9 เรื่องราวสุดพิเศษของ "สมเด็จพระพันปีหลวง" ที่คุณอาจไม่เคยรู้

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เปิดตำนานรักนิรันดร์และแฟชั่นระดับโลก 9 เรื่องราวสุดพิเศษใน "สมเด็จพระพันปีหลวง" ที่คุณอาจไม่เคยรู้
KEY
POINTS
- เผยเรื่องราวส่วนพระองค์ ตั้งแต่คำทำนายในวัยเยาว์ว่าจะเป็น "มหารานี" จนถึงจุดเริ่มต้นความรักกับในหลวง ร.9 ที่เกิดจาก "ชังแรกพบ" หลังทรงประสบอุบัติเหตุ
- ทรงเป็นผู้นำแฟชั่นและผู้บุกเบิก "Soft Power" นำผ้าไทยสู่เวทีโลกจนได้รับการจารึกว่าเป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก
- ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์ที่ 2 ที่ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระราชกรณียกิจในการดูแลราษฎรเป็นที่มาของพระสมัญญา "แม่แห่งชาติ"
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นดั่ง "แม่แห่งชาติ" ผู้ทรงสร้าง Soft Power และเป็นแฟชั่นนิสต้าก่อนกาล เผยเกร็ดเรื่องราวส่วนพระองค์ที่ไม่เคยมีใครเปิดเผย ตั้งแต่คำทำนายวัยเยาว์ จนถึงจุดกำเนิดความรักกับในหลวง รัชกาลที่ 9
เพื่อเป็นการน้อมสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่จะคงสถิตอยู่ในดวงใจไทยนิรันดร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ได้รวบรวม 9 เรื่องราวอันน่าประทับใจ ที่เผยให้เห็นพระราชจริยวัตรอันงดงาม และพระปรีชาสามารถที่ทรงมีต่อชาติและประชาชน ดังนี้
1. พระนามอันเป็นมงคล และพระสุรเสียงที่ทรงเรียกว่า "แม่สิริ"
พระนาม "สิริกิติ์" ที่มีความหมายอันเป็นมงคลว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร" นั้น ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี (ในรัชกาลที่ 7) ในสมัยทรงพระเยาว์ ม.ร.ว.สิริกิติ์ เคยทรงถูกเรียกโดยลำลองว่า "คุณหญิงสิริ" และเมื่อทรงอภิเษกสมรสแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระราชสวามี) จะทรงเรียกพระองค์ด้วยความรักใคร่ว่า "แม่สิริ"
2. "คำทำนาย" ที่กลายเป็นความจริงใน 15 ปี
ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เคยเล่าว่า มีแขกเลี้ยงวัวทำนาย ม.ร.ว.สิริกิต์ ในวัยเพียง 2 พรรษา ว่า "ต่อไปจะเป็นมหารานี" ซึ่งครั้งนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์ ทรงเคยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟังอย่างขบขัน แต่ในอีก 15 ปีต่อมา คำทำนายนี้ก็กลายเป็นความจริง เมื่อทรงเข้าสู่พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
3. จุดกำเนิด "รสนิยมแบบองค์แม่" ที่โลซานน์
เมื่อครั้งเสด็จไปศึกษาต่อ ณ โรงเรียน Riante Rive เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเรียนวิชาพิเศษสำหรับกุลสตรี โดยเฉพาะวิชาภาษา ศิลปะ และดนตรี การศึกษาในต่างประเทศนี้เองที่เป็น จุดเริ่มต้นของความสนพระทัยด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรากฐานสำคัญในการฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมไทย
4. "ชังแรกพบ" สู่ "รักนิรันดร์" เพราะอุบัติเหตุ
สมเด็จพระพันปีหลวงเคยทรงเปิดเผยกับ BBC ว่า ในการพบเจอกันครั้งแรก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปล่อยให้พระองค์ต้อง ทรงซ้อมถอนสายบัวรอนานถึง 3 ชั่วโมง จนเป็นความรู้สึก "ชังแรกพบ" มากกว่ารักแรกพบ แต่เมื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงที่สวิตเซอร์แลนด์ พระองค์กลับเป็นผู้ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงนึกถึง จึงได้ทรงไปเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงเริ่มเปิดพระทัยนับตั้งแต่นั้นมา
5. "สมเด็จพระบรมราชินีนาถ" ผู้ทรงขึ้นว่าราชการแทนพระสวามี
พระองค์ทรงเป็น สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์ที่ 2 ของไทย (ต่อจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5) โดยทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ภายหลังจากพระราชสวามี (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชประสงค์จะผนวชตามโบราณราชประเพณี ซึ่งแสดงถึงพระปรีชาสามารถและความไว้วางพระราชหฤทัย
6. แฟชั่นนิสต้าก่อนกาล สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก
ทรงตระหนักว่า ฉลองพระองค์ของพระองค์จะเป็นเสมือน "สัญลักษณ์ของประเทศ" จึงมีพระราชประสงค์ให้สตรีไทยมีชุดประจำชาติที่สง่างามและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยพระสิริโฉมและรสนิยมที่งดงาม ทำให้ นิตยสารแฟชั่นชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้จารึกว่าพระองค์ทรงเป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก
7. พระผู้บุกเบิก "Soft Power ไทย" สู่เวทีโลก
นิตยสารแฟชั่นชื่อดังระดับโลกอย่าง Vogue (ฉบับสหรัฐอเมริกา) ได้เผยแพร่พระสิริโฉมของพระองค์ในฉลองพระองค์ชุดไทย ซึ่งถือเป็นการนำเสนอ Soft Power ของไทยสู่เวทีโลกเป็นครั้งแรกๆ นับเป็นการสร้างรากฐานสำคัญให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากลอย่างแท้จริง
8. ฉลองพระองค์เยี่ยมราษฎร การให้เกียรติเจ้าของพื้นที่
พระองค์เคยมีพระราชดำรัสว่า การเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในแต่ละหมู่บ้านเป็นเรื่องยากที่จะเสด็จฯ ซ้ำ จึงต้องทรงแต่งฉลองพระองค์ให้ เกียรติเจ้าภาพ และทรงเป็นเจ้านายที่เคร่งครัดเรื่องการแต่งกาย เพื่อแสดงถึง ความเคารพต่อประชาชน ที่เฝ้ารอรับเสด็จในทุกพื้นที่อย่างสูงสุด
9. พระสมัญญา "แม่แห่งชาติ" สู่ "วันแม่ 12 สิงหาคม"
พระราชกรณียกิจในการดูแลและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพ โครงการศิลปาชีพ และการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรอย่างใกล้ชิด เปรียบเสมือนแม่ดูแลลูก ซึ่งเป็นที่มาของการได้รับพระสมัญญา "แม่แห่งชาติ" และเป็นที่มาของการกำหนดให้ วันที่ 12 สิงหาคม อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็น วันแม่แห่งชาติ มาจนถึงปัจจุบัน
พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงบำเพ็ญมาตลอดพระชนม์ชีพนั้น มิได้เป็นเพียงหน้าประวัติศาสตร์ แต่คือหลักฐานแห่งความรักและเมตตาที่ทรงมีต่อพสกนิกรและผืนแผ่นดินไทย
แม้ในวันนี้ พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่พระราชปณิธานด้านการอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ยังคงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สถิตอยู่คู่ชาติไทย พระราชจริยวัตรอันงดงาม พระเมตตาที่แผ่ไพศาล และพระสิริโฉมอันสง่างาม จะยังคงอยู่ในความทรงจำและดวงใจของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงเป็น "แม่แห่งชาติ" อย่างแท้จริง
อ้างอิง: พระลาน, ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน











