ขวัญและกำลังใจทหารแนวหน้า น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ "สมเด็จพระพันปีหลวง"

น้อมถวายความอาลัยด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ใน สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้ทรงเป็น "แนวหลัง" ที่เข้มแข็งและอบอุ่นของเหล่าทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครแนวหน้า
KEY
POINTS
- น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ใน สมเด็จพระพันปีหลวง ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหารตามฐานปฏิบัติการชายแดน เพื่อพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคและสร้างขวัญกำลังใจ
- ทรงก่อตั้ง "มูลนิธิสายใจไทยฯ" เพื่อให้การสงเคราะห์ดูแลทหารและเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงครอบครัว
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดอาหารจากห้องเครื่องไปพระราชทานแก่ทหารที่บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน 30 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ห้วงเวลานั้น ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่มั่นคงในภูมิภาคแถบชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังต้องเผชิญกับวิกฤติภายในอย่างรุนแรง แต่ประเทศไทยก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของทหาร ตำรวจ พลเรือน และอาสาสมัครผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและในพื้นที่ความขัดแย้งภายในประเทศ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตระหนักถึงปัญหาความมั่นคงของชาติ และความเสียสละของเจ้าหน้าที่เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง พระราชกรณียกิจของพระองค์ในด้านนี้ จึงเปรียบเสมือน "กำลังหนุนอันสำคัญแก่รั้วของชาติ" ให้พวกเขามีแรงใจ ด้วยการคอยปกป้องและดูแลอยู่เสมอ ดังที่หน่วยราชการในพระองค์ได้เผยแพร่ข้อมูลไว้ ดังนี้
ทรงเยี่ยมถึงฐานที่ตั้ง และกำลังใจจาก "แนวหลัง"
พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นขวัญและกำลังใจต่อทหารแนวหน้า
บ้านดีต้องมีรั้ว ป้องกันตัวจากโจรภัย
รั้วเรามีแรงใจ ประมุขบ้านท่านดูแล
พระองค์โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนเหล่าผู้เสียสละเหล่านี้ถึงฐานปฏิบัติการ ทรงนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปพระราชทาน และหลายครั้งที่ทรงนำพระเครื่องไปพระราชทานเพื่อเป็นการ สร้างขวัญและกำลังใจ ให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง
ยามใดที่ทรงทราบข่าวการปะทะและการสูญเสียเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญ พระองค์จะทรงเศร้าสลดพระราชหฤทัย และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่บุคคลนั้น รวมทั้งครอบครัวทันที แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาที่แผ่ไพศาลจาก "ประมุขบ้าน" สู่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่เป็น "รั้วของประเทศ"
การก่อตั้ง "มูลนิธิสายใจไทยฯ" เพื่อการดูแลที่ไม่สิ้นสุด
ด้วยทรงห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่แนวหน้าผู้กล้าหาญอันไม่สิ้นสุด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียสละนี้เอง ในวันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2518 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์จึงได้ทรงก่อตั้ง มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นมา
วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ ตลอดจนครอบครัวของผู้ที่พิการหรือเสียชีวิต นอกเหนือจากสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ
โดยมีเป้าหมายที่จะส่งต่อแรงใจให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าเกิดความอบอุ่นใจว่า ยังมีแนวหลังคอยห่วงใย เมื่อบาดเจ็บล้มตายก็จะไม่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตอยู่เพียงลำพัง
ปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานมูลนิธิสายใจไทยฯ สืบมา
จากห้องเครื่องสู่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ความห่วงใยยาวนานกว่าสามทศวรรษ
แม้จะมีมูลนิธิสายใจไทยฯ เข้ามาช่วยดูแลภาระส่วนใหญ่แล้ว แต่พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวงก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง พระองค์ยังทรงพระกรุณาให้ จัดอาหารจากห้องเครื่องในสวนจิตรลดาไปพระราชทานแก่ทหารที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่เสมอ
การพระราชทานอาหารนี้มีมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่ครั้งที่ทหารไทยรุ่นจงอางศึกไปรบในสงครามเวียดนาม โดยพระราชทานแก่ทหารผู้บาดเจ็บจากการปะทะตามแนวชายแดนที่กำลังรักษาตัว, ทหารที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บพิการอย่างต่อเนื่อง, และทหารที่กำลังรอรับอวัยวะเทียม
นอกจากนี้ ยังมีพระราชเสาวนีย์ให้เจ้าหน้าที่จากกองราชเลขานุการในพระองค์ฯ ไปเยี่ยมดูอาการของทหารผู้บาดเจ็บทุกสัปดาห์ และในฤดูร้อนยังโปรดให้จัด ไอศกรีมไปพระราชทานเป็นพิเศษ อีกด้วย
นอกจากจะทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าแล้ว พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับ แนวหลัง โดยทรงสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความรักชาติ ความสามัคคี และมีวินัย เช่น การทรงสนับสนุนกิจกรรมของลูกเสือแห่งชาติ และลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมไทยมาจนถึงทุกวันนี้
พระราชกรณียกิจเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า พระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรั้ววัง แต่แผ่ขยายไปถึงสนามรบและโรงพยาบาล เพื่อเป็น ขวัญ กำลังใจ และความอบอุ่น ให้แก่ผู้เสียสละทุกท่านอย่างแท้จริง
อ้างอิง: พระลาน, RoyalOffice











