รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ยังความอาลัยแผ่ทั่วแผ่นดินไทย แต่พระมหากรุณาธิคุณยังคงอยู่ โดยเฉพาะพระราชดำรัสด้านการทำงาน ทรงเน้นย้ำให้ทำงานด้วยจิตใจบริสุทธิ์

KEY

POINTS

  • สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ยังความอาลัยแผ่ทั่วผืนแผ่นดินไทย แต่พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรยังคงอยู่ โดยเฉพาะพระราชดำรัสด้านการทำงานเพื่อประเทศชาติ ทรงเน้นย้ำให้ทำงานด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ มีความรับผิดชอบ และตั้งใจจริงเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
  • ทรงสอนให้คนไทยมีความขยันหมั่นเพียร อดทน ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค และเชื่อว่า ความสำเร็จเกิดจากความพยายามและการทำงานอย่างจริงใจ
  • ทรงปลูกฝังให้ตระหนักว่าทุกชีวิตมีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่เล็กหรือใหญ่
  • พระราโชวาทได้นำไปสู่การก่อตั้งโครงการในพระราชดำริที่สำคัญ เช่น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และฟาร์มตัวอย่าง เพื่อสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎร

ความอาลัยได้แผ่ปกคลุมทั่วผืนแผ่นดินไทย เมื่อ สำนักพระราชวัง ได้ประกาศว่า สมเด็จพระพันปีหลวง หรือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริพระชนมพรรษา 93 พรรษา ยังความวิปโยคโศกเศร้ามาสู่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้

แม้พระองค์ผู้ทรงเป็น 'หลักยึดเหนี่ยวจิตใจแห่งแผ่นดิน' จะทรงจากไป แต่พระมหากรุณาธิคุณและน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อพสกนิกรยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำตลอดไป ปวงชนชาวไทยต่างน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและอาชีพของราษฎรมาตลอดหลายทศวรรษ พระราชดำรัสและพระราโชวาทที่พระราชทานในโอกาสสำคัญต่างๆ จึงเป็นดั่งหลักธรรมชี้ทางด้านการทำงาน

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

โดยทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ และที่สำคัญที่สุดคือ “จิตใจอันบริสุทธิ์” เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเป็นสำคัญ นี่คือมรดกทางปัญญาอันล้ำค่า เป็นดั่งเข็มทิศนำทางให้ปวงชนชาวไทยได้น้อมนำไปปฏิบัติ เพื่อความผาสุกมั่นคงของตนเองและประเทศชาติ

ความบริสุทธิ์ใจและความรับผิดชอบ คือ แก่นแท้แห่งการทำงาน

พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงาน โดยมีพระราชดำรัสที่ทรงสั่งสอนและเน้นย้ำในวันสำคัญต่างๆ โดยมีบางช่วงบางตอนที่สำคัญ ความว่า

“การทำงานนั้น ต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ควรหวังผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ควรตั้งใจทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชน”

พระราโชวาทนี้เป็นดั่งข้อกำชับให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนต้องยึดมั่นในความตั้งใจจริง และละทิ้งความเห็นแก่ตัวในการทำงาน โดยทรงชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จจากการทำงานที่แท้จริง ไม่ได้มาจากผลตอบแทนส่วนตน แต่มาจากการกระทำเพื่อผู้อื่นและส่วนรวม ดังพระราชดำรัสอีกส่วนหนึ่งที่ว่า

“การทำงานจะสำเร็จได้ต้องมีความตั้งใจจริง และต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ อย่าทำงานเพราะหวังผลตอบแทนส่วนตัว แต่ทำเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นและส่วนรวม”

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยทรงชี้แนะว่า ชีวิตของพลเมืองไทยทุกคนนั้นมีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและสังคม ดังที่ทรงมีพระราชดำรัสกำชับให้เยาวชนและประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของการเกิดมา ยกตัวอย่างอีกหนึ่งพระราชดำรัสสำคัญ ความว่า...

“ชีวิตที่ได้มาเป็นของแผ่นดินและประชาชน เราควรตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าหน้าที่นั้นจะเล็กหรือใหญ่ เพราะทุกหน้าที่ล้วนมีคุณค่า”

และทรงเน้นย้ำให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ว่างเปล่า ด้วยการตั้งใจใช้ชีวิตทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นและประเทศชาติ

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

พระราโชวาทเรื่องการทำงาน พระราชทานแก่ข้าราชการและผู้นำ

สมเด็จพระพันปีหลวงทรงให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง พระองค์ทรงมอบพระราชดำรัสเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ข้าราชการยึดมั่นในหลักคุณธรรม และการทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง

พระราชดำรัสที่ทรงมอบให้แก่ข้าราชการไทยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นและความซื่อสัตย์สุจริต ได้แก่ 

ข้าราชการทุกคนควรทำหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยมีจิตใจที่มุ่งมั่นเพื่อส่วนรวม ไม่หวังผลตอบแทนส่วนตัว และต้องปฏิบัติตามหลักคุณธรรมอย่างเคร่งครัด

พระองค์ยังทรงส่งเสริมให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมมือกันสร้างสรรค์งานที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และทรงกำชับเจ้าหน้าที่ในโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในโครงการ "บ้านเล็กในป่าใหญ่" ทรงแนะให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนและความละเอียดรอบคอบ เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทรงยกย่องการทำงานอย่างพากเพียร

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

ความสำเร็จมิได้มาโดยง่าย หากแต่เป็นผลจากความพยายาม ความอดทน และการทำงานอย่างจริงใจ

นอกจากนี้ ทรงสอนให้ประชาชนทุกคนไม่ว่าอยู่ในสาขาใดก็ตาม ต้องทำงานอย่างเต็มที่ด้วยจิตใจที่ซื่อสัตย์สุจริต เพราะความใส่ใจในการทำงานจะนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของตนเองและสังคม และต้องมีความขยันและความรับผิดชอบ ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค

คนเราทุกคนที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ ควรหมั่นทำงานด้วยความขยันและความรับผิดชอบ เพื่อช่วยกันสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรือง อย่าประมาทและอย่าท้อถอยต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิต

สืบสานอาชีพและสร้างความมั่นคง: การเปลี่ยนผ่านสู่ช่างศิลป์ชั้นยอด

พระราชดำริและราโชวาทด้านการทำงานอย่างเสียสละและมุ่งมั่นของสมเด็จพระพันปีหลวง ได้นำไปสู่การก่อตั้งโครงการสำคัญที่สร้างอาชีพและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ 

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

1. มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ (ศิลปาชีพ)

ทรงริเริ่มโครงการศิลปาชีพเพื่อให้ราษฎรโดยเฉพาะชาวนาในท้องถิ่นชนบทใช้เวลาว่างจากการทำนาทำไร่มาทำอาชีพเสริม ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มรายได้ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปั้น การทอ การจักสาน โครงการนี้เริ่มก่อตั้งเป็นมูลนิธิฯ ในปี พ.ศ. 2519 และพัฒนาจนยกระดับเป็น "สถาบันสิริกิติ์" ในปี พ.ศ. 2553 แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จจากการฝึกฝนจนชาวนาชาวไร่กลายเป็นช่างศิลป์ชั้นยอด

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

2. ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ

ทรงสนับสนุนให้มีการจัดตั้งฟาร์มตัวอย่างเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรแบบครบวงจรและเป็นแหล่งจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตการณ์ต่างๆ  เพื่อให้ประชาชนที่ตกงานมีรายได้เลี้ยงครอบครัว

รำลึกพระราโชวาท สมเด็จพระพันปีหลวง ด้านการทำงาน มรดกธรรมราชินี

3. ความมั่นคงของชาติและการสร้างขวัญกำลังใจ

พระองค์ทรงห่วงใยความมั่นคงของชาติ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการเยี่ยมเยียนทหาร ตำรวจ และราษฎรอาสาสมัครตามฐานปฏิบัติการ แม้ในพื้นที่อันตราย และทรงจัดตั้ง มูลนิธิสายใจไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคงที่บาดเจ็บหรือพิการ ให้สามารถพัฒนาอาชีพและพึ่งพาตนเองได้

พระราชดำรัสและราโชวาทในด้านการทำงานเหล่านี้ เป็นการสั่งสอนให้คนไทยมีจิตใจที่มั่นคงในความดี ความขยันขันแข็ง และความรับผิดชอบอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้เกิดความผาสุกของส่วนรวมและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติอย่างยั่งยืน