศิลปินคนโปรดของพวกเขา 

ความมหัศจรรย์ของทั้งคอนเสิร์ตและเซ็กส์ต่างขึ้นอยู่กับการค้นหาจุดที่ลงตัวระหว่างความคุ้นเคยและความแปลกใหม่ ความเหมือนและความต่าง ความพยายามและความสบาย แน่นอนว่ามันเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ความทรงจำในตอนนั้น ความรู้ที่ว่ามันเป็นไปได้ต่างหากที่ผลักดันให้เราลองอีกครั้ง ไม่ว่าจะออกเดตครั้งใหม่ หรือจะวางแผนซื้อตั๋วคอนเสิร์ต

แน่นอนว่าทั้งสองสิ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับบางคนการไปดูคอนเสิร์ตก็ดูจะเป็นเรื่องง่ายกว่าการออกเดต เพราะหลายครั้งก็เจอกับคนที่ไม่ตรงปก รสนิยมไม่เข้ากัน ถูกเท หรือไม่กล้าเปิดใจไปเดต จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนบอกว่าพวกเขาอยากไปดูคอนเสิร์ตมากกว่า เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องกลัวโดนหลอก (ยกเว้นไปซื้อบัตรจากมิจฉาชีพ) ได้รับประสบการณ์อย่างเต็มอิ่ม ถึงใจ เต็มอารมณ์จากศิลปินที่รักอย่างแน่นอน กลายเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำที่ลืมไม่ลง

ที่มา: Euro News, NME, The Guardian