"สมเด็จพระพันปีหลวง" ทรงอภิบาลศิลปาชีพ ปั้นชาวนาสู่ช่างศิลป์ระดับโลก

ย้อนรอยพระกรณียกิจ สมเด็จพระพันปีหลวง พระแม่แห่งแผ่นดินผู้ทรงตระหนักถึงรายได้ของเกษตรกรไทย ทรงเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ด้วยการนำ 'ศิลปหัตถกรรม' เสริมอาชีพให้ชาวนา
KEY
POINTS
- สมเด็จพระพันปีหลวงทรงมีพระราชดำริจัดหาอาชีพเสริมด้านศิลปหัตถกรรมให้แก่เกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและป้องกันการละทิ้งถิ่นฐานไปทำงานในเมือง
- ทรงส่งเสริมงานศิลปาชีพหลากหลายแขนงทั่วประเทศ เช่น การทอผ้าไหม เครื่องเงินชาวไทยภูเขา งานจักสาน และงานปั้น โดยใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่น
- ทรงสนับสนุนการทำงานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การหาวัตถุดิบไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยกระดับคุณภาพงานฝีมือไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- พระมหากรุณาธิคุณยังแผ่ไพศาลไปถึงผู้พิการ โดยทรงจัดหาศิลปาชีพที่เหมาะสมให้สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองได้
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ใน สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้ทรงตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรกรไทย ทรงเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ด้วยการนำ 'ศิลปหัตถกรรม' มาเป็นอาชีพเสริม เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ ไม่ต้องทิ้งถิ่น และทรงยกระดับผ้าไทยสู่สากล
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตระหนักถึงความสำคัญของชาวไร่ชาวนาผู้ผลิตอาหาร ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของมนุษย์ ดั่งความที่ว่า "ไทยอุดมข้าวกล้าธัญญาหาร เลี้ยงคนสักร้อยล้านก็เลี้ยงได้ ชาวนาอุทิศตนเลี้ยงคนไทย แต่มีใครสักคนเล่าเลี้ยงชาวนา..."
ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา จึงทรงพระราชดำริที่จะจัดหาอาชีพเสริมให้แก่เกษตรกรเหล่านี้ เพื่อให้มีกำลังใจที่จะทำนาทำไร่ต่อไป ไม่ต้องขายที่ดิน ไม่ต้องเป็นหนี้สิน และไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานไปทำมาหากินในเมืองใหญ่ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาความแออัดของชุมชนในเมืองใหญ่ที่อาจตามมาอีกด้วย
พระราชดำริของพระองค์คือการสร้างอาชีพเสริมที่สามารถประกอบอยู่ที่บ้านได้ในเวลาที่ว่างจากการทำไร่ทำนา หรือเมื่อดินฟ้าอากาศไม่อำนวยให้เพาะปลูก หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีดินทำกิน ก็จะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้ด้วยทรัพยากรธรรมชาติหรือวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน และด้วยภูมิปัญญาตลอดจนด้วยฝีมือของพวกเขาเอง
นี่จึงเป็นที่มาของพระราชดำริในการนำศิลปหัตถกรรมมาเป็นอาชีพเสริมให้แก่ชาวไร่ชาวนาไทย อันเป็นรากฐานสำคัญของ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระองค์โปรดให้ทรงงานครบวงจร ปลุกผ้าไหมไทย สู่มรดกที่มีชีวิตของแผ่นดิน
สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงโปรดการปฏิบัติงานแบบครบวงจร เมื่อทรงสนับสนุนให้ชาวบ้านทอผ้าไหม ก็จะให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและสาวไหมไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในห่วงโซ่การผลิต และสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่รอบด้านของพระองค์
ในบางครั้งที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ทรงต้องทรงงานอยู่ค่ำมืดจนถึงเวลาดึกดื่น โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดเตรียมไฟฉายไปในขบวนให้เพียงพอที่จะใช้ส่องเวลาทรงงานและเวลาที่ขบวนเคลื่อนด้วย ซึ่งแสดงถึงพระวิริยะอุตสาหะและความทุ่มเทอย่างยิ่งในการช่วยเหลือราษฎร พระองค์เคยเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรและทรงงานอยู่จนถึงเวลาตีหนึ่งตีสอง จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนัก
โดยเฉพาะงานทอ "ผ้าไหม" ถือเป็นหนึ่งในงานศิลปาชีพที่ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อกระตุ้นให้ราษฎรผู้ทอผ้าไหมมีความกระตือรือร้นและรักษาคุณภาพของผ้าไหมไว้ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการประกวดผ้าไหมชนิดต่าง ๆ เช่น ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าแพรวา ผ้าไหมหางกระรอก และผ้าไหมพื้น
โดยจัดขึ้น ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2526 ผู้ชนะการประกวดในแต่ละประเภทจะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัล ซึ่งเป็นการสร้างกำลังใจให้ราษฎรผลิตงานฝีมือด้านนี้อย่างต่อเนื่องและรักษาลวดลายโบราณอันเป็นเอกลักษณ์
สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพัฒนาศิลปหัตถกรรมไทยหลากหลายแขนง
พระราชกรณียกิจด้านศิลปาชีพครอบคลุมงานฝีมือหลากหลายแขนงทั่วประเทศ ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของพระองค์ ได้แก่
ช่างเงินช่างทองชาวไทยภูเขา:
ระหว่างเสด็จแปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ทรงรับชาวไทยภูเขาเข้าเป็นสมาชิกศิลปาชีพแผนกช่างเงิน ช่างทอง เนื่องจากทรงได้รับคำร้องขอพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องการจำหน่ายเครื่องเงิน เครื่องประดับแบบชาวเขาที่ขายไม่คล่อง
พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้พวกเขาเข้าไปฝึกงานที่โรงฝึกศิลปาชีพ และทรงแนะนำรูปแบบใหม่ๆ โดยยังคงไว้ซึ่งลวดลายของเผ่าพันธุ์ให้ทำจนกระทั่งงานฝีมือชาวไทยภูเขาที่เป็นสมาชิกมูลนิธิฯ ได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก นอกจากนี้ ยังโปรดให้ปั้นรูปสัตว์เป็นตัวอย่างให้ชาวไทยภูเขาทำขึ้นด้วยเนื้อเงิน โดยมีการศึกษาการปั้นจากกายวิภาคของสัตว์เพื่อให้ผลงานเหมือนจริงที่สุด
งานจักสาน:
ในภาคใต้ ทรงเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านสานเสื่อกระจูดและเสื่อเตย โดยโปรดเกล้าฯ ให้มีการประกวดเสื่อทั้งเสื่อโบราณและเสื่อสานใหม่ เพื่อรักษามาตรฐานลวดลาย การให้สี และความประณีตของฝีมือ ส่วนงานจักสานหวายและไม้ไผ่ของไทยที่ทำได้สวยงามอยู่แล้ว ก็ทรงติชมและทรงเป็นกำลังใจให้สมาชิกศิลปาชีพรักษาคุณภาพให้ดีพอที่จะแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้
ย่านลิเภาและเรือกอแระ:
พระองค์ทรงใช้กระเป๋าทรงถือสานด้วยย่านลิเภาที่ประกอบและตกแต่งด้วยฝีมือช่างทองของศิลปาชีพ และทรงเชยชมความงามของกระเป๋าย่านลิเภาคู่กับกระเป๋าไม้ไผ่ลายขิด ซึ่งงานฝีมือทั้งสองประเภทมีความงามไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน นอกจากนี้ยังทรงสนับสนุนกลุ่มแกะสลักเรือกอแระของภาคใต้ โดยทรงนำมาใช้ปักดอกไม้ต่างแจกันบนโต๊ะเสวย และทรงใช้ตกแต่งพระตำหนัก เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปบ้านโต้ะโมะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2526
ปีกแมลงทับและตอไม้:
เมื่อเสด็จฯ ไปบ้านสร้างค้อ จังหวัดสกลนคร ในปี 2526 ทรงประทับพระราชหฤทัยในความงามระยับของปีกแมลงทับที่ราษฎรนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำปีกแมลงทับที่มีสีสันสวยงามมาตัดปักประกอบงานปักมือแทนลูกปัดและเลื่อม นอกจากนี้ยังทรงพบตอไม้ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่ป่าไม้ จึงทรงสนับสนุนให้ราษฎรนำตอไม้เหล่านั้นมาแกะสลักเป็นศิลปาชีพที่งดงามอีกแขนงหนึ่ง หากตอไม้หมดไปก็ให้จัดหาวัตถุดิบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มาทดแทน เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มเติม
งานปั้นและดอกไม้ประดิษฐ์:
แผนกเครื่องปั้นดินเผาที่บ้านแม่ต๋ำ จังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทรงชื่นชมในอัจฉริยะของลูกหลานชาวนาชาวไร่ ที่สามารถเขียนลวดลายตามจินตนาการจากสิ่งที่เห็นรอบตัวและจากเรื่องราววรรณคดีได้อย่างเป็นที่พอพระราชหฤทัย ส่วนดอกไม้ประดิษฐ์ของศิลปาชีพ ทรงเน้นให้ประดิษฐ์ดอกไม้ไทย ๆ เช่น สารภี บุนนาค ปีบ จันทร์กะพ้อ และนางแย้ม เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จักและชื่นชม โดยใช้วัตถุดิบในไทยให้มากที่สุด
พระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลถึงคนพิการ
ความเมตตาของพระองค์มิได้จำกัดอยู่เพียงชาวไร่ชาวนา แต่ยังรวมถึง คนพิการ ด้วย หากมีกำลังกายและกำลังใจพอที่จะประดิษฐ์งานศิลป์ได้ ก็จะทรงจัดหาศิลปาชีพที่เหมาะสมให้ และคนพิการเหล่านี้ก็ตั้งใจทำงาน ส่วนใหญ่มีฝีมือดีสมกับที่ได้ตั้งพระทัยพระราชทานพระมหากรุณา
พระราชกรณียกิจด้าน ศิลปาชีพ แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำเลิศในการรวมเอาความรักชาติ ความเมตตา และเศรษฐกิจเข้าไว้ด้วยกัน พระองค์ทรงเป็นดั่งผู้จุดประกายให้ คุณค่าของงานหัตถกรรมพื้นบ้านได้ถูกยกระดับสู่สากล สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนเองแก่คนไทยทุกภูมิภาค
พระราชปณิธานที่ทรงสร้างอาชีพเสริมเพื่อความยั่งยืนให้แก่ราษฎร ยังคงเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งของเศรษฐกิจชุมชนไทย พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ จะยังคงสถิตอยู่ในความทรงจำและดวงใจของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป
อ้างอิง: พระลาน, RoyalOffice











