เด็กจบใหม่อาจได้งานบนดาวอังคาร คาดทัวร์อวกาศเกิดได้จริงปี 2035

เด็กจบใหม่อาจได้งานบนดาวอังคาร คาดทัวร์อวกาศเกิดได้จริงปี 2035

อนาคตการทำงานของ Gen Z ที่เป็นเด็กจบใหม่ คาดว่าจะไปไกลถึงดาวอังคาร? บิ๊กเทคเชื่อ สายงานใหม่ๆ และการท่องเที่ยวอวกาศอาจเกิดขึ้นจริงในปี 2035 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า

KEY

POINTS

  • มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีหลายคน คาดการณ์ว่าในอนาคตเด็กจบใหม่อาจได้ทำงานในอุตสาหกรรมอวกาศ เช่น การสำรวจดาวอังคาร เพื่อแก้ปัญหาการถูก AI แย่งงานบนโลก
  • แซม อัลท์แมน ซีอีโอ OpenAI เชื่อว่าภายในปี 2035 บัณฑิตจบใหม่อาจได้ทำงานสำรวจระบบสุริยะ ขณะที่อีลอน มัสก์ ตั้งเป้าส่งมนุษย์ไปดาวอังคารในปี 2028
  • บิล เกตส์ มีมุมมองที่แตกต่าง โดยเชื่อว่าควรนำเงินลงทุนมหาศาลมาใช้แก้ปัญหาเร่งด่วนบนโลก เช่น ด้านสาธารณสุข มากกว่าการเดินทางไปอวกาศ

ในขณะที่งานระดับเริ่มต้น (entry-level) กำลังหายไปเพราะผลกระทบของ AI แต่บางที “งานที่ไม่ถูกแทนที่ด้วย AI” สำหรับคนรุ่นใหม่ อาจไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป แต่ซ่อนอยู่ใน “อวกาศ” ก็เป็นได้

มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีอย่าง แซม อัลท์แมน (Sam Altman), อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และเจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ต่างมั่นใจว่า การเดินทางสู่อวกาศจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในไม่ช้า และเด็กจบใหม่รุ่น Gen Z อาจได้ไปถึง “ดาวอังคาร” ภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วย เพราะ บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กลับมองว่า เงินควรถูกนำไปใช้แก้ปัญหาบนโลกมากกว่า

Gen Z เจอแรงกระแทกจาก AI จนหางานยากขึ้นทุกวัน

ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เผยว่า AI กำลังส่งผลกระทบ “อย่างหนักและไม่เท่าเทียม” ต่อแรงงานระดับเริ่มต้นในสหรัฐฯ และนั่นทำให้คนรุ่นใหม่ยิ่งยากที่จะหาความมั่นคงในตลาดแรงงาน 

แต่ถ้าอนาคตของการทำงานบนโลกดูมืดมน บางทีทางออกอาจอยู่ “เหนือท้องฟ้า” เพราะเทคโนโลยีเดียวกันที่กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในงานดั้งเดิม ก็อาจเร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ตั้งแต่การท่องเที่ยวอวกาศ ไปจนถึงการตั้งถิ่นฐานบนดาวดวงอื่น

และนี่คืออนาคตที่เหล่ามหาเศรษฐีเทคโนโลยีไม่ได้แค่ฝันถึง แต่ยังลงทุนลงแรงทำให้เกิดขึ้นจริง เพราะงานที่มั่นคงและทำเงินที่สุดในวันข้างหน้า อาจไม่ได้อยู่บนโลกอีกต่อไป

แซม อัลท์แมนชี้ บัณฑิตจบใหม่ปี 2035 อาจทำงานสำรวจระบบสุริยะ

ซีอีโอของ OpenAI อย่างแซม อัลท์แมน ไม่ได้มองเพียงแค่ AI แต่ยังเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ชีวิตในอวกาศกำลังใกล้เข้ามา เขาเคยกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคมกับนักข่าว Cleo Abram ว่า “ในปี 2035 นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ (ถ้ายังมีคนไปเรียนมหาวิทยาลัยอยู่) อาจจะได้ออกเดินทางไปสำรวจระบบสุริยะบนยานอวกาศ ทำงานใหม่ที่ตื่นเต้น ได้ค่าตอบแทนสูง และน่าสนใจกว่างานที่เราเคยทำบนโลก”

อัลท์แมนยังเชื่อว่า การพัฒนา AI ที่รวดเร็วจะช่วยแก้ปัญหาสำคัญของสังคม รวมถึงวิธีทำให้มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศได้

อีลอน มัสก์ อ้างว่ามนุษย์จะได้อยู่บนดาวอังคารในปี 2028

อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla และผู้ก่อตั้ง SpaceX บริษัทอวกาศมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำงานร่วมกับ NASA อย่างใกล้ชิด กำลังเดินหน้าผลักดันมนุษย์สู่ยุคใหม่ของการสำรวจอวกาศ แม้จะมีอุปสรรค อย่างการเลื่อนทดสอบจรวดไปดาวอังคารในสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่มัสก์ยังเชื่อว่าภารกิจส่งจรวดไร้มนุษย์จะเริ่มได้ในปีหน้า ก่อนจะมีการส่งมนุษย์ขึ้นสู่ดาวอังคารจริงในปี 2028 อีกทั้งเขาเคยพูดติดตลกตั้งแต่ปี 2013 ว่า “ผมอยากตายบนดาวอังคาร แต่ไม่ใช่ตายตอนลงจอด”

เด็กจบใหม่อาจได้งานบนดาวอังคาร คาดทัวร์อวกาศเกิดได้จริงปี 2035

เจฟฟ์ เบโซส ย้ำภาพชัด อนาคตของมนุษย์อยู่ในอวกาศ

จากการเริ่มต้นธุรกิจ Amazon ในโรงรถ สู่การสร้างอาณาจักรมูลค่ากว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจุบันเจฟฟ์ เบโซสหันมาทุ่มให้กับ Blue Origin บริษัทเทคโนโลยีด้านอวกาศที่เขาเชื่อว่าจะเป็น “ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต”

ภารกิจของ Blue Origin คือ อนาคตที่ผู้คนนับล้านจะอาศัยและทำงานในอวกาศ เพื่อฟื้นฟูและรักษาโลก

แม้ตอนนี้จะเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทท่องเที่ยวอวกาศ แต่ก็สร้างกระแสไม่น้อยเมื่อต้นปี หลังส่ง ลอเรน ซานเชซ ภรรยาของเบโซส พร้อมด้วยนักร้อง Katy Perry และนักข่าว Gayle King ขึ้นไปถึงขอบบรรยากาศของโลก

บิล เกตส์ มองต่างไป "โลกนี้มีปัญหามาก ควรแก้ตรงนี้ก่อน"

ในมุมตรงข้าม บิล เกตส์ ไม่เห็นด้วยกับการลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อการท่องเที่ยวและตั้งถิ่นฐานนอกโลก เขาเคยตอบคำถามในปี 2021 ว่า “อวกาศน่ะเหรอ? จะไปทำตรงนั้นทำไม ในเมื่องเรายังมีเรื่องให้ทำอีกมากมายบนโลก”

และเมื่อถูกถามจาก BBC เรื่องดาวอังคารในปี 2023 เขาตอบว่า “มันแพงมากที่จะไปดาวอังคาร” พร้อมย้ำว่าเขาอยากใช้เงินไปกับการกุศลเพื่อสุขภาพของมนุษย์มากกว่า เช่น การซื้อวัคซีนหัด ซึ่งสามารถช่วยชีวิตคนได้ในราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งชีวิต และเขายังย้ำว่า “มนุษย์อย่าไปดาวอังคารเลย” 

อย่างไรก็ตาม อนาคตของการทำงานสำหรับ Gen Z อาจไม่ได้อยู่แค่บนโลก เพราะบิ๊กเทคบางคนเชื่อว่าภายในไม่กี่ทศวรรษ งานที่มั่นคงและน่าตื่นเต้นที่สุดอาจอยู่ “นอกโลก” แต่คำถามคือ…คุณจะเลือกทางไหน ระหว่างการสร้างชีวิตใหม่ อาชีพใหม่บนดาวอังคาร หรือทำอาชีพที่จะช่วยแก้ปัญหาบนโลกใบนี้ให้ดีขึ้นกว่าที่เคย?

 

อ้างอิง: Fortune, stanford.edu, Cleo Abram