สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล พระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ ‘เต่าทะเล’

นับเป็นเวลามากกว่า 60 ปี ที่ประชาชนชาวไทยได้รับรู้รับชมพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชดำเนิน โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปเยี่ยมราษฎรทุกพื้นที่ทุกหนทุกแห่งในผืนแผ่นดินไทย

 

ทรงริเริ่มโครงการพระราชดำริไว้มากมายนับไม่ถ้วน หวังให้ปวงชนชาวไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

1. สุขภาพอนามัย : ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยของราษฎรในพื้นที่ชนบทห่างไกล โปรดเกล้าฯ ให้จัดคณะแพทย์ตามเสด็จในต่างจังหวัด นำมาสู่ หน่วยแพทย์พระราชทาน ทรงสานต่อโครงการ หมอหมู่บ้าน ของในหลวง รัชกาลที่ 9

2. การศึกษาอย่างเท่าเทียม : พระราชทานพระราชทรัพย์เป็นทุนเริ่มแรกให้แก่ โรงเรียนเจ้าแม่หลวงอุปถัมภ์ 1 สร้างโรงเรียนสำหรับชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่, โรงเรียนเจ้าแม่หลวงอุปถัมภ์ 2 สำหรับชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ต.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

3. ศาสนา : ทรงถือว่าทุกศาสนามีความสำคัญ เสด็จฯ ไปในงานพระราชพิธีหรือทรงประกอบพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับศาสนาทุกศาสนา ทรงอนุเคราะห์พระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ถวายปัจจัยเป็นค่ารักษาพยาบาล พระราชทานทรัพย์แก่โรงพยาบาลเป็นทุน

4. ฟาร์มตัวอย่าง : ศูนย์เรียนรู้การเกษตรครบวงจร ตามพระราชดำริ เกิดขึ้นที่บ้านขุนแตะ หมู่ 5 ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ดำเนินงานเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ จนโครงการพัฒนาต่อเนื่องกระจายไปทั่วประเทศ

5. บ้านเล็กในป่าใหญ่ : "พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า" พระราชดำรัสของสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพระราชทานโครงการ บ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่บ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2534 ต่อยอดเป็นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในอีกหลายพื้นที่ 

6. ผ้าไหมไทย : ทรงส่งเสริมการทอผ้าไหมไทย สร้างอาชีพให้ราษฎร ทรงเผยแพร่ความงามของผ้าไหม และหัตถกรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ในฉลองพระองค์อันวิจิตร ภูมิปัญญาพื้นบ้าน งานศิลป์ที่ถูกละเลยได้ถูกหยิบขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2513

7. โขน ศิลปการแสดงชั้นสูง : ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ศึกษาค้นคว้าการแสดงโขนตามแบบโบราณราชประเพณี ฟื้นฟูองค์ความรู้สร้างเครื่องแต่งกายโขนตามธรรมเนียมเดิม โขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกพรหมาศ พ.ศ.2552 เป็นปฐมบทของโขนที่เกือบสูญหายได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนโขนไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ.2561

8. ศิลปาชีพ : ทรงส่งเสริมศิลปาชีพ จนเกิดผลงานประณีตศิลป์ชั้นสูง โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา ยกสถานะขึ้นเป็น สถาบันสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2553 เป็นต้นมา ผลงานลูกหลานชาวนาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ศิลป์แผ่นดิน ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

9. สังคมสงเคราะห์ : พระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนด้านการแพทย์ สาธารณสุข และสังคมสงเคราะห์ ผ่านโครงการพระราชดำริฯ มากมาย แผ่ไพศาลถึงผู้อพยพลี้ภัย ทรงจัดตั้ง มูลนิธิสายใจไทย ช่วยเหลือทหาร ตำรวจ รับใช้ชาติที่บาดเจ็บ พิการ ให้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว มีผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากมูลนิธิสายใจไทย

10. สิ่งแวดล้อม : ทรงโปรดธรรมชาติ ป่าไม้ ต้นน้ำ ลำธาร ทรงมุ่งมั่นอบรมชาวบ้านให้ช่วยกันรักษาป่า ทรงริเริ่มโครงการป่ารักน้ำ ที่ จ.สกลนคร พ.ศ.2525

งานอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เป็นอีกหนึ่งโครงการ ทรงเห็นว่าคนไทยนิยมรับประทานไข่เต่ากันมาก เกรงว่าจะสูญพันธุ์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้หาซื้อที่เพื่อเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เต่าทะเล ซึ่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเกาะมันใน จ.ระยอง

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

พระราชทาน 'เกาะส่วนตัว' ให้ 'เต่าทะเล'

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใย เต่าทะเล ที่ลดจำนวนลง แม้กรมประมงจะแก้ไขกฎหมายประมง พ.ศ.2493 ให้ผู้ครอบครองเต่าทะเลมีความผิดตามกฎหมาย แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ทำให้ เต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า เต่ามะเฟือง ลดจำนวนลง

ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโดยพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ พื้นที่บน เกาะมันใน จังหวัดระยอง ให้กรมประมงดำเนินการจัดตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์พระราชทาน ใช้ชื่อว่า โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล

พัฒนาพื้นที่ 137 ไร่ ชายฝั่ง 1,200 เมตร กว้าง 550 เมตร พระราชทานเต่าทะเล และลูกเต่าทะเลรวม 100 ตัว นำไปปล่อยสู่ทะเลอ่าวไทย ที่เกาะมันใน วันที่ 11 สิงหาคม 2522

กองทัพเรือ ได้นำไข่เต่าทะเลที่ได้จากเกาะคราม และเกาะใกล้เคียงในพื้นที่สัตหีบ มาเพาะฟัก และ อนุบาล เมื่อลูกเต่ามีอายุ 6 เดือน ก็ติดเครื่องหมายเพื่อติดตามผล นำปล่อยลงสู่ทะเล ลูกเต่าส่วนหนึ่งนำไปเลี้ยงไว้เป็นแม่พันธุ์พ่อพันธุ์

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

Cr. กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง

โครงการฯ ได้เสนอต่อกระทรวงพาณิชย์ให้ออกประกาศห้ามส่งกระดองเต่าทะเลเป็นสินค้าออกตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2524 (ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับที่ 9 พ.ศ.2523) พร้อมเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการอนุรักษ์เต่าทะเลโดยห้ามครอบครองกระดองเต่าทะเล และผลิตภัณฑ์จากเต่าทะเล ผู้ใดฝ่าฝืนจะ มีโทรปรับไม่เกิน 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่ เกาะมันใน ประสบความสำเร็จอย่างดี ปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์เต่าทะเลได้เอง โดยนำไข่เต่าจากธรรมชาติมาฟักแล้วไปเพาะเลี้ยงในบ่ออนุบาล เมื่อเติบโตก็ปล่อยกลับลงสู่ทะเลใช้ชีวิตตามธรรมชาติต่อไป

พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ สร้างความตื่นตัวในหมู่ประชาชนในการอนุรักษ์สัตว์น้ำให้คงอยู่คู่ทะเลไทย

ปัจจุบันโครงการที่เกาะมันใน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ขยายความรับผิดชอบในการศึกษาการขยายพันธุ์สัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นด้วย อาทิ พะยูน, โลมา, หอยมือเสือ, ปะการัง, หญ้าทะเล,งานวิจัยด้านสมุทรศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมทางทะเล

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

Cr. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ

ปี 2532 กองทัพเรือ กำหนดให้พื้นที่บริเวณ เกาะคราม, เกาะอีร้า, เกาะจาน อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล (นธต.)

จัดเจ้าหน้าที่ประจำตามหาดต่างๆ บนเกาะ รวม 16 หาด มีหน้าที่เฝ้าตรวจระวังไม่ให้ชาวบ้านลักลอบเก็บไข่เต่า ทำการรวบรวมไข่เต่าเพื่อนำไปเพาะฟักในพื้นที่ศูนย์ฯ และอนุบาลลูกเต่าให้เติบโต และแข็งแรง ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

ปี 2537 ได้จัดตั้ง ศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ขึ้น เพื่อเปิดเป็นสถานที่ให้ความรู้ และปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้แก่ประชาชน โดยให้ประชาชนเยี่ยมชมการเพาะฟักไข่เต่า, การอนุบาลลูกเต่าเพื่อเพิ่มจำนวน

ดำเนินงานตามพระราชดำริอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่ง กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

Cr. Thon Thamrongnawasawat

'เกาะมันใน' บ้านของ 'เต่าทะเล' 

ย้อนไปวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเล และสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า

"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชินีในรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานเกาะแห่งนี้ที่เคยเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เพื่ออนุรักษ์เต่าทะเล

เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง มีพื้นที่ 134 ไร่ ชื่อเกาะมันใน ครั้งหนึ่งในอดีต เกาะแห่งนี้เคยเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระราชินีองค์หนึ่ง

ปี 2518 เกาะกลายเป็นของแผ่นดิน เพราะราชินีองค์นั้นพระราชทานให้กรมประมง จุดประสงค์คือ เพื่อดูแลอนุรักษ์เต่าทะเล ปัจจุบัน กรมทรัพยากรทางทะเลฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ

เป็นเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อดูแลเต่าโดยเฉพาะ 45 ปีที่ผ่านมา มีลูกเต่านับหมื่นเคยอยู่ที่นี่ก่อนลงสู่ท้องทะเล มีพ่อเต่าแม่เต่านับพันเคยพักรักษาตัว ก่อนกลับบ้านเพื่อสืบสายพันธุ์อีกครั้ง ณ เวลานี้ พ่อเต่าแม่เต่าลูกเต่าหลายตัวก็ยังอยู่บนเกาะ

บ่อใหญ่ 30 ไร่ในทะเล ยังเป็นที่พักพิงสุดท้ายของเต่าบาดเจ็บจากการติดขยะทะเล ขาขาด พิการจนไม่สามารถกลับบ้านได้

เกาะมันในยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายของระบบนิเวศ ทั้งทะเลทั้งบก แนวปะการังสมบูรณ์ตามธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกก็อยู่ที่นี่ ยังเป็นแหล่งฝึกงานของนิสิตวิทยาศาสตร์ทางทะเล/ประมง หลายต่อหลายรุ่น หลายต่อหลายมหาลัย ผมเคยมาฝึกงานที่มันในตั้งแต่เป็นนิสิต กลับมาคุมลูกศิษย์ฝึกงานก็ที่เกาะมันใน ยังมีผู้มาเยือนเกาะมันในปีละหลายพัน บางปีนับหมื่น

ความรักทะเล รักเต่าทะเล ของคนหลายคน ของเด็กหลายคน เริ่มต้นที่นี่ 45 ปี ตัวเลขความรักคือเท่าไร ? ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เริ่มต้นที่ราชินีองค์หนึ่ง พระราชทานเกาะให้เต่า ผมไม่ทราบว่าโลกนี้เคยมีราชินีองค์ไหนยกเกาะให้เต่าบ้าง ผมหาไม่เจอ...

โลกนี้ยังมีเรื่องเล่ามากมาย แต่มีความจริงที่สายตาเห็นบางประการ เห็น "ความจริง" ได้แม้จากภาพที่ได้มาจากดาวเทียม ไม่ว่ากาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงไหน เกาะมันในก็คือ เกาะของเต่า ประจักษ์พยานของความรักที่ทรงมอบให้แก่ท้องทะเล

"เกาะมันใน" เป็นสถานที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเกาะชมได้

ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่อนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล นอกจากนั้นภายในโครงการฯ ก็ยังมีการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าทะเลเพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ และมีส่วนจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบกัน

โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่เกาะมันใน"

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใย ‘เต่าทะเล’ ยก ‘เกาะมันใน’ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์

Cr. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

วันที่ 26 ตุลาคม 2568

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เกี่ยวกับ เกาะมันใน อีกครั้ง ว่า

"เกาะมันใน จุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากของประเทศไทย ยังเป็นที่ฝึกงานสร้างนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลอีกหลายสิบรุ่นหลายร้อยหลายพันคน

ลูกเต่าในยุคนั้นกลายเป็นคุณยายเต่าในยุคนี้ นิสิตฝึกงานกลายเป็นศาสตราจารย์ด้านทะเล สร้างคุณประโยชน์ให้มากมาย

ทั้งหมดเริ่มต้นในวันนั้น วันที่พระองค์ทำในสิ่งที่ราชินีทั่วโลกหล้าไม่เคยทำ

พระองค์พระราชทานเกาะส่วนตัวให้ท้องทะเล

พระองค์รักทะเล

เกาะมันในจึงเป็นประจักษ์พยานแห่งความรักของพระองค์ที่จะคงอยู่ตราบใดที่ทะเลไทยยังคงอยู่

ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ในฐานะคนรักทะเล ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง

ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยความเคารพรักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันเป็นที่ประจักษ์กับสายตา

เมื่อมองจากท้องฟ้า

เกาะมันในสวยเหลือเกิน…"

………………………………………….

อ้างอิง : ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ สัตหีบ จังหวัดชลบุรี, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.), Thon Thamrongnawasawat, หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง fanpage

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์