ซีอีโอไม่รับเด็กจบใหม่ หันพึ่ง AI แทน โค้ชด้านอาชีพแนะวิธีรับมือ

โค้ชอาชีพที่ปรึกษาบริษัทระดับ Fortune 500 เผย ซีอีโอไม่จ้างงานเด็กจบใหม่? Gen Z กำลังถูก AI คุกคาม ต้องเตรียมรับมือ แนะวิธีปรับตัวให้อยู่รอดในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป
KEY
POINTS
- ซีอีโอบริษัทใหญ่ชะลอการจ้างงานเด็กจบใหม่ เนื่องจาก AI สามารถทำงานในระดับเริ่มต้นแทนที่ได้แล้ว
- นายจ้างยุคใหม่ต้องการ "นักแก้ปัญหา" และผู้ที่สามารถทำงานให้สำเร็จได้จริง ไม่ใช่แค่การจ้างเพื่อเติมตำแหน่งงานเดิม
- โค้ชอาชีพแนะนำให้ Gen Z ต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะการใช้ AI ให้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความโดดเด่นและเพิ่มโอกาสในการได้งาน
- ผู้ที่จะตกงานในอนาคตไม่ใช่เพราะ AI แต่จะถูกแทนที่โดยคนที่ใช้ AI เป็น ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับคนที่ปรับตัวได้
โค้ชอาชีพที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำในลิสต์ Fortune 500 ออกโรงเตือนว่า ซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก กำลังชะลอการจ้างงาน "พนักงานที่ไม่มีประสบการณ์" หรือเด็กจบใหม่ (First Jobber) เนื่องจาก AI เข้ามาปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงาน และทำงานในส่วนที่เคยเป็นของพนักงานระดับเริ่มต้นแทน
บัณฑิตจบใหม่ Gen Z ที่สามารถวางตำแหน่งตัวเองให้เป็น "นักแก้ปัญหา" และเป็นผู้ที่ "เข้าใจและใช้ AI ได้อย่างเชี่ยวชาญ" จะโดดเด่นและมีโอกาสคว้างานในตลาดแรงงานยุคปัญญาประดิษฐ์ครองเมือง
ผู้นำด้านเทคโนโลยีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แซม อัลท์แมน (Sam Altman) จาก OpenAI หรือ ดาริโอ อโมเดอี (Dario Amodei) จาก Anthropic ต่างส่งสัญญาณเตือนอย่างต่อเนื่องว่า AI อาจจะเข้ามาแทนที่งานหลายอาชีพภายใน 5 ปีข้างหน้า และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกคือ พนักงานระดับเริ่มต้น
เรื่องนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่ปลดพนักงานไปแล้วกว่า 82,000 คน แต่ยังขยายวงกว้างไปสู่สายงานอื่นๆ อีกมากมายด้วย
หลายสายงานจะไม่ถูกจ้างงานอีกต่อไป เพราะ AI มาแทนที่
บิล ฮูกเทิร์ป (Bill Hoogterp) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารระดับสูงมานานหลายสิบปี และมักได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมในห้องบอร์ดรูม ยืนยันสิ่งที่พนักงานหลายคนกำลังสงสัย
"มีงานหลายตำแหน่งถูกระงับการจ้างงานอย่างแน่นอน" เขาให้สัมภาษณ์กับ Fortune พร้อมเสริมว่า แม้จะไม่ถึงขั้นหายนะในตลาดแรงงาน แต่ AI กำลังทำให้ผู้บริหารตั้งคำถามถึงคุณค่าของพนักงานใหม่โดยเฉพาะ
"พวกเขาพูดว่า 'เราจะไม่จ้างทนายความจบใหม่ หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก' นั่นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ทีมต่างๆ ภายในบริษัทยังคงมีการจ้างงานอยู่" เขากล่าว
ถึงอย่างนั้น การจ้างงานแบบ "เข้าหนึ่งออกหนึ่ง" ก็ไม่ใช่เรื่องปกติอีกต่อไปแล้ว ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และแรงกดดันในการลดต้นทุน ทำให้การพิจารณาจ้างพนักงานใหม่มีความเข้มงวดมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
"พวกเขาต้องการคนที่สามารถ แก้ปัญหา ได้ พวกเขาไม่ได้สร้างงานเพื่อจ้างงานให้ทีมมีคนครบๆ ไป พวกเขาต้องการใครสักคนมาช่วยทำงานให้สำเร็จ และคุณต้องเป็นคนที่ทำงานนั้นให้ได้" ที่ปรึกษาย้ำว่า นั่นแหละ อาจเป็นโอกาสสำหรับบัณฑิตจบใหม่ Gen Z ที่ยังเคว้งคว้างอยู่
เด็กจบใหม่ ควรตั้งคำถามกับตัวเองว่า 'โลกต้องการอะไร?'
ปัจจุบันมีคน Gen Z กว่า 4 ล้านคนที่ไม่ทำงาน ไม่ศึกษาต่อ และไม่เข้ารับการฝึกอบรม (NEETs) การหางานจะยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนายจ้างรู้ว่า กว่าจะฝึกพนักงานใหม่จนทำงานได้ AI ก็อาจสร้างโค้ด, เขียนคอนเทนต์, หรือวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ งานระดับเริ่มต้นที่เคยพบบ่อย เช่น งานเขียนโค้ด ก็กำลังหายไป สถานการณ์ยิ่งน่ากังวลสำหรับคนที่ใช้เวลาหลายปีเรียนในมหาวิทยาลัย แต่กลับพบว่างานที่ฝึกฝนมาถูกหุ่นยนต์ทำแทนที่ได้เร็วกว่า และทำได้ในราคาค่าจ้างที่ถูกกว่าด้วย
ฮูกเทิร์ป บอกว่านี่คือเหตุผลที่บัณฑิต Gen Z ต้องถามตัวเองว่า "คุณเก่งอะไร? ตลาดงานต้องการอะไร? ลองมองหาจุดที่ทักษะของคุณกับความต้องการของตลาดงานมาบรรจบกัน นั่นคือ 'โซนอาชีพที่คุณควรจะมุ่งไป"
แทนที่จะสมัครงานที่ตรงกับวุฒิการศึกษาเพียงอย่างเดียว ให้ลองมองภาพรวมของทักษะและคุณสมบัติของคุณ แล้วดูว่ามีช่องว่างในตลาดที่คุณสามารถเติมเต็มได้หรือไม่
Gen Z ที่ปรับตัว ใช้ AI เป็น และสอนวิธีใช้งานได้ จะไม่ตกงาน!
ที่ปรึกษาด้านอาชีพ ยืนยันว่า AI จะสร้างบทบาทใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างแน่นอน เหมือนกับที่นักเขียนใช้แล็ปท็อปแทนเครื่องพิมพ์ดีด ดีไซเนอร์ใช้ Adobe Photoshop แทนปากกาและกระดาษ และงานด้าน IT อีกมากมายที่เกิดขึ้นตามมา แต่เขาเน้นว่านายจ้างจะไม่จ้างงานในเงื่อนไขเหมือนเดิมอีกต่อไป งานใหม่ๆ ตำแหน่งใหม่ๆ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ มันสร้างมูลค่าได้อย่างแท้จริงเท่านั้น
"คุณทำงาน พวกเขาจ่ายเงินให้ นั่นคือข้อตกลง ดังนั้น ให้ดูว่าพวกเขาต้องการอะไร เพราะถ้างานเหล่านั้นไม่มีแล้ว มันก็อาจมีงานอื่น ๆ แทน" เขากล่าวเสริม
มาร์ค คิวบัน (Mark Cuban) มหาเศรษฐีชื่อดังก็ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า โอกาสกำลังเติบโตสำหรับคน Gen Z ที่ปรับตัวเข้ากับ AI และสอนวิธีใช้เครื่องมืออย่าง OpenAI ให้กับเจ้านายยุคเบบี้บูมเมอร์ "นั่นคือทุกๆ งานที่จะเปิดรับสำหรับเด็กที่กำลังจะจบจากมหาวิทยาลัย" เขายืนยัน
แม้ความกลัวว่า AI จะมาแย่งงานยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ก็เห็นด้วยว่า AI จะส่งผลกระทบน้อยที่สุดกับคนที่ใช้ AI ในชีวิตประจำวัน
"ทุกสายงานจะได้รับผลกระทบในทันที เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย คุณจะไม่ได้ตกงานเพราะ AI แต่ คุณจะตกงานเพราะคนที่ใช้ AI เป็น" ซีอีโอ Nvidia ย้ำทิ้งท้าย
อ้างอิง: Fortune, HRgrapevine







