สนามกอล์ฟ คือออฟฟิศของคนรุ่นใหม่ คุยงาน สร้างเครือข่ายทีมเวิร์ก

สนามกอล์ฟ คือออฟฟิศของคนรุ่นใหม่ คุยงาน สร้างเครือข่ายทีมเวิร์ก

คนรุ่นใหม่ใช้สนามกอล์ฟเป็นออฟฟิศ ตีความกีฬากอล์ฟใหม่ ไม่ใช่กีฬาคนแก่อีกต่อไป แต่เป็นพื้นที่สร้างเครือข่าย Gen Z คุยประชุมงาน ไม่เน้นตีแม่น เน้นสนุกกับเพื่อนร่วมงาน

KEY

POINTS

  • Gen Z กำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์ของกีฬากอล์ฟให้กลายเป็นพื้นที่คุยงาน ประชุม สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเสริมสร้างทีมเวิร์ก
  • คนรุ่นใหม่ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่นและรวดเร็วขึ้น เช่น การเล่นรอบสั้นๆ หรือการเล่นในสถานบันเทิงที่ผสมผสานกีฬากับความสนุกสนาน
  • กอล์ฟถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์ และทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนร่วมงาน นอกเหนือจากในออฟฟิศ
  • กระแสนี้ทำให้กีฬากอล์ฟมีความเปิดกว้างและเข้าถึงง่ายขึ้น โดยมีกลุ่มผู้เล่นใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งเทรนด์การทำงานที่พบได้บ่อยมากขึ้น ในกลุ่มวัยทำงานคนรุ่นใหม่ก็คือการนำกิจกรรม เกม หรือกีฬาต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน เกิดค่านิยมใหม่ๆ ที่ว่า การทำงาน-การประชุมงาน ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมของออฟฟิศเสมอไป แต่สามารถเกิดขึ้นบนสนามหญ้าได้เช่นกัน ..เรากำลังพูดถึง กีฬากอล์ฟ ที่ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่หันมาเล่นกันมากขึ้น ในแง่ของการใช้เป็นกิจกรรมสร้างทีมให้แข็งแรง

ที่ผ่านมากอล์ฟเคยถูกมองว่าเป็นกีฬาของชนชั้นสูง เน้นการแข่งขันและความเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะกลุ่ม แต่ในวันนี้ภาพลักษณ์เหล่านั้นกำลังเปลี่ยนไป ค่านิยมเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟถูกกำหนดขึ้นใหม่โดยคนรุ่น Gen Z ที่มองว่า กอล์ฟไม่ใช่แค่การตีลูกลงหลุม แต่คือ “พื้นที่แห่งการเชื่อมโยง” ทั้งในมิติของการสร้างมิตรภาพ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ไปจนถึงการเรียนรู้เรื่องภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม

ไมค์ เบอร์แลนด์ (Mike Berland) ผู้เขียนหนังสือ Not About Golf: The Life Changing Joy of Playing The Game และที่ปรึกษาด้านการสื่อสารที่เคยทำงานใกล้ชิดกับนักการเมืองระดับโลกอย่าง ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) และไมค์ บลูมเบิร์ก (Mike Bloomberg) อธิบายว่า “การเล่นกอล์ฟมีเสน่ห์อย่างหนึ่ง พอคุณเดินถึงหลุมที่ 14 คุณแทบจะมองทะลุไปถึงจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้ เห็นเลยว่าเขาเป็นคนแบบไหน เพราะในสนามกอล์ฟไม่มีพื้นที่ให้ใครแสดงภาพลักษณ์ปลอมๆ”

จากกีฬาเอกสิทธิ์ สู่เวทีทรงพลัง เปิดโอกาสให้คนรู้จักกันมากขึ้น

ค่านิยมใหม่นี้กำลังสะท้อนถึงวิธีคิดขององค์กรรุ่นใหม่ ที่หันมาใช้กอล์ฟเป็นเครื่องมือในการสร้างทีม (team building) และการพัฒนาผู้นำ มากกว่าที่จะเป็นเพียงกิจกรรมพักผ่อนของผู้บริหารเหมือนในอดีต

สถิติยังยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดเจน ระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่ามีผู้หญิงมากถึง 800,000 คน ที่เริ่มเล่นกอล์ฟเป็นครั้งแรก ขณะเดียวกัน ผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ก็หลั่งไหลเข้าสู่สนามกอล์ฟอย่างไม่เคยมีมาก่อน และไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันยังมีคนกว่า 17 ล้านคนที่เลือกเล่นกอล์ฟผ่าน “ซิมูเลเตอร์” ซึ่งกระจายอยู่ตั้งแต่บาร์สุดชิค คาเฟ่ ไปจนถึงร้านตัดผม

สิ่งที่คนเหล่านี้ค้นพบคือ กอล์ฟไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือ “เวทีทรงพลัง” ที่เปิดโอกาสให้คนได้รู้จักกันมากขึ้นในแบบที่กิจกรรมอื่นๆ ทำไม่ได้

ตีกอล์ฟในแบบ Gen Z สนุก เร็ว และเป็นกันเอง

กติกาแบบดั้งเดิมของกีฬากอล์ฟ คือ ผู้เล่นต้องออกรอบเต็ม 18 หลุม แต่นั่นอาจไม่สอดคล้องกับชีวิตที่เร่งรีบและยืดหยุ่นของคนรุ่นใหม่อีกแล้ว พวกเขาจึงดัดแปลงการเล่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ เช่น ออกรอบสั้นๆ แค่ 9 หลุม หรือเลือกไปเล่นกอล์ฟตามสถานบันเทิงแนว Topgolf ที่ผสมผสานกีฬาเข้ากับดนตรี อาหาร และเครื่องดื่ม ไปจนถึง "ไนท์กอล์ฟ" (Night Golf) ที่ใช้ลูกกอล์ฟเรืองแสง LED สร้างบรรยากาศสนุกๆ ในอีกรูปแบบหนึ่ง

สื่อ Essential Golf เคยรายงานว่า “สำหรับคนรุ่นใหม่ การเล่นกอล์ฟไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างการเล่นแบบเข้มงวด แต่มันสามารถเป็นกิจกรรมที่เล่นแบบสบายๆ ใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ยังคงให้ความสุขจากการตีช็อตสวยๆ ได้เหมือนเดิม”

ในอีกแง่หนึ่ง กอล์ฟยังถูกมองว่าเป็น “ห้องทดลองทางบุคลิกภาพ” ที่ทำให้เราเห็นว่าคนๆ หนึ่งรับมือกับความกดดัน และความผิดพลาดได้อย่างไร

เบอร์แลนด์อธิบายว่า “กอล์ฟไม่ใช่การแข่งกับคนอื่น แต่คือการแข่งกับตัวเอง คุณต้องจดคะแนนเอง ต้องยอมรับการผิดกติกาด้วยตัวเอง ความซื่อสัตย์จึงเป็นหัวใจสำคัญของกีฬา และมันคือบทเรียนชีวิตที่ลึกซึ้ง

ไมค์ ดอยล์ (Mike Doyle) ผู้ร่วมก่อตั้ง Five Iron Golf ก็เสริมว่า “เวลาคุณยืนบนแท่นแล้วตีลูก ทุกสายตากำลังมองคุณอยู่ คำถามคือ คนรอบข้างจะตัดสินคุณ หรือจะช่วยให้คุณพัฒนา? การเผชิญหน้ากันตรงนี้แหละ ที่ทำให้คุณเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น

วัยทำงานหญิงรุ่นใหม่ กลุ่มผู้เล่นกอล์ฟที่โตเร็วที่สุด

อีกหนึ่งแรงผลักสำคัญของกระแสกอล์ฟยุคใหม่คือผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงรุ่นใหม่ที่เข้ามาเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น จนกลายเป็นกลุ่มผู้เล่นที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบหลายปี

เบอร์แลนด์ย้ำว่า “นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในวงการกอล์ฟ กลุ่มที่ขยายตัวเร็วที่สุดคือผู้หญิงรุ่นใหม่ พวกเธอสร้างเส้นทางและวิธีการเล่นกอล์ฟใหม่ๆ ให้กับกีฬา และทำให้ภาพลักษณ์ความเป็นกีฬาของชนชั้นสูงค่อยๆ เลือนหายไป”

สิ่งนี้ยังช่วยลด “แรงกดดัน” ที่เคยทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าร่วมกิจกรรมกอล์ฟของบริษัท เพราะในอดีตจะมีเพียงนักกอล์ฟฝีมือดีเท่านั้นที่เข้าร่วมได้ แต่ทุกวันนี้บริษัทต่างๆ เปิดกว้างมากขึ้น แม้แต่ผู้เริ่มต้นมื่อใหม่ ก็สามารถเข้าร่วมผ่านโปรแกรมฝึกหัดได้ ทุกคนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีม

หนึ่งในเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของกอล์ฟคือการบังคับให้ผู้เล่น “อยู่กับปัจจุบัน” เบอร์แลนด์เรียกสิ่งนี้ว่า “การเชื่อมโยงมนุษย์แบบบังคับ” เพราะคุณต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกันนานหลายชั่วโมง โดยไม่มีโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดียเข้ามาแทรก “คุณจะได้เห็นตัวตนของอีกฝ่ายจริงๆ ว่าเขาเป็นคนแบบไหน อะไรที่ขับเคลื่อนเขา” เบอร์แลนด์กล่าว และสิ่งเหล่านี้ยังถ่ายทอดไปสู่การทำงานได้โดยตรง

สนามกอล์ฟ คือ เวทีสร้างเครือข่าย-ความสัมพันธ์ ในการทำงาน

ไม่เพียงเท่านั้น การเล่นกอล์ฟยังสอนเรื่องสมาธิและการยืดหยุ่นทางจิตใจ ถ้าคุณปล่อยให้ความคิดอื่นเข้ามารบกวน คุณจะไม่มีวันสนุกกับเกมได้ ดังนั้นสิ่งที่ผู้เล่นเรียนรู้คือ การอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ปล่อยวางสิ่งอื่น และสลัดความคิดรบกวนออกไป

เหนือสิ่งอื่นใด กอล์ฟยังเป็นเวทีเครือข่ายทางสังคมที่ทรงพลัง ผู้เล่นไม่ได้สนใจว่าคุณจะตีได้กี่แต้ม แต่สนใจว่าคุณเป็นคนที่เขาอยากใช้เวลาร่วมด้วยหรือไม่

นักกอล์ฟส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าคุณจะตีได้ 80 หรือ 120 แต้ม สิ่งที่พวกเขาสนใจคือ คุณเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสนุกไหม คุณทำให้วันนั้นของเขาดีขึ้นไหม ถ้าคำตอบคือใช่ นั่นก็ถือเป็นรอบกอล์ฟที่ประสบความสำเร็จแล้ว” เบอร์แลนด์ย้ำ

ท้ายที่สุดอาจพูดได้ว่า กอล์ฟ คือคำตอบใหม่ในการสร้างเครือข่ายขององค์กร เนื่องด้วยทุกวันนี้ หลายบริษัทพยายามหาวิธีเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน โดยเฉพาะคนรุ่น Gen Z ที่ต้องการกิจกรรมที่เชื่อมโยงจริง ไม่ใช่แค่เวิร์กชอปแบบเดิมๆ ดังนั้น กี่ฬากอล์ฟอาจเป็นคำตอบที่คาดไม่ถึง และอย่างที่เบอร์แลนด์สรุปไว้ได้อย่างน่าคิดว่า

“วันที่เลวร้ายที่สุดของการเล่นกอล์ฟกับเพื่อนๆ ก็ยังเป็นหนึ่งในวันที่ดีที่สุดของชีวิตผมเสมอ” 

 

 

อ้างอิง: WorkLifeNews, Not about GolfEssential Golf