นักแสดง Sex and the city เผย 'ยิ่งอายุมาก ยิ่งเลือกงานที่ให้สมดุล'

นักแสดง Sex and the city เผย 'ยิ่งอายุมาก ยิ่งเลือกงานที่ให้สมดุล'

ซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ นักแสดงรุ่นใหญ่จากซีรีส์ดัง Sex and the city เผยคำแนะนำด้านการทำงาน และนิยามความสำเร็จว่า 'ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งเลือกงานที่ให้สมดุลชีวิต'

KEY

POINTS

  • ซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ เผยว่าเมื่ออายุมากขึ้น นิยามความสำเร็จในอาชีพได้เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตและครอบครัวเป็นหลัก
  • เกณฑ์การเลือกรับงานในปัจจุบันจะคำนึงถึงผลกระทบต่อครอบครัว เช่น ระยะทางจากบ้าน และเวลาที่จะต้องห่างจากลูกๆ ซึ่งต่างจากในอดีตโดยสิ้นเชิง
  • เธอย้ำว่าการได้ทำงานใกล้บ้านถือเป็นความโชคดี ที่สำคัญกว่าชื่อเสียงหรือค่าตอบแทน เพราะช่วยให้เธอสามารถจัดสรรเวลาให้ชีวิตส่วนตัวได้ดีขึ้น

หากพูดถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ในวงการซีรีส์ฝั่งอเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพการงาน ที่หลายคนให้การยอมรับ คงหนีไม่พ้นนักแสดงหญิงอย่าง ซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ (Sarah Jessica Parker) ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากการรับบท "แคร์รี แบรดชอว์" ตัวเอกในซีรีส์ชื่อดังอย่าง "Sex and the City" มาแล้วหลายซีซั่น รวมถึงซีรีส์ภาคแยกที่ชื่อว่า "And Just Like That" ซึ่งอยู่ในจักรวาลเดียวกัน ซึ่งเธอได้รับบทบาทเป็นดารานำมาโดยตลอด รวมถถึงการเป็นโปรดิวเซอร์ในช่วงหลังๆ ด้วย 

จากการทำงานในเส้นทางอาชีพนี้มาหลายปี รวมถึงงานเบื้องหลังในบทบาทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ ทำให้เธอได้สั่งสมประสบการณ์ ความคิด และมีชีวิตและการทำงานที่น่าสนใจ ล่าสุดเธอได้มาแชร์แนวคิดการทำงานและนิยามของความสำเร็จในวัย 60 ปีให้หลายๆ คนได้ฟังกัน ผ่านเวที New Yorker Festival 2025 เมื่อไม่นานมานี้

เธอเล่าย้อนไปในช่วงของการกลับมารับบทและทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ในซีรีส์ “And Just Like That” ของช่อง HBO ว่า ถือเป็นงานที่ท้าทาย สิ่งที่ทำให้ ซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ รู้สึกโชคดีที่สุดกลับไม่ใช่ชื่อเสียงหรือค่าตอบแทน แต่มันคือ “การได้ทำงานใกล้บ้านที่นิวยอร์ก” 

นักแสดงหญิงผู้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี บอกว่า เธอใช้เวลาครึ่งชีวิตไล่ตาม “คำจำกัดความของความสำเร็จแบบเดิม” เป็นต้นว่า.. งานที่ต้องยิ่งใหญ่ ท้าทาย และพาเธอไปไกลกว่าเดิมในเส้นทางอาชีพการแสดง 

แต่วันนี้ ซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ ในวัย 60 ปี พร้อมกับบทบาทใหม่ของการเป็นแม่ลูกสาววัยรุ่นสองคน เธอกลับมองความสำเร็จของวันนี้ต่างออกไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง

เมื่อ "ความสำเร็จ" เปลี่ยนรูปแบบไปตามช่วงวัย

“ตอนนี้ฉันตัดสินใจเลือกงานไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนฉันเป็นนักแสดงอาชีพ ฉันมองหางานที่ได้เรียนรู้ ได้พัฒนา ได้เดินทาง ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ แต่ตอนนี้ฉันคิดละเอียดขึ้นในเรื่องเล็กๆ อย่าง ‘เวลาที่ฉันจะต้องเสียไปกับอะไร’ ” เธอ อธิบาย 

พาร์คเกอร์เล่าว่า ก่อนรับงานใหม่ เธอจะถามตัวเองเสมอว่า
“งานนี้จะทำให้ฉันห่างจากลูกๆ แค่ไหน?” 
“ฉันต้องใช้เวลาในแต่ละวันไปกับอะไรบ้าง?”
“งานนี้จะอยู่ไกลจากบ้านแค่ไหน?”
และ “ฉันจะพลาดอะไรไปบ้าง?”

สิ่งเหล่านี้คือคำถามที่เธอไม่เคยถามตัวเองตอนอายุ 30 ปี หรือ 40 ปี แต่กลับกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวัย 60 ปี

เธอยอมรับว่า การนิยาม “ความสำเร็จในอาชีพ” ของตัวเองเปลี่ยนไปตามวัย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับใครหลายคน ในช่วงต้นอาชีพ เราอาจมุ่งแค่ “เติบโตให้เร็วที่สุด” หรือ “หาเงินให้ได้มากที่สุด” แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต ความสำเร็จอาจหมายถึง “การได้อยู่กับครอบครัว” หรือ “มีเวลาทำสิ่งที่รักโดยไม่เหนื่อยเกินไป”

“ความสำเร็จไม่มีเส้นชัย” ผู้เชี่ยวชาญชี้ วัยทำงานควรยืดหยุ่นกับเป้าหมายชีวิต

นักคิดด้านภาวะผู้นำชื่อดัง ไซมอน ซิเน็ก (Simon Sinek) เคยพูดในพอดแคสต์ A Bit of Optimism เมื่อเดือนกันยายน 2025 ที่ผ่านมาไว้ว่า การมองชีวิตการทำงานเป็นการแข่งขันคือจุดเริ่มต้นของความทุกข์

“แนวคิดที่ว่า ‘ถ้าไม่เร่ง เดี๋ยวจะตามไม่ทัน’ หากคุณคิดแบบนั้นก็แปลว่า คุณกำลังมองชีวิตเหมือนการแข่งขันที่มีเส้นชัยรออยู่ข้างหน้า ..แต่นั่นคือความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีเส้นชัยสำหรับชีวิตหรืออาชีพของเรา” ซิเน็กกล่าว

เขาเสนอว่า การนิยาม “ความสำเร็จ” แบบยืดหยุ่น และเลือกทำงานที่ทำให้มีความสุขทางใจ มากกว่าการไล่ตามบันไดอาชีพแบบเดิม อาจนำไปสู่ความสำเร็จระยะยาวมากกว่า

“เลือกงานที่อยู่ใกล้บ้าน” คือหนึ่งในวิธีรักษาสมดุลชีวิต

สำหรับ พาร์คเกอร์ การเลือกงานแสดงที่อยู่ใกล้บ้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างสมดุลระหว่าง ชีวิตส่วนตัว งานอดิเรก และอาชีพ เพราะนอกจากการเป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ เธอยังมีบทบาทอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น..

การเปิดตัวไวน์แบรนด์แรกของตัวเอง ร่วมกับบริษัท Invivo Wines, การเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินรางวัล Booker Prize 2025, ไปจนถึงการทำงานกับ The States Project ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ทางการเมืองที่สนับสนุนผู้สมัครและนโยบายฝั่งเดโมแครตในระดับรัฐ

เธอยอมรับว่าในช่วงที่ลูกๆ ยังเล็ก การทำงานหลายบทบาทพร้อมกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอโชคดีที่มีรายได้มากพอที่จะจ้างผู้ช่วยและพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อให้สามารถจัดสมดุลชีวิตและงานได้

“ฉันรู้ดีว่าฉันสามารถทำหลายอย่างได้ เพราะมีระบบสนับสนุนที่ดี สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจที่สุดคือ มีพ่อแม่อีกมากมาย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในเมืองนี้ ที่ต้องทำงาน 2-3 งานพร้อมกันโดยไม่มีความช่วยเหลือแบบที่ฉันมี พวกเขาแค่ ‘เอาชีวิตรอด’ ในแต่ละวัน ซึ่งนั่นไม่ง่ายเลย” เธอสะท้อนความเห็นส่วนตัว

ท้ายที่สุดในทุกๆ เส้นทางอาชีพ ไม่ว่าคุณจะทำงานสายใดก็ตาม คำว่า “ความสำเร็จ” อาจจะไม่ได้มีแค่ความหมายเดียวเสมอไป และนิยามความสำเร็จก็เปลี่ยนไปได้ตามช่วงชีวิตและไลฟ์สไตล์ของเราเอง 

เรื่องราวของซาราห์ เจสสิกา พาร์คเกอร์ ไม่ได้เป็นแค่บทเรียนที่สะท้อนถึงการเลือกงานที่ให้สมดุลชีวิตมากกว่าเลือกชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตือนใจคนทำงานทุกคนว่า “เรามีสิทธิ์นิยามความสำเร็จในแบบของตัวเอง” และบางครั้ง ความสำเร็จที่แท้จริง…อาจหมายถึง “การได้กลับบ้านตรงเวลา” ก็ได้เช่นกัน!

 

 

อ้างอิง: CNBC Make itSimon Sinek