พิลาทิสฮิตติดเทรนด์ สาวยุคใหม่อยากเป็น Pilates Princess

จากการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกาย สู่เทรนด์สุขภาพสุดชิคของสาวยุคใหม่ พิลาทิสกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่เล่นแล้วให้ทำให้แข็งแรง ดูเก๋ และสะท้อนตัวตนอย่างมีสไตล์
KEY
POINTS
- พิลาทิสกลายเป็นเทรนด์การออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน สะท้อนจากยอดการค้นหาบน Google และแฮชแท็กบนโซเชียลมีเดียที่พุ่งสูงขึ้น
- เกิดกระแส "Pilates Princess" ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของสาวยุคใหม่ที่เน้นการดูแลตัวเอง ผสมผสานความแข็งแรงเข้ากับภาพลักษณ์ที่ดูดีมีสไตล์
- พิลาทิสตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่เพราะเน้นสร้างความกระชับให้รูปร่างดูเพรียวสวยงาม เสริมบุคลิกภาพ และสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวโดยไม่ทำให้กล้ามใหญ่เกินไป
- ปัจจัยที่ทำให้พิลาทิสฮิตคือเป็นการออกกำลังกายแรงกระแทกต่ำแต่ได้ผลจริง ช่วยลดความเครียด และเหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ลงโซเชียลมีเดีย
ถึงแม้ว่า “พิลาทิส” (Pilates) จะเป็นศาสตร์การออกกำลังกายที่มีมานานเกือบร้อยปีแล้ว แต่กระแสความนิยมกลับเพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ในยุคนี้ โดยเฉพาะบนโซเซียลที่เต็มไปด้วยคลิปสั้น สตอรี่การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง และการรีวิวคลาสพิลาทิสที่ใครเห็นแล้วต่างก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง
ข้อมูลล่าสุดจาก Google Trends ระบุว่า การค้นหาคำว่า “pilates” เพิ่มขึ้นถึง 70% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน (จาก 12 ธ.ค. 2024 ถึง 12 ก.พ. 2025) ขณะที่ตอนนี้บน TikTok แฮชแท็ก #pilates มีโพสต์มากกว่า 2 ล้านโพสต์ และบน Instagram มีมากกว่า 30 ล้านโพสต์
กรุงเทพธุรกิจ จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับพิลาทิสให้ลึกขึ้น พร้อมสำรวจว่าทำไม การออกกำลังกายรูปแบบนี้ถึงได้กลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้
พิลาทิสคืออะไร?
พิลาทิส ถูกคิดค้นขึ้นโดย Joseph Pilates ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อฟื้นฟูร่างกายทหารบาดเจ็บ ก่อนจะได้รับความนิยมในหมู่นักเต้น และค่อยๆ ขยายสู่ผู้คนทั่วไป
พิลาทิสเป็นการออกกำลังกายแบบเน้นการเคลื่อนไหวที่ควบคุมได้ ใช้การฝึกสมาธิร่วมกับการหายใจที่ถูกต้อง โดยเน้นกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เช่น หน้าท้อง หลัง และสะโพก ทำได้ทั้งบนเสื่อ (Mat Pilates) หรือบนอุปกรณ์เฉพาะ เช่น Reformer (เตียงที่มีสปริงและสายรั้ง)
แม้พิลาทิสจะเป็นการฝึกแรงต้านเช่นเดียวกับเวทเทรนนิ่ง แต่พิลาทิสเน้น “ความกระชับ” มากกว่าการ “เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อ” ผลลัพธ์ที่ได้คือ รูปร่างที่ดูเพรียว มีความยืดหยุ่น ได้กล้ามท้องสวย จึงไม่แปลกใจที่สาวๆ จะหลงรักการออกกำลังกายแนวนี้ เพราะได้ทั้งความแข็งแรง และลุคที่ดูดีมีสไตล์แบบเก๋ๆ
ทำไมพิลาทิสถึงมาฮิตในตอนนี้?
- Low-impact แต่ได้ผลจริง: ต่างจากการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่ง หรือ HIIT พิลาทิสเน้นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล เหมาะกับทุกวัย และทุกระดับความฟิต
- ลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต: การฝึกพิลาทิสช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และส่งเสริมการหายใจอย่างมีประสิทธิภาพ
- เล่นแล้วดูดีมีสไตล์: แชร์ขึ้นโซเชียลได้สวยๆ เป็นไลฟ์สไตล์ที่ใครๆก็อยากมีส่วนร่วม
การระบาดของ COVID-19 ก็มีส่วนสำคัญที่เปลี่ยนทิศทางการออกกำลังกายจากการ “แข่งกับเวลา” มาเป็นการ “ฟังร่างกาย” พิลาทิสจึงเข้ามาตอบโจทย์ช่วงเวลานั้นได้อย่างลงตัว
The Rise of the “Pilates Princess”
ในขณะที่พิลาทิสได้กลายมาเป็นเทรนด์ฟิตเนสที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หนึ่งกระแสที่มาแรงไม่แพ้กันในโลกออนไลน์ นั่นคือ “Pilates Princess” ไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานระหว่างการดูแลตัวเอง ความเฟมินีน และความรักในสุขภาพแบบมีสไตล์
ภาพจำของ Pilates Princess มักมาพร้อมกับ ชุดแอคทีฟแวร์สีพาสเทลเฉดชมพูหวานๆ การฝึกพิลาทิสในสตูดิโอแสงธรรมชาติ ร่วมกิจกรรมดูแลตัวเองอื่นๆ เช่น ดื่มสมูทตี้สีสวย อ่านหนังสือจิตวิทยาดีๆ หรือแม้แต่จัดมุมบ้านให้น่ารักเหมือน Pinterest
เทรนด์นี้ไม่ได้เน้นแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่คือการใช้ชีวิตในแบบที่ใส่ใจตัวเองทุกมิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ และบรรยากาศรอบตัว เพราะสำหรับสาวๆ Pilates Princess แล้ว ความแข็งแรงภายในควรมาเคียงคู่กับความรู้สึกดีจากภายนอกด้วยเสมอ
ประโยชน์ของพิลาทิส
- เสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว
- ช่วยในเรื่อง ท่าทาง การทรงตัว และความยืดหยุ่น
- ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ และออฟฟิศซินโดรม
- เพิ่มสมาธิ ความตระหนักรู้ในร่างกาย
- ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น แจ่มใสขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น
- ดีต่อสุขภาพจิตโดยรวม เช่นเดียวกับ โยคะ
ซัมเมอร์ แบรดลีย์ (Summer Bradley) ผู้เชี่ยวชาญด้านพิลาทิสที่ Les Mills กล่าวว่า “พิลาทิสทำให้ฉันควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ฝึกได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดโอกาสบาดเจ็บจากการออกกำลังรูปแบบอื่นๆ”
พิลาทิสมีกี่ประเภท?
- Classical Pilates: ตามแบบดั้งเดิมของ Joseph Pilates
- Mat Pilates: ใช้เสื่อและน้ำหนักตัว เหมาะกับผู้เริ่มต้น
- Reformer Pilates: ใช้อุปกรณ์เสริมแรงต้านจากสปริง เพื่อฝึกกล้ามเนื้อทั่วร่าง
- Chair Pilates: ใช้อุปกรณ์คล้ายกล่องเล็กๆ พร้อมแป้นเหยียบ ฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
- Barre Pilates: ผสมผสานพิลาทิส บัลเลต์ และเวทเทรนนิ่ง เน้นการเคลื่อนไหวแบบเล็กๆ และเกร็งค้างนานๆ
- Contemporary Pilates: ผสมกับฟังก์ชันนัลเทรนนิ่งและการฟื้นฟูร่างกาย
- Stott Pilates: ปรับให้เข้ากับแนวเวชศาสตร์ ฟื้นฟู และกายภาพบำบัด
ผู้ชายเล่นพิลาทิสได้ไหม?
แม้พิลาทิสจะมีผู้หญิงเล่นเป็นหลัก อย่าลืมว่า ผู้คิดค้นพิลาทิสก็คือ ผู้ชาย และนักกีฬาดังหลายคน เช่น David Beckham, Cristiano Ronaldo และ Tiger Woods ต่างใช้พิลาทิสเสริมในการฝึกซ้อม เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแบบไม่ต้องเพิ่มกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการบาดเจ็บ และใช้เป็นส่วนหนึ่งของการ recovery ได้เป็นอย่างดี
พิลาทิส ต่างกับ โยคะ อย่างไร?
พิลาทิสและโยคะมีความคล้ายกันตรงที่เป็นการออกกำลังกายแบบ low-impact และเน้นการหายใจ แต่ต่างกันที่วิธีการฝึก:
โยคะ มักจะเน้นการ “ค้างท่า” หรือไหลจากท่าหนึ่งไปอีกท่าหนึ่ง
พิลาทิส จะอยู่ในท่าเดิม แล้วใช้การขยับอย่างมีจังหวะ หรือเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเฉพาะจุดเพื่อฝึกแรงต้าน
พิลาทิสมีข้อเสียไหม?
แม้พิลาทิสจะเป็นการออกกำลังกายที่แรงกระแทกต่ำและปลอดภัย แต่ผู้เริ่มต้นควรเริ่มจากคลาสระดับพื้นฐาน (Basic / Beginner) โดยเฉพาะหากใช้เครื่อง Reformer เพื่อเรียนรู้ท่าทางที่ถูกต้องและป้องกันการบาดเจ็บ หากมีอาการเจ็บหรือมีข้อจำกัดทางร่างกาย ควรแจ้งผู้สอนล่วงหน้าเพื่อปรับท่าให้เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม American College of Sports Medicine แนะนำให้เสริมด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งร่วมด้วย เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงรอบด้าน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ พิลาทิส ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานความแข็งแรงเข้ากับความอ่อนโยนได้อย่างลงตัว
อ้างอิง health.clevelandclinic , gymequipment , abcnews , lesmills , voguearabia , bodyandsoul







