แค่เงินเดือนไม่พอ Gen Z ไม่สมัครงานกับบริษัทที่ไม่มีห้องงีบหลับ

แค่เงินเดือนไม่พอ Gen Z ไม่สมัครงานกับบริษัทที่ไม่มีห้องงีบหลับ

Gen Z เลือกทำงานให้บริษัทที่ดูแลพวกเขามากกว่าแค่ให้เงินเดือนและประกันสุขภาพ เช่น มีสวัสดิการ ห้องงีบหลับ โซนเล่นเกม-สันทนาการ มุมอาหาร ขนมฟรี การทำงานที่ยืดหยุ่น ฯลฯ

KEY

POINTS

  • ค่านิยมการทำงาน Gen Z ในสหรัฐ เน้นย้ำสมดุลชีวิตและสุขภาพจิตต้องมาก่อน เงินเดือนไม่ใช่สิ่งเดียวที่สำคัญอีกต่อไป พวกเขาให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีทั้งกายและใจอย่างมาก สะท้อนได้จากความต้องการที่มี "ห้องงีบหลับ" ในออฟฟิศ
  • คนรุ่นใหม่มองว่าที่ทำงานควรเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ และเอื้อต่อความสุข พวกเขาจึงต้องการ "ห้องสันทนาการ" เล่นเกม ปิงปอง ออฟฟิศเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะความยืดหยุ่น (ทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์, ลาพักร้อนระยะยาวเพื่อพัฒนาตนเอง)
  • หากบริษัทต้องการดึงดูดGen Z ที่มีคุณภาพ ต้องเข้าใจและตอบสนองความต้องการเหล่านี้ การมองข้ามความสุขในการทำงานของคนรุ่นใหม่ อาจทำให้องค์กรเสียเปรียบในการแข่งขันด้านบุคลากร

วัยทำงาน รุ่น Gen Z กำลังสร้างนิยามใหม่ให้โลกการทำงาน! ลืมภาพพนักงานก้มหน้าก้มตาทำงานหามรุ่งหามค่ำไปได้เลย เพราะคนรุ่นใหม่สมัยนี้ไม่ได้มองหาแค่เงินเดือน หรือสวัสดิการพื้นฐาน อย่างประกันสุขภาพอีกต่อไป แต่พวกเขากำลังมองหาสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีแบบสุดๆ

ผลสำรวจล่าสุดที่น่าตกใจจาก เผยให้เห็นว่า คน Gen Z เกือบ 1 ใน 6 ที่มีอายุต่ำกว่า 28 ปี จะไม่แม้แต่จะชายตามองงานด้วยซ้ำ หากออฟฟิศไม่มี "ห้องงีบหลับ" หรือพื้นที่สำหรับพักผ่อนยามบ่าย

อแมนด้า ออกัสทีน (Amanda Augustine) โค้ชด้านอาชีพการงานและผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์สร้างเรซูเม่ Resume.io ซึ่งได้สำรวจวัยทำงานคนรุ่นใหม่ในสหรัฐกว่า 1,000 คน เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พวกเขาต้องการในการเลือกงาน หรือเลือกบริษัทที่อยากทำงานด้วย 

จากผลสำรวจดังกล่าวเธอชี้ว่า "เป็นที่ชัดเจนว่าคน Gen Z ไม่ลังเลที่จะเรียกร้องถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากสถานที่ทำงานในปัจจุบัน และสำหรับความต้องการของพวกเขาหลายๆ คน มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนหรือประกันสุขภาพอีกต่อไป"

ร้องขอ "ห้องงีบพัก" Gen Z ต้องการความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงาน

ออกัสทีนเสริมว่า สำหรับคน Gen Z การได้งีบระหว่างทำงาน รวมถึงข้อเรียกร้องอื่นๆ ไม่ใช่แค่เป็นสวัสดิการประเภทที่ 'มีก็ดี ไม่มีก็ได้' แต่พวกเขาเรียกร้องให้มีขึ้นจริงๆ ในที่ทำงาน ซึ่งมันสะท้อนถึงมุมมองที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมในออฟฟิศด้วย

ผลสำรวจชิ้นนี้ยังเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า Gen Z ประมาณ 1 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ระบุว่า "ห้องแห่งความสนุก" ที่มีเกมให้เล่น อย่างปิงปองและกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานของพวกเขา ซึ่งคนรุ่นใหม่มีความต้องการเหล่านี้มากกว่าคนรุ่นอื่นๆ

ในขณะที่ 25% ของ Gen Z กลุ่มตัวอย่าง จะไม่พิจารณาสมัครงานกับบริษัทนั้นๆ เลย หากออฟฟิศไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มมิลเลนเนียล (อายุ 29-44 ปี) ที่มีเพียง 14% เท่านั้น ขณะที่ Gen X (อายุ 40-65 ปี) มี 8% และกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (อายุ 61-79 ปี) มีเพียง 4%

ผลสำรวจยังพบว่า Gen Z จำนวนมากถึง 33% คาดหวังว่า จะได้รับประทานอาหารว่างและอาหารกลางวันฟรีที่ทำงาน ซึ่งความต้องการนี้มากกว่าเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ทุกช่วงวัย

ความยืดหยุ่นในการทำงาน ยังคงเป็นสวัสดิการอันดับแรกๆ ที่ Gen Z มองหา

แม้ว่าออฟฟิศจะดูดีแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อยากเข้าออฟฟิศทุกวัน! หนึ่งในสามของคน Gen Z กล่าวว่า การทำงานสี่วันต่อสัปดาห์ เป็นสิ่งที่ ต่อรองไม่ได้ และหนึ่งในสี่คาดหวัง การลาพักร้อนระยะยาว "เพื่อพัฒนาตนเองหรือท่องเที่ยว"

ออกัสทีนอธิบายเพิ่มเติมว่า วัยทำงานคนรุ่นใหม่กำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากรูปแบบการทำงานที่หนักและเหนื่อยล้าแบบเก่า มาสู่บรรทัดฐานการทำงานใหม่ โดยให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและ "ประสบการณ์การทำงานในแต่ละวันที่สนุกสนานมากขึ้น"

ในฐานโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพ เธอยังเตือนอีกว่า "บริษัทที่มองข้ามความสำคัญเหล่านี้ว่าไม่จำเป็น อาจพบว่าตัวเองดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถจากคนรุ่นใหม่นี้ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ"

 

อ้างอิง: New York Post