พนักงาน 86% ยอมรับ Remote work ทำให้แอบรักเพื่อนร่วมงานง่ายขึ้น
ไม่เจอตัวเป็นๆ ก็ฟินได้! Remote work จุดชนวนรักในออฟฟิศยุคใหม่ แม้จะทำงานจากบ้าน แต่วิดีโอคอลกลายเป็นช่องทางให้เกิดความใกล้ชิดทางใจ 86% ของพนักงานแอบรักกันง่ายขึ้น
KEY
POINTS
- การทำงานทางไกล (Remote work) เปิดโอกาสให้เห็นชีวิตส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานผ่านวิดีโอคอล เช่น บ้านหรือสัตว์เลี้ยง ทำให้เกิดความผูกพันทางใจได้ง่ายขึ้นแม้ตัวจะอยู่ห่างกัน
- การสื่อสารผ่านแชตที่ขาดการสอดส่องโดยตรง ทำให้การพูดคุยมีความเป็นส่วนตัวและไม่เป็นทางการมากขึ้น ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่การจีบกันโดยไม่รู้ตัว
- ผลสำรวจจาก Zety ชี้ว่าเทคโนโลยีและการทำงานทางไกลเป็นปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม โดยพนักงาน 79% ยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์แบบจริงจังกับเพื่อนร่วมงาน
- ความสัมพันธ์เชิงอำนาจกับหัวหน้าหรือฝ่ายบุคคลสามารถเกิดขึ้นและตรวจสอบได้ยากขึ้นในยุคทำงานทางไกล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความยุติธรรมและความไว้ใจในองค์กร
จากกรณีคลิปไวรัล "จูบกลางคอนเสิร์ต Coldplay" ระหว่างซีอีโอของบริษัท Astronomer กับหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท กลายเป็นเรื่องร้อนแรงบนโลกโซเชียลเมื่อไม่นานมานี้ สาเหตุที่ทำให้หลายคนจับตามองไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ในที่ทำงานเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวยังสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของความรักในโลกการทำงานยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีและการทำงานทางไกลได้เข้ามาเปลี่ยนสมการเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง
เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้สังคมหันมาพูดคุยเรื่อง "รักในออฟฟิศ" อย่างจริงจังมากขึ้น เพราะแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่หากไม่มีนโยบายองค์กรที่ชัดเจน ความสัมพันธ์เชิงชู้สาว อาจส่งผลต่อความเท่าเทียมและวัฒนธรรมองค์กรได้โดยไม่รู้ตัว
ความรักในที่ทำงานเกิดบ่อยกว่าที่คิด โดยเฉพาะฝ่าย HR การตลาด เซลล์
เป็นเรื่องปกติที่พนักงานจะใช้เวลาร่วมกันในออฟฟิศตลอดวัน และแน่นอนว่าความใกล้ชิดย่อมมีโอกาสก่อเกิดความรู้สึกดีๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีนโยบายองค์กรที่ชัดเจน จากเคสข้างต้น การคบหากันระหว่างพนักงานกับหัวหน้าโดยตรงอาจก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมในการทำงาน รวมถึงภาพลักษณ์ขององค์กร โดยเฉพาะเมื่อคนที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายทรัพยากรบุคคลเสียเอง
จากผลสำรวจ Blind ที่ชื่อว่า “Workplace Romance in America” ซึ่งเก็บข้อมูลจากพนักงาน 8,784 คนในบริษัทชื่อดังของสหรัฐฯ พบว่า 42% ของพนักงานฝ่าย HR เคยคบหากับเพื่อนร่วมงาน และ 8% กำลังมีความสัมพันธ์ในที่ทำงานขณะทำแบบสำรวจ
ขณะที่ฝ่ายการตลาดและสื่อสาร (Marketing & Communications) ก็ไม่น้อยหน้า โดย 39% ยอมรับว่าเคยเดตกับเพื่อนร่วมงาน ขณะที่ 36% ของฝ่ายขายและบริการ (Sales, Service and Support) ก็เคยมีความสัมพันธ์ในลักษณะนี้เช่นกัน
แม้ไม่เจอตัวเป็นๆ แต่รักในออฟฟิศเกิดมากขึ้นในยุค Remote work
เมื่อต้นปี 2025 SHRM ได้สำรวจพนักงานในสหรัฐฯ 1,071 คน และเจ้าหน้าที่ HR อีกกว่า 2,000 คน พบว่า 52% ของพนักงาน "เคยมี" หรือ "กำลังมี" ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน และหลายคนยอมรับว่ามีการแสดงความรักในที่สาธารณะในช่วงคบกัน แม้จะรู้ว่าไม่เหมาะสมก็ตาม
อีกหนึ่งผลสำรวจจาก Zety ภายใต้หัวข้อการศึกษาที่ว่า Modern Workplace Romance Report ซึ่งทีมวิจัยได้สอบถามพนักงานอเมริกันกว่า 1,000 คน และค้นพบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิม นั่นคือ
- 79% ของพนักงานเคยมีความสัมพันธ์ในที่ทำงานแบบจริงจัง
- 15% เคยมีมากกว่าหนึ่งครั้ง
- 41% คบกับหัวหน้าโดยตรงหรือผู้จัดการ
- 91% ยอมรับว่าเคยใช้เสน่ห์หรือการอ่อยเพื่อให้ก้าวหน้าในอาชีพ
- 69% เคยได้รับสิทธิพิเศษไม่เหมาะสมจากความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
ทำไมการทำงานทางไกล กลายเป็นเชื้อไฟให้ความรักในที่ทำงาน?
Zety ชี้ว่า เทคโนโลยีและการทำงานระยะไกล (Remote work) ไม่ได้ลดโอกาสของความสัมพันธ์ในที่ทำงานเลย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เรื่องนี้เกิดมากขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งนี้ Toni Frana (โทนิ ฟรานา) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก Zety ได้อธิบายเหตุผล 5 ข้อว่า เพราะอะไรยุครีโมตเวิร์กถถึงทำให้พนักงานแอบกิ๊กกันมากกว่าเดิม
1. ระยะห่างทางกายไม่ใช่กำแพงของใจ
แม้ไม่ได้พบหน้ากัน แต่การทำงานผ่าน Zoom หรือ Slack กลับเปิดโอกาสให้เห็นชีวิตส่วนตัวของกันและกัน เช่น ห้องนั่งเล่น สัตว์เลี้ยง หรือชุดอยู่บ้าน ซึ่งกลายเป็นช่องทางสร้างความผูกพันแบบที่ออฟฟิศจริงไม่สามารถให้ได้
2. แชตคุยงานกลายเป็น "แชตอ่อย" โดยไม่รู้ตัว
ในการทำงานระยะไกล ไม่มีผู้จัดการคอยสอดส่องอย่างใกล้ชิดเหมือนอย่างในออฟฟิศ ทำให้การคุยงานผ่านแชตก็มีความไม่เป็นทางการมากขึ้น เช่น การส่งอีโมจิ หรือคุยนอกเวลางาน ซึ่งนั่นอาจทำให้เส้นแบ่งระหว่างการทำงานกับการจีบกันเริ่มเลือนลางลงไปโดยไม่รู้ตัว
3. อำนาจฝ่าย HR ไม่หายไป แม้จะทำงานจากบ้าน
ถึงจะไม่มีห้องผู้จัดการให้เดินเข้าไปหา แต่ความสัมพันธ์แบบบน-ล่าง ยังคงอยู่ และอาจยิ่งตรวจสอบได้ยากขึ้นด้วยซ้ำเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นหลังจอ โดยเฉพาะเมื่อคนที่มีอำนาจคือฝ่าย HR เสียเอง
4. ถ้าความสัมพันธ์รักเปิดเผย ความไว้ใจในที่ทำงานอาจลดลง
ฟรานา เผยว่า เกือบ 70% ของพนักงานเคยเห็นการให้สิทธิพิเศษอย่างไม่เหมาะสมจากความสัมพันธ์ในที่ทำงาน และ 91% ยอมรับว่าเคยใช้เสน่ห์เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ซึ่งล้วนเป็นภัยต่อความเชื่อมั่นในองค์กร
5. นโยบายคลุมเครือใช้ไม่ได้กับยุคทำงานทางไกล
กฎเกณฑ์เรื่องความรักความสัมพันธ์ในที่ทำงานต้องชัดเจน และปรับให้เหมาะกับยุคปัจจุบัน รวมถึงครอบคลุมพฤติกรรมออนไลน์ เช่น การแชต การรายงานเหตุการณ์ หรือข้อกำหนดเฉพาะกรณี ไม่ใช่กฎกว้างๆ ที่ทุกคนตีความกันเอง
รักในออฟฟิศไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่ต้องมีกรอบชัดเจน
เอวา ชาน (Eva Chan) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก Resume Genius เสริมว่า การไม่มีขอบเขตชัดเจน ยิ่งทำให้ "ข่าวลือ" และ "ซุบซิบ" ในออฟฟิศเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงสร้างบรรยากาศที่เป็นพิษ แต่ยังทำลายขวัญและความเชื่อมั่นของทีม
ไม่มีใครหยุด "กามเทพ" ได้ ไม่ว่าเขาจะยิงลูกศรใส่ใครผ่าน Zoom หรือ Slack แต่หากองค์กรมีนโยบายชัดเจน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ย่อมสามารถสร้างสมดุลระหว่างเรื่องส่วนตัว และความเป็นมืออาชีพได้ในยุคที่ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวแทบจะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน