ชวนไปชม 'Bangkok’s 27th International Festival of Dance & Music' วันที่ 6 ก.ย. - 15 ต.ค. 68

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ เทศกาลศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติแห่งกรุงเทพฯ (Bangkok's International Festival of Dance & Music) ตอกย้ำสถานะกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมและการแสดงระดับโลกอย่างแท้จริง

ราซีน่าร์ อูเบรอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชันแนล คัลเจอรัล โปรโมชัน จำกัด เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของการจัดเทศกาลนี้ให้ฟัง วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรม Swissotel Bangkok Ratchada ว่า

 

"เทศกาลนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณพ่อ เจ.เอส. อูเบรอย ผู้ก่อตั้งเทศกาลนี้มาตั้งแต่ปี 2542 ที่ต้องการคืนสิ่งดี ๆ กลับสู่ประเทศ 

คุณพ่อเริ่มจากการนำการแสดงบัลเลต์จากรัสเซียมาแสดง 6 รอบ ในคืนวันอาทิตย์ก็ประกาศเพิ่มรอบพิเศษในวันจันทร์ มีผู้ชมมาถึง 70% แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความต้องการชมการแสดงระดับโลกเหล่านี้

ราซีน่าร์ อูเบรอย

คุณพ่อได้มีโอกาสเข้าพบสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงให้การสนับสนุนและรับเป็นองค์ประธานของโครงการ ปัจจุบันเทศกาลยังคงได้รับการอุปถัมภ์จากราชวงศ์ โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทอดพระเนตรทุกปี รวมถึงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ก็เสด็จฯ ทุกปีด้วย

เทศกาลนี้ตั้งเป้าที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางทางวัฒนธรรมสำคัญของโลก เราแข่งขันกับปารีส เวียนนา นิวยอร์ก ลอนดอน ได้เลย

เป็น Soft Power ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจบินมาเพื่อชมการแสดงโดยเฉพาะ สร้างความสุขและผ่อนคลาย ทำให้ผู้ชมมีความสุข 

เป็นทูตทางวัฒนธรรม เปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้ต้อนรับและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนานาชาติ ในปีนี้มีความพิเศษด้วยการแสดงจากประเทศที่ไม่เคยมามาก่อน เช่น บัลแกเรีย และคิวบา

เทศกาลมุ่งมั่นที่จะ Raise Image ของ Standard ของ Music กับ Dance ที่เมืองไทย ด้วยการมี โครงการเยาวชน ที่จัดแสดงฟรีให้กับเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนและมูลนิธิต่าง ๆ รวมถึงเด็กด้อยโอกาส เด็กตาบอด หูหนวก ดาวน์ซินโดรม เพื่อให้เด็ก ๆ มีแรงบันดาลใจและเห็นว่า มันมีอาชีพของโชว์นี้ด้วยนะ ไม่ใช่แค่บนเวที เบื้องหลังก็มี นอกจากนี้ยังช่วยสอนเรื่องการมีวินัยให้เด็ก ๆ สามารถนั่งนิ่ง ๆ ชมการแสดงได้ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในชีวิต

สำหรับปีที่ 27 นี้ เทศกาลได้รวบรวมการแสดงระดับโลก 14 โชว์ กว่า 10 ประเทศ มีไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่

Plácido Domingo เทเนอร์โอเปร่าระดับตำนาน เจ้าของ 12 รางวัลแกรมมี่ เปรียบได้กับ Taylor Swift ในวงการเพลงป็อป เขาไม่เคยมาเล่นที่เอเชียเลย การแสดงครั้งนี้เป็นแบบ one night, one show ถือเป็น once in a lifetime ที่ยากจะกลับมาอีก เขาจะร้องเพลง คู่กับ Soprano ชาวอเมริกันวัย 26 ปี ซึ่งถูกยกให้เป็น Maria Callas คนใหม่

การแสดงจากจีน 

กายกรรม โดยคณะนักแสดงที่ได้รับเหรียญทองถึง 50 เหรียญจากการแข่งขันระดับโลก เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

บัลเลต์ ความฝันในหอแดง (Dream of Red Mansion) การแสดงบัลเลต์ขนาดใหญที่มีนักแสดงถึง 80 คน เป็นศิลปะการแสดงที่เชื่อมโยงบัลเลต์คลาสสิกกับคอนเทมโพรารี โดยใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยสร้างฉาก แสง ผสมผสานดนตรีตะวันตกกับจีน ให้ทันสมัยและเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น

มหาภารตะ (Mahabharata) จากอินเดีย เป็น dance musical ที่โดดเด่นด้วยการเต้นรำแบบดั้งเดิมของอินเดีย สามารถย่อเรื่องราวอภิมหาคัมภีร์ที่ยาวนานให้จบได้ใน 90 นาที พร้อมเทคนิคการลอยตัว (Levitation) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

4 โปรดักชันจากรัสเซีย

1.โอเปร่า Aida และ 2.Tosca การแสดงโอเปร่าขนาดใหญ่จากเมืองซามาร่า ที่นำนักแสดงมาถึง 250 คน พร้อมฉากและเครื่องแต่งกายที่อลังการเต็มตู้คอนเทนเนอร์ 8 ตู้

Aida ถือเป็น greatest production in the world ที่อลังการงานสร้าง ส่วน Tosca เป็นโอเปร่าที่ The most romantic

3.บัลเลต์ Three Masks of the King การแสดงบัลเลต์ที่มีเพียงคณะเดียวในโลกที่แสดงเรื่องนี้ โดดเด่นด้วยนักแสดงชายที่มีพลังเยอะมาก

4.บัลเลต์ Nutcracker การแสดงบัลเลต์ที่คุ้นเคย เหมาะสำหรับครอบครัวในช่วงเทศกาล

Pixel จากฝรั่งเศส การแสดงที่ผสมผสานฮิปฮอป โรลเลอร์เบลด และเทคโนโลยี Lighting Mapping ที่เชื่อม AI เข้ากับการเต้นรำ

เช็ก ฮาร์โมเนีย ออร์เคสตรา วงออร์เคสตราชื่อดังระดับโลกที่รับหน้าที่บันทึกซาวด์แทร็กภาพยนตร์ดังอย่าง Star Wars จะมาพร้อมกับนักเปียโนดาวรุ่งวัย 29 ปี George Lee

กลองจากไต้หวัน การแสดงเพอร์คัสชั่นที่ใช้เครื่องกระทบหลากหลายชนิด แสดงถึงความสามารถอันโดดเด่นของผู้แสดง"

จากอดีตถึงปัจจุบัน ผู้ชมในช่วงแรกจะเป็นชาวต่างชาติ แต่ปัจจุบัน 90% เป็นคนไทย และมีผู้เข้าชม 30,000-40,000 คนต่อปี 

เบื้องหลังการจัดเทศกาลระดับโลกเต็มไปด้วยความท้าทาย เราต้องทำงานล่วงหน้า 2-3 ปี บางคณะอย่าง Bolshoi หรือ Domingo ต้องใช้เวลาเกือบ 15 ปีในการพูดคุย เพื่อให้มาแสดง

นอกจากนี้ยังมีความท้าทายด้านโลจิสติกส์ เช่น การเคลื่อนย้ายคณะนักแสดง 250 คน พร้อมฉาก 8 คอนเทนเนอร์จากรัสเซีย รวมถึงประเด็นเรื่องวีซ่า การอนุญาตทำงาน การขนส่ง 

ความท้าทายคือ ข้อจำกัดของสถานที่จัดการแสดง ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เวทีไม่ลึกพอ และไม่สูงพอ ที่จะรองรับฉากขนาดใหญ่ระดับโลกได้ ซึ่งใช้ความสูงกว่า 24 เมตร และต้องจองสถานที่ล่วงหน้าถึง 2 ปี เพื่อจัดงานได้อย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายของเราคือ มันจะต้องดีกว่าปีที่แล้ว แม้แต่คณะบัลเลต์ระดับโลกก็ยังต้องพัฒนาตัวเอง โดยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับฉาก แสง และการเต้น เพื่อให้การแสดงมีความทันสมัยและดึงดูดผู้ชม

สิ่งที่เราทำในชีวิต ถ้าไม่ลอง เราจะไม่มีวันรู้ เทศกาลฯยังคงมุ่งมั่นนำเสนอการแสดงคุณภาพระดับโลก และหวังให้คนไทยทุกคนภูมิใจและสนับสนุน"

มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 27 (Bangkok’s 27th International Festival of Dance & Music) วันที่ 6 กันยายน-15 ตุลาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

นำเสนอ 14 การแสดงสุดพิเศษจากศิลปินระดับโลกกว่า 10 ประเทศ ทั้งโอเปรา บัลเลต์ ออร์เคสตรา มิวสิคัล กายกรรม และการแสดงร่วมสมัย โชว์ไฮไลต์ ได้แก่ 

Plácido Domingo ครั้งแรกและครั้งเดียวในไทย เจ้าของ 12 รางวัลแกรมมี่ หนึ่งใน The Three Tenors ที่มีบทบาทบนเวทีโอเปรากว่า 150 บท ขึ้นแสดงมากกว่า 4,000 ครั้งทั่วโลก พร้อม Monica Conesa โซปราโนดาวรุ่ง และ Beatrice Venezi วาทยกรหญิงจากอิตาลี หนึ่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลของวงการดนตรีคลาสสิก วันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น.

มหาภารตะ มหากาพย์ระดับตำนานที่ถูกนำกลับมาเล่าใหม่ในสไตล์วัฒนธรรมป็อป แต่ยังคงถ่ายทอดรากเหง้าและปรัชญาของอินเดียได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านการแสดงมิวสิคัล Mahabharata: 18 Days, Dusk of an Era! ผลงานชิ้นเอกจาก Prabhat Arts International กลุ่มศิลปะร่วมสมัยชื่อดังของอินเดีย ที่ผสานเทคโนโลยี การร้อง เต้น เสียงสวดมนต์โบราณ และฉากแอคชันสุดอลังการ ชุบชีวิตมหากาพย์อายุ 5,000 ปี วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น.

Aida มหากาพย์ โอเปรา 4 องก์ โดย Giuseppe Verdi ถ่ายทอดเรื่องราวรักต้องห้ามท่ามกลางอำนาจ ศักดิ์ศรี และสงครามในอียิปต์โบราณ ผ่านโปรดักชันสุดยิ่งใหญ่โดย Samara Opera & Ballet Theatre จากรัสเซีย

เรื่องราวความรักสามเส้าระหว่าง Aida เจ้าหญิงเอธิโอเปียในคราบทาส Radamès แม่ทัพหนุ่มแห่งอียิปต์ และ Amneris ธิดาแห่งฟาโรห์ เมื่อความรักและความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองสวนทางกัน การตัดสินใจย่อมแลกมาด้วยการสูญเสีย เต็มอิ่มกับบทเพลงทรงพลัง การแสดงเข้มข้น ฉากอลังการ ออร์เคสตร้าบรรเลงสดเต็มวง ย้อนสู่อารยธรรมยุคฟาโรห์ในโปรดักชันยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 19.00 น.

China National Acrobatic Troupe การแสดงกายกรรมสุดเร้าใจด้วยทักษะผาดโผนและความสามารถเหนือมนุษย์ของนักกายกรรมกว่า 50 ชีวิต ระดับแชมป์ หนึ่งในการแสดงที่ได้รับรางวัลเหรียญทองกว่า 74 รางวัลจากเวทีระดับโลก วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น.และ วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น.

บัลเลต์ร่วมสมัย ความฝันในหอแดง โดย National Ballet of China ที่นำวรรณกรรมอมตะ A Dream of Red Mansions ผลงานชิ้นเอกของ เฉาเสวี่ยฉิน ศตวรรษที่ 18 มาตีความใหม่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักสามเส้า ความฝัน และการล่มสลายของตระกูล

ผ่านการแสดงของนักเต้นกว่า 80 ชีวิต ฉาก แสง สี และเครื่องแต่งกายที่ส่งตรงจากกรุงปักกิ่งกว่า 6 ตู้คอนเทนเนอร์ ผสมผสานศิลปะจีนโบราณกับสุนทรียศาสตร์ตะวันตกอย่างงดงามทรงพลังทำให้ผู้ชมหลงใหล วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น. และ 19.00 น.

Prague Philharmonia วงออร์เคสตราชั้นนำจากยุโรปกลาง จะมาเปิดการแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมบทเพลงอมตะที่สะท้อนจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ดนตรีเช็ก ไม่ว่า Vltava จาก Má Vlast ของ Smetana, Symphony No. 9 'From the New World' ของ Dvořák และ Piano Concerto No. 2 ของ Rachmaninoff บทเพลงยอดเยี่ยมที่ถ่ายทอดอารมณ์ลึกซึ้ง ผ่านการบรรเลงโดยวาทยกรชื่อดัง Leoš Svárovský และนักเปียโนดาวรุ่งระดับโลก George Li ผู้ได้รับการยกย่องด้านเทคนิคและการตีความที่โดดเด่น วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 19.00 น.

นอกจากนี้ยังมี Cuba Vibra! สัมผัสจิตวิญญาณการเต้นสไตล์คิวบาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน  Nocturna ฟลาเมงโกร่วมสมัยจากสเปน  NINA ท่วงท่าการเต้นที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงแกร่งที่ต่อสู้เพื่อความฝัน  และการแสดงเสียงเครื่องกระทบจาก Energy ∞ Infinite

ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.bangkokfestivals.com

.

.

.

.