Gen Z ขอคำชมตลอดเวลา หัวหน้าชี้รุ่นนี้ดูแลยาก เครียดจนอยากลาออก

ชมหน่อยสิ! Gen Z ต้องการคำชมตลอดเวลา สะท้อนความต้องการการยอมรับในที่ทำงาน แม้ชมแล้วผลงานจะดีขึ้นจริง แต่ผู้จัดการ (18%) ชี้ คนรุ่นนี้บริหารยาก เครียดจนอยากลาออก
KEY
POINTS
- ผลสำรวจพบว่า หัวหน้างานส่วนใหญ่มองว่าพนักงาน Gen Z ต้องการคำชมเชยบ่อยครั้งเกินไป แม้จะเป็นการทำงานตามเกณฑ์พื้นฐาน หรือบางครั้งผลงานต่ำกว่าเป้าหมาย
- การต้องให้กำลังใจและคำชม Gen Z ตลอดเวลา สร้างความเครียดและความเหนื่อยล้าให้แก่หัวหน้างาน จนทำให้ผู้จัดการถึง 18% เคยคิดอยากลาออก
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สิ่งที่ Gen Z ต้องการแท้จริงไม่ใช่คำชมที่ว่างเปล่า แต่เป็นฟีดแบ็กที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในที่ทำงาน
โลกการทำงานยุคนี้เราได้เห็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z เข้าสู่ตลาดงานมากขึ้น แทบทุกออฟฟิศจะต้องมีน้องรุ่นนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมไม่มากก็น้อย ที่น่าสนใจคือ พวกเขามักมาพร้อมกับค่านิยมการทำงานใหม่ รูปแบบการทำงานใหม่ หรือการเรียกร้องบางอย่างที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อนๆ หนึ่งในนั้นคือ “การขอคำชม” จากหัวหน้าแทบจะตลอดเวลา
ยืนยันจากผลสำรวจของ Resume Templates ที่สอบถามผู้จัดการหรือหัวหน้างานชาวอเมริกัน จำนวน 1,050 คน ค้นพบว่า กลุ่มพนักงานคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาดูแลอยู่นั้น มักจะขอชมเรื่องงานบ่อยๆ เกินไป โดย 76% ของผู้จัดการที่ดูแลพนักงาน Gen Z เชื่อว่า คนรุ่นนี้ต้องการการยอมรับมากกว่าคนรุ่นก่อน
ขณะที่ หัวหน้างาน 71% เห็นว่า พนักงานคนรุ่นใหม่คาดหวังคำชมแม้ทำงานเพียงตามเกณฑ์พื้นฐาน และ 58% บอกว่าวัยทำงาน Gen Z ยังอยากได้คำชมแม้ผลลัพธ์ต่ำกว่าเป้าหมายก็ตาม
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่า Gen Z “ชอบเรียกร้อง” แต่ในอีกมุมหนึ่ง การต้องการบรรยากาศเชิงบวกอาจเป็นเรื่องดี เพราะ 6 ใน 10 ผู้จัดการยอมรับว่าผลงานของ Gen Z ดีขึ้นทันตาเมื่อได้รับการยืนยันและคำชม
เมื่อ “คำชม” กลายเป็นภาระที่ทำให้หัวหน้าเครียด-เหนื่อยล้า
แม้คำชมจะช่วยเสริมพลัง แต่การต้อง “ให้กำลังใจ” ตลอดเวลาของ Gen Z ก็ทำให้การบริหารคนรุ่นนี้ไม่ง่ายนัก หัวหน้าหลายคนยอมรับว่า มันไม่เพียงเหนื่อยแต่ยัง “ดูไม่จริงใจ” ในบางครั้ง ผลสำรวจยังพบว่า 38% ของผู้จัดการเคยเจอพนักงาน Gen Z ลาป่วยในวันถัดมาหลังได้รับฟีดแบ็กด้านลบ และ 27% เคยเจอพนักงานลาออกเพราะไม่พอใจกับการประเมิน
นั่นทำให้หัวหน้างานบางคนรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่มีทางเลือก” จนทำให้ 18% ของหัวหน้าทีมบอกตรงๆ ว่า เคยคิดลาออกเพราะความเครียดในการบริหาร Gen Z โดยเฉพาะ
ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งผลสำรวจของ Intelligent.com ที่ได้ทำการสอบถามกับผู้จัดการ 1,000 คนที่ดูแล Gen Z สะท้อนภาพที่ชัดเจนในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ
- หัวหน้างาน 2 ใน 3 เลือกเปลี่ยนสไตล์การทำงานเพื่อให้เข้ากับ Gen Z
- หัวหน้างาน 75% บอกว่าพนักงานรุ่นนี้ใช้เวลาหรือทรัพยากรมากกว่าคนรุ่นอื่น
- หัวหน้างาน 50% ยอมรับว่ามีความตึงเครียดระหว่างวัยในที่ทำงานที่มาจาก Gen Z
- 27% บอกว่าถ้ามีทางเลือกจะหลีกเลี่ยงการจ้าง Gen Z และครึ่งหนึ่งในนั้น เคยไล่พนักงาน Gen Z ออกไปแล้ว
ไม่แปลกที่ 7 ใน 10 ผู้จัดการบอกว่า การบริหาร Gen Z เหมือนกับการ “เลี้ยงเด็ก” แต่ถ้ามองเพียงด้านนี้ด้านเดียว ก็อาจทำให้ละเลยความจริงอีกมุมว่า Gen Z ไม่ได้ต้องการคำชมเพียงอย่างเดียว
ผู้เชี่ยวชาญเผย “Gen Z ต้องการมากกว่าคำชม” ไม่ใช่ให้แกล้งชมไปวันๆ
สตีฟ มอร์ริส (Steve Morris) ซีอีโอ NewMedia.com ยืนยันว่า สิ่งที่ Gen Z ต้องการไม่ใช่การสรรเสริญพร่ำเพรื่อ แต่เป็น “ฟีดแบ็ก” ที่ช่วยให้พัฒนางานได้จริง เพราะพวกเขาอยากเรียนรู้และเติบโต
เคซีย์ ฮัลโลแรน (Casey Halloran) ซีอีโอ Costa Rican Vacations มองว่า สถิติที่ออกมาว่า Gen Z ต้องการคำชมตลอดเวลา อาจแค่สะท้อนว่าพวกเขาต้องการฟีดแบ็กที่รวดเร็วและตรงไปตรงมา เนื่องจากเติบโตมาในโลกของข้อมูลแบบเรียลไทม์ จึงไม่ทนรอการประเมินที่นานหลายเดือน และเมื่อได้รับคำแนะนำที่สุภาพในทันที พวกเขามักจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
เจนนา โรเจอร์ส (Jenna Rogers) ผู้ก่อตั้ง Career Civility เสริมว่า สิ่งที่ Gen Z มองหาคือ การเชื่อมโยง การมีพี่เลี้ยง และการสนับสนุน ซึ่งลึกซึ้งกว่าการชมเชยผลงาน
การสื่อสารที่สร้างแรงบันดาลใจ อาจคือกุญแจสำคัญในการทำงานร่วมกัน
มุมมองเหล่านี้สอดคล้องกับงานเขียนของ เดวิด เยเกอร์ (David Yeager, PhD.) ในนิตยสาร Wall Street Journal ที่บอกว่า ผู้ใหญ่รุ่นก่อนมักมอง Gen Z ในเชิงลบว่า ขาดความรับผิดชอบ อ่อนไหว หรือเรียกร้องเกินไป แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่จำเป็นคือ วิธีสื่อสารที่สร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen Z จะเป็นกำลังสำคัญของตลาดแรงงานในอนาคต คาดว่าภายในปี 2030 พวกเขาจะคิดเป็นราว 30% ของแรงงานสหรัฐฯ ดังนั้นแทนที่จะมองว่าพวกเขาเป็นปัญหา ผู้จัดการและองค์กร ควรหาวิธีสื่อสารและสร้างบรรยากาศการทำงานที่เชื่อมโยงอย่างจริงใจ
ท้ายที่สุดแล้ว Gen Z อาจถูกตีความผิดไปว่า “ต้องการคำชมตลอดเวลา” แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่พวกเขามองหาคือการมีส่วนร่วม การยอมรับที่จริงใจ และคำแนะนำที่ชัดเจน หากองค์กรสามารถสร้างวัฒนธรรมฟีดแบ็กเชิงบวกอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงช่วยให้ Gen Z ทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังสร้างความร่วมมือระหว่างเจนเนอเรชัน และอาจทำให้ที่ทำงานในอนาคตสดใสกว่าที่คิด
อ้างอิง: Forbes, ResumeTemplates, Intelligent







