iCreator เผยเทรนด์ใหม่ คนไทยดูคอนเทนต์ออนไลน์เป็นเพื่อนกินข้าว
แม้เศรษฐกิจจะท้าทาย แต่วงการครีเอเตอร์ไทยกลับเติบโตก้าวกระโดด ผู้เชี่ยวชาญชี้ Creator Economy ยังไม่ตาย เกิดเทรนด์ใหม่ คนไทยดูคอนเทนต์ออนไลน์เป็น "เพื่อนกินข้าว"
KEY
POINTS
- กูรูด้านวงการครีเอเตอร์ไทย เผย เทรนด์พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคชาวไทย ที่นิยมดูคอนเทนต์ออนไลน์เป็น "เพื่อนกินข้าว" (A Dining Companion)
- พฤติกรรมดังกล่าวคือการดูคลิปของครีเอเตอร์คนโปรดในช่วงเวลาส่วนตัว เช่น ขณะรับประทานอาหารคนเดียว เพื่อให้รู้สึกสนุกและไม่โดดเดี่ยว
- เทรนด์นี้สะท้อนว่าคอนเทนต์ที่สร้างความรู้สึกเป็นกันเองและสามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ ก็จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ส่งผลทำให้ช่องเติบโตและไปต่อได้ไกล
หากพูดถึงวงการครีเอเตอร์ไทย หลายคนอาจมองว่าตอนนี้มีคนสายงานนี้กันเกลื่อนไปหมด จนอาจถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าสายงานนี้เติบโตจริงไหม? หรือกำลังเข้าสู่ยุคครีเอเตอร์เฟ้อเกินไป! เรื่องนี้ ..ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า Creator Economy ในไทยยังไม่ตาย แต่จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับยุคที่โลกออนไลน์เปลี่ยนไว และคอนเทนต์ต้องตอบโจทย์การเป็น 'เพื่อนกินข้าว' ของผู้ชม
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสาระความรู้ที่จะมาเสิร์ฟในงาน iCreator Conference 2025 มหกรรมการรวมตัวของเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์ เอเจนซี เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งงานนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว
โดยหัวเรือใหญ่คือ RAiNMaker เจ้าเก่าเจ้าเดิม และปีนี้ได้ผนึกกำลัง Sony, Wisesight, Tellscore และจุฬาฯ ชวนครีเอเตอร์ไทยมาร่วมปลุกพลังกำหนดอนาคตวงการครีเอเตอร์ ปี 2026 ไปด้วยกัน ที่เน้นย้ำในประเด็น “Empower Thai Content Creators to the World” (ผลักดันครีเอเตอร์ไทยสู่เวทีระดับโลก) แต่ก่อนจะเปิดม่านอย่างเป็นทางการในอีกสองเดือนข้างหน้า วันนี้ กรุงเทพธุรกิจ ชวนมาเจาะอินไซต์วงการครีเอเตอร์ไทยล่าสุด ที่มีรายงานจาก iCreator Report 2025 พบว่า อุตสาหกรรมนี้เติบโตสวนกระแสแบบตัวเลขสองหลักต่อเนื่องทุกปี
Creator Economy ไทย เติบโตไม่หยุด แต่ต้องปรับตัวอยู่เสมอ
เอ็ม - ขจร เจียรนัยพานิชย์ บรรณาธิการบริหาร RAiNMaker ได้นำเสนอภาพรวมของโลกครีเอเตอร์ พร้อมเปิดตัว iCreator Report 2025 ซึ่งเป็นครีเอเตอร์รีพอร์ตเล่มแรกของประเทศไทย ไว้ว่า วงการ Creator Economy ในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมนี้เติบโตในระดับ Double Digit ทุกๆ ปี
ขณะที่ ปู - สุวิตา จรัญวงศ์ พันธมิตรจาก Tellscore เปิดเผยตัวเลขที่จัดเก็บไว้พบว่า วงการครีเอเตอร์ไทยมีการเติบโตที่ 15-20% Year on Year ติดต่อกันมาอย่างน้อย 3 ปี แม้เศรษฐกิจอื่นๆ กำลังเผชิญความท้าทาย แต่เม็ดเงินที่ใช้จ่ายในวงการนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเม็ดเงินเหล่านี้ยังหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ
แม้จะมีการพูดถึง "อวสารครีเอเตอร์" หรือคำถามว่าวงการนี้จะ "เฟ้อแล้วหรือยัง" แต่สำหรับ กล้า - ตั้งสุวรรณ ตัวแทนจาก Wisesight มองว่า อาชีพครีเอเตอร์จะยังคงอยู่ ตราบใดที่ทุกคนสามารถทำสื่อได้ เนื่องจากครีเอเตอร์ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสังคมในเรื่องที่แบรนด์โดยธรรมชาติไม่สามารถพูดได้เอง (เช่น การเปรียบเทียบสินค้าระหว่างแบรนด์) และช่วยอธิบายเรื่องยากๆ ให้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน การเติบโตของวงการครีเอเตอร์ ก็มาพร้อมกับการปรับตัวอย่างหนักในทุกภาคส่วน แบรนด์เริ่มมีภาพจำในการใช้ครีเอเตอร์ที่เปลี่ยนไป โดยมีการใช้ทั้ง Affiliate และเน้นการช่วย Conversion รวมถึงการใช้กลุ่มครีเอเตอร์ที่เป็นขนาดเล็กให้มีคุณค่ามากขึ้น
KPI ของแบรนด์ได้เปลี่ยนจากแค่ยอดวิว มาวัดผล Conversion Rate ซึ่ง Conversion Rate นี้ไม่จำเป็นต้องแปลว่ายอดขายเสมอไป แต่หมายถึง Digital Conversion รูปแบบต่างๆ เช่น การคลิก, การเก็บฐานข้อมูลลูกค้า (Lead Generation) หรือการลงทะเบียน ในฐานะเอเจนซี ปู - สุวิตา เสริมว่า ครีเอเตอร์ช่วยให้นักการตลาดตามเทรนด์และเครื่องมือใหม่ๆ (เช่น AI, Lemon8) ได้ทัน โดยการเป็นผู้ทดลองในสนาม
เทรนด์มาแรง คนไทยดูคอนเทนต์เป็นเพื่อนกินข้าว!
นอกจากนี้ กล้า - ตั้งสุวรรณ ยังได้เปิดเผยถึงเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ เทรนด์ดูคอนเทนต์ออนไลน์เป็นเพื่อนกินข้าว! สำหรับเทรนด์ดูรายการ คลิปสั้น คลิปยาว ในช่องทางออนไลน์เพื่อเป็นเพื่อนกินข้าว (A Dining Companion) นั้น หมายถึง พฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยจำนวนมาก ที่มักดูคอนเทนต์ของครีเอเตอร์คนโปรด เสมือนเป็น "เพื่อน" ในช่วงเวลาส่วนตัวต่างๆ เช่น ขณะกินข้าวคนเดียว หรือเข้าห้องน้ำ หรือช่วงว่างระหว่างพัก หรือรอคิว ฯลฯ ทั้งนี้ การทำคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยให้ผู้คนรู้สึกสนุกกับชีวิตและไม่โดดเดี่ยว
นอกจากนี้ ลักษณะของคอนเทนต์ที่ดี เพื่อที่จะทำให้ครีเอเตอร์อยู่ในวงการนี้ได้ยาวๆ ก็ต้องประกอบด้วยปัจจัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
1. ความรู้จริงและความน่าเชื่อถือ: ครีเอเตอร์ต้องเป็นคนที่ "รู้จริง" ในเรื่องที่นำเสนอ แม้ Generative AI จะสามารถปั้นเรื่องราวที่น่าสนใจได้ แต่หากขาดความรู้จริง ตลาดจะรับรู้ได้ว่าเป็นการหลอกลวง ซึ่งจะนำไปสู่วงการที่ไม่แข็งแรง
2. การเปลี่ยนรูปแบบคอนเทนต์อย่างรวดเร็ว: วงการนี้มีความเป็นพลวัต (Dynamic) สูงมาก เทรนด์คอนเทนต์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุกๆ 3 เดือน ดังนั้น คนที่จะประสบความสำเร็จคือผู้ที่เรียนรู้และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
3. ซีรีส์สั้นแบบ Netflix มาแรง ควรศึกษาไว้: คุณปูเสริมว่า มีอิทธิพลจาก Netflix ที่ทำให้เกิดเทรนด์ ซีรีส์สั้น (3-6 ตอน) โดยครีเอเตอร์บางรายทำซีรีส์เหล่านี้ให้เฉพาะสมาชิก (Member) ซึ่งสร้างรายได้ต่อคลิปสูงกว่าสปอนเซอร์ปกติมาก
ครีเอเตอร์อยาก Scale Up ตัวเองให่เก่งขึ้น ต้องทำยังไง?
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนข้างต้นได้ร่วมกันวิเคราะห์และให้คำแนะนำในประเด็นนี้ไว้ว่า การจะเป็นครีเอเตอร์ที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ในวงการได้นั้น อย่างแรกเลยคือ ต้องเน้น Audience มาก่อน ไม่ใช่มองเม็ดเงินมาก่อน เอ็ม เน้นย้ำว่า ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะโฟกัสที่ผู้ชม (Audience) เป็นหลัก ไม่ได้คิดถึงการทำเงิน (Make Money) หรือ "Next Game"
ขณะที่ ไอซ์ - ผศ.ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความเห็นว่า ในยุคที่คนดูเยอะและมีการนำเสนอคอนเทนต์มากมาย ครีเอเตอร์ต้องหาจุดขายให้คนจำได้ และต้องเป็น "ตัวจริง" หรือ "Expert" ในเรื่องนั้นๆ ทักษะพื้นฐานที่สุดคือ "การมีเรื่องเล่าที่ดีที่สุด"
นอกจากนี้ เหล่าครีเอเตอร์ก็จำเป็นต้องสร้างรายได้หลากหลาย (Diversify) เพราะครีเอเตอร์เอง ก็ย่อมต้องการให้การทำงานสายนี้เติบโตอย่างยั่งยืน เลี้ยงตัวเองได้มั่นคง ต้องมองว่าการทำคอนเทนต์ไม่ใช่แค่การอยู่หลังกล้อง แต่ต้องมี แหล่งรายได้หลายทาง (4-5 อย่าง) เช่น การขายสินค้าแบรนด์ของช่องตัวเอง, การปรากฏตัวกับแฟนๆ จัดอีเวนต์แฟนมีท, การเป็นวิทยากร, การมีสปอนเซอร์สินค้าสนับสนุนในรายการ, การทำคอนเทนต์ปักตะกร้าสินค้า ฯลฯ
อีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือ ครีเอเตอร์ควรมีงานประจำ ปัจจุบันพบว่าครีเอเตอร์ไทยกว่า 70-80% ยังคงทำงานประจำควบคู่กันไป ซึ่ง เอ็ม - ขจร มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะได้ประโยชน์จากทั้งสองด้าน
อนาคตครีเอเตอร์ไทย ยังต้องการการผลักดันจากทุกภาคส่วน
สำหรับตัวแทนจาก Tellscore และ Wisesight ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งสององค์กรยังคงอยากให้การสนับสนุน (ในแง่ข้อมูลในรายงาน) และทำวิจัย Foresight เพื่อมองภาพอนาคต 10 ปีข้างหน้าของวงการครีเอเตอร์ไทยต่อไป โดย ปู - สุวิตา ย้ำว่า ภาคเอกชนต้องผลักดันให้ครีเอเตอร์พร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ขณะที่ภาคการศึกษา อาจารย์ไอซ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มองว่า ภาคการศึกษาทำหน้าที่เป็น "ช่างเชื่อม" เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน และเชื่อมโยงไปสู่ระดับนโยบาย ทั้งนี้ ภาคการศึกษาพยายามผลักดันให้มีนโยบายจากภาครัฐ ที่สนับสนุนการเติบโตของ Creator Economy
ไม่ใช่ให้เข้ามากำกับหรือควบคุม แต่ต้องการให้ภาครัฐเห็นว่า Creator Economy คือเม็ดเงินของประเทศที่ควรมีการลงทุน (Seeding) อาจารย์ยังเน้นย้ำว่า iCreator Report 2025 เป็นโจทย์วิจัยจำนวนมากสำหรับนักวิชาการที่สามารถนำไปต่อยอด เพื่อทำวิจัยต่อหรือนำไปปรับในหลักสูตรการสอนต่างๆ เพื่อช่วยกันผลักดัน Creator Economy ในไทย
ท้ายที่สุด บรรณาธิการบริหาร RAiNMaker บอกว่า ข้อมูลในรายงาน iCreator Report 2025 นี้เป็นเสมือน "สมบัติของสาธารณะจริงๆ" และควรถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางเพื่อยกระดับวงการ รายงานนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ (ที่จะได้เห็นภาพรวมของครีเอเตอร์ที่กว้างขึ้น), ครีเอเตอร์ (เพื่อหาจุดยืนและโมเดลการเติบโตของตนเอง), และสื่อมวลชน (ที่สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดได้)
ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวจะถูกนำเสนออีกครั้งในงาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BHIRAJ HALL 1-3 & AMBER HALL 1-3) ทั้งนี้ ภายในงาน ได้รวบรวม Speakers ระดับท็อปกว่า 50 ท่าน และ 24+ Sessions พร้อม 9+ Workshops เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับทั้งความรู้ แนวคิด และแรงบันดาลใจ
โดยมี Speakers สำคัญ อาทิ เติ๊ด - ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี (เทพลีลา), เคน - นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ (THE STANDARD), สิงห์ - วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล (TUEN TRAVEL), เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ (KOENDANAI) และอื่น ๆ อีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่: eventpop