เวียดนามครองแชมป์ค่าครองชีพถูกที่สุด ของ Expat ต่างชาติ ปี 2025

รายงาน Expat Insider 2025 เผย เวียดนาม แชมป์ค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก สำหรับวัยทำงาน Expat ต่างชาติ ส่วนไทยติดอันดับ 5 ขณะที่แคนาดา-อังกฤษ ค่าครองชีพสูงเกินรับไหว
KEY
POINTS
- เวียดนามครองอันดับ 1 ประเทศที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดสำหรับ Expat ชาวต่างชาติ ประจำปี 2025 จากผลสำรวจของ InterNations
- นี่เป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 โดยชาวต่างชาติ 89% พึงพอใจกับค่าครองชีพ และ 87% ระบุว่ามีรายได้เพียงพอสำหรับใช้ชีวิตอย่างสบาย
- ประเทศไทยติดอันดับ 5 ในการจัดอันดับครั้งนี้ ซึ่งใน 10 อันดับแรกมีประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดโผถึง 5 ประเทศ
- ในทางตรงกันข้าม แคนาดา สหราชอาณาจักร และฟินแลนด์ เป็น 3 ประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ
เมื่อค่าครองชีพทั่วโลกสูงขึ้น และเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลายคนเลือกหาทางออกด้วยการย้ายไปใช้ชีวิตต่างแดน ซึ่งบางประเทศทำให้วัยทำงาน กลุ่ม Expat ชาวต่างชาติ “เพิ่มเงินในกระเป๋า” ได้มากกว่าการอยู่อาศัยในประเทศที่ค่าครองชีพสูงลิ่วในฝั่งยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ กลุ่มวัยทำงาน Expat คือ บุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิด เพื่อการทำงานระยะยาวกับบริษัทในประเทศนั้นๆ หรืออาจทำงานระยะไกล (Remote work) ให้กับบริษัทต่างประเทศ แต่ตัวอยู่อีกประเทศหนึ่ง
ตามรายงาน Expat Insider 2025 โดย InterNations แพลตฟอร์มชุมชนชาวต่างชาติออนไลน์ที่มีสมาชิกทั่วโลก เปิดเผยผลสำรวจหัวข้อ "ค่าครองชีพถูกและแพงที่สุดในโลก" พบว่า เวียดนามครองอันดับ 1 ประเทศที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดสำหรับ Expat ชาวต่างชาติ ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 จากทั้งหมด 46 ประเทศที่เข้าร่วมการจัดอันดับ
การสำรวจนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2014 โดยสอบถามชาวต่างชาติกว่า 10,000 คน จาก 172 สัญชาติ เกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ความพึงพอใจต่อค่าครองชีพ และรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายว่ามีเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตสบาย ๆ หรือไม่
10 ประเทศที่ค่าครองชีพถูกที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ ปี 2025
ผลการสำรวจพบว่า ประเทศที่ค่าครองชีพถูกที่สุด สำหรับวัยทำงานต่างชาติ 10 อันดับแรก จากทั้งหมด 46 ทั่วโลก มีดังนี้
อันดับ 1 เวียดนาม
อันดับ 2 โคลอมเบีย
อันดับ 3 ปานามา
อันดับ 4 จีน
อันดับ 5 ไทย
อันดับ 6 อินโดนีเซีย
อันดับ 7 ฟิลิปปินส์
อันดับ 8 เม็กซิโก
อันดับ 9 มาเลเซีย
อันดับ 10 บราซิล
น่าสังเกตว่า กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดโผมากถึง 5 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ขณะที่ยุโรปกลับไม่มีประเทศใดติดอันดับเลย
รายงานยังระบุด้วยว่า 9 ประเทศยังคงอยู่ใน 10 อันดับแรกเหมือนปีก่อน มีเพียงมาเลเซียที่เพิ่งจะขยับขึ้นมาติดอันดับ Top 10 โดยเลื่อนจากที่ 11 มาอยู่อันดับ 9 ในปีนี้
ทำไมเวียดนามถึงขึ้นแท่น No.1 สวรรค์ของชาว Expat ต่างชาติ
ในกรณีของเวียดนาม กลุ่ม Expat ชาวต่างชาติถึง 89% พอใจกับค่าครองชีพ และ 87% บอกว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเหลือเพียงพอหรือมากพอสำหรับการใช้ชีวิตสบายๆ (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 40% และ 69% ตามลำดับ) จึงไม่แปลกที่มีต่างชาติหลายคนเลือกตั้งรกรากที่นี่ โดยกว่า 54% อยู่มาแล้วเกิน 5 ปี และ 30% บอกว่าอยากอยู่ต่อไปตลอดชีวิต
โคลอมเบีย ตามมาเป็นอันดับ 2 โดย 92% ของชาวต่างชาติยืนยันว่า รายได้เพียงพอสำหรับชีวิตที่สะดวกสบาย และไม่มีใครกังวลเรื่องค่าครองชีพก่อนย้ายมา (ต่างจากค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 21%)
ส่วนปานามา อันดับ 3 ประเทศนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของผู้เกษียณอายุ เนื่องจากชาวต่างชาติถึง 35% เป็นผู้เกษียณแล้ว เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่เพียง 11%
10 ประเทศที่ค่าครองชีพแพงที่สุด สำหรับ Expat ต่างชาติ ปี 2025
นอกจากนี้ ในทางตรงกันข้าม รายงานดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงประเทศที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบยุโรป
อันดับ 1 แคนาดา (แพงที่สุด)
อันดับ 2 สหราชอาณาจักร
อันดับ 3 ฟินแลนด์
อันดับ 4 ตุรกี
อันดับ 5 กาตาร์
อันดับ 6 สิงคโปร์
อันดับ 7 เกาหลีใต้
อันดับ 8 ไอร์แลนด์
อันดับ 9 ออสเตรเลีย
อันดับ 10 นอร์เวย์
ผลการสำรวจพบว่า แคนาดาและสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่วัยทำงาน Expat ย้ายไปอยู่น้อยที่สุด (ค่าครองชีพพุ่งสูงสุด) โดย 62% ของชาวต่างชาติในแคนาดา และ 61% ในสหราชอาณาจักร ไม่พอใจกับค่าครองชีพ (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 40%)
ปีนี้ยังมี “หน้าใหม่” 3 ประเทศที่เข้ามาติดกลุ่มแพงที่สุด ได้แก่ กาตาร์ (อันดับ 42) และออสเตรเลีย (อันดับ 38) ส่วนเกาหลีใต้ร่วงหนักสุด ดิ่งลง 25 อันดับจากปีก่อนมาอยู่ที่ 40 สำหรับสหรัฐอเมริกาอยู่อันดับที่ 35 จาก 46 ประเทศ แม้ไม่ติด 10 อันดับท้ายสุด แต่ก็ถือว่าค่าครองชีพสูงไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ปี 2025 เวียดนามยังคงเป็นสวรรค์ด้านค่าครองชีพสำหรับ Expat ชาวต่างชาติ ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครองพื้นที่ในตารางอันดับต้นๆ อย่างแข็งแกร่ง ตรงข้ามกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างแคนาดาและสหราชอาณาจักร ที่รั้งท้ายจากปัญหาค่าครองชีพแพงเกินรับไหว
อ้างอิง: Internations.org, CNBC make it







