แชร์วิธีแก่แบบมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่อายุยืน ร่างกาย-สมอง ต้องดีด้วย

แชร์วิธีแก่แบบมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่อายุยืน ร่างกาย-สมอง ต้องดีด้วย

ไม่ใช่แค่การมีชีวิตยืนยาว แพทย์วัย 58 ปี ชี้ Longevity คือการแก่ไปพร้อมกับสุขภาพแข็งแรงและสมองปลอดโปร่ง พร้อมแชร์วิธีเลือกอาหารดี ออกกำลังกายดี ความสัมพันธ์ดี

KEY

POINTS

  • ดร.วอนดา ไรท์ ศัลยแพทย์วัย 58 ปี แชร์แนวคิดการสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ที่ไม่ใช่แค่การมีอายุยืนยาว แต่คือการแก่ไปอย่างแข็งแรงและมีพลัง
  • เคล็ดลับด้านร่างกายคือการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ (ยกน้ำหนัก) ควบคู่กับการกินโปรตีนให้เพียงพอ รับประทานอาหารคลีน เน้นผักใบเขียว และหลีกเลี่ยงน้ำตาล
  • ให้ความสำคัญกับการมีวินัยในการนอนหลับอย่างเคร่งครัด และแนะนำให้สตรีวัยหมดประจำเดือนพิจารณาการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนเพื่อสุขภาพสมอง
  • การมีสุขภาพทางสังคมที่ดี ผ่านความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อนและครอบครัว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการมีอายุยืนอย่างมีความสุข

ทุกวันนี้ผู้หญิงมีโอกาสอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย แต่คำถามสำคัญคือ ช่วงชีวิตบั้นปลายที่ยืนยาวนั้น เต็มไปด้วยความสุขหรือความเจ็บปวดจากโรคภัยต่างๆ ? สำหรับ ดร.วอนดา ไรท์ (Vonda Wright) ศัลยแพทย์กระดูกและเวชศาสตร์การกีฬา วัย 58 ปี คำตอบชัดเจนว่า เธออยากให้ผู้หญิงทุกคนแก่อย่างแข็งแรง ไม่ใช่แก่ไปพร้อมความทุกข์ทรมาน

เธอเล่าว่าตลอดสองทศวรรษที่ทำงานวิจัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก เป้าหมายของเธอไม่ใช่เพียงการรักษาคนไข้ แต่คือการล้มล้างความเชื่อดั้งเดิมที่ว่า “การแก่คือการเสื่อมถอยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” 

เธอศึกษาแม้กระทั่งกลุ่มผู้สูงวัยที่ยังลงแข่งใน National Senior Games งานแข่งขันกีฬาสำหรับนักกีฬาวัย 50 ปีขึ้นไป เพื่อพิสูจน์ว่าความแก่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงความอ่อนแอเสมอไป “ฉันตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2000 ว่า จะเปลี่ยนวิธีที่ประเทศนี้แก่ไปให้ได้” เธอย้ำ

ปัจจุบันเธอยังคงทำงานเป็นแพทย์ พร้อมก่อตั้งองค์กร Precision Longevity ที่เผยแพร่แนวคิดการดูแลสุขภาพในระยะยาว และออกหนังสือชื่อ Unbreakable ที่ว่าด้วยการดูแลร่างกายผู้หญิงให้แข็งแรงเมื่อเข้าสู่วัยชรา ที่น่าสนใจคือ ทุกสิ่งที่เธอแนะนำคนไข้ ล้วนเป็นสิ่งที่เธอทำในชีวิตประจำวันด้วยตัวเอง

เปิดเคล็ดลับ 'อายุยืนยาว' ฉบับศัลยแพทย์กระดูก

ชีวิตประจำวันของเธอเริ่มจากการใส่ใจกับร่างกายอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องการกิน โภชนาการ การนอนที่ดี การออกกำลังกาย การดูแลฮอร์โมน และการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี

1. เคล็ดลับออกกำลังกาย เน้นสร้างกล้ามเนื้อ

เธอตั้งเป้า "กินโปรตีนให้ได้วันละ 130 กรัม" เพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่เพียงพอ ไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายเดินอย่างน้อย 45 นาทีสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง สลับกับการวิ่งสั้นและการยกน้ำหนัก แบบหนักๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง เธอย้ำว่าไม่ได้สนใจจะทำให้ร่างกาย “ผอมบาง” แต่ต้องการให้ ร่างกายแข็งแรงแบบ lean ซึ่งเป็นหัวใจของสุขภาพที่ดี

นอกจากนั้น เธอยังใส่กิจกรรม “กระโดด” ไว้ในตารางประจำวัน ทั้งการกระโดดเชือก และเล่น hopscotch เพราะเชื่อว่าการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง ช่วยให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น ไม่ใช่แค่การกระโดดขึ้นลงซ้ำ ๆ เท่านั้น

2. กินอาหารคลีน เน้นผักใบเขียว งดน้ำตาล

ด้านโภชนาการ เธอยึดหลักการกินอาหารสะอาด เน้นผักใบเขียวทุกวันแม้กระทั่งมื้อเช้า และไม่พลาดที่จะกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์นม เพื่อให้ครบเป้าหมายโปรตีนในแต่ละวัน เธอหลีกเลี่ยงน้ำตาลเกือบทั้งหมด แต่บางครั้งก็ยอมรับว่ากินไอศกรีมแค่ไม่กี่คำกับลูกวัย 17 ปีเท่านั้น

หากกินน้ำตาลมากไป เธอรู้สึกได้ทันทีว่าน้ำตาลทำให้ร่างกายอักเสบและสมองไม่ปลอดโปร่ง เธอเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเกือบทั้งหมด ยกเว้นซาวโดว์ที่เธอทำเองทุกสองสัปดาห์ เพราะมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าและดีต่อสุขภาพ

3. สร้างวินัยการนอนดี เข้านอนสามทุ่มครึ่ง ตื่นตี 5

ในด้านสุขภาพสมอง ดร.ไรท์ มีวินัยกับการนอนอย่างมาก ทุกคืนเธอเข้านอนเวลา 21.30 น. และตื่นตี 5 อย่างไม่เคยเปลี่ยน ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด เธอยังฝึกให้สมองตื่นตัวด้วยการอ่านหนังสือและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

4. สตรีสูงวัย ควรได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือก ทดแทนฮอร์โมนเอสโตรเจน หลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เธอบอกว่าหากขาดฮอร์โมนนี้ สมองจะเหมือนถูกตัดพลังงาน และตัวเธอเองเคยเจออาการสมองไม่แล่นในวัย 47 ปี จนตัดสินใจรักษาด้วยฮอร์โมน และหลังจากนั้นก็พบว่าช่วยได้จริง

5. สุขภาพทางสังคม ส่วนสำคัญการมีอายุยืนยาว

เธอยังให้ความสำคัญกับ “สุขภาพทางสังคม” เพราะการมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของการมีอายุยืน เธอมีกลุ่มเพื่อนสนิท 5 คน ซึ่งล้วนเป็นแพทย์ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือนเหมือนกัน และพูดคุยกันทุกวันผ่านแชท รวมถึงครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งลูก 6 คน หลาน 3 คน และคุณตาคุณยายสูงวัยที่เธอยังคงติดต่อสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด

ความแก่ไม่ควรถูกมองเป็น 'จุดจบ' ของสุขภาพ

เมื่อถึงเวลาพักผ่อน เธอเลือกอ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิง เช่น Estrogen Matters หรือหนังสือใหม่ๆ เกี่ยวกับวัยหมดประจำเดือน และบางครั้งก็หยิบนิยายวิทยาศาสตร์ชุด Red Rising มาอ่านเพื่อหลบหนีจากโลกแห่งความจริงชั่วคราว

เคล็ดลับทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดที่ ดร.ไรท์ ยึดมั่นมาตลอดว่า ความแก่ไม่ควรถูกมองว่าเป็นจุดจบของสุขภาพ แต่คือช่วงเวลาที่เรายังสามารถควบคุมคุณภาพชีวิตของตัวเองได้ หากดูแลทั้งร่างกาย สมอง ความสัมพันธ์ และอาหารอย่างจริงจัง

สำหรับเธอแล้ว อายุที่ยืนยาวไม่ใช่เพียงการมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่คือการ “แก่แบบมีพลัง” และยังคงสนุกกับโลกได้ในทุกวันของชีวิต

 

อ้างอิง: CNBC Make itDr.Vondawright