ตำแหน่งงาน AI มาแรงในสหรัฐ เติบโตพุ่ง 142% ภายในปีเดียว

ตำแหน่งงาน AI Specialist และ Machine Learning โตพุ่งแรง 142% ในสหรัฐฯ อย่างก้าวกระโดด เงินเดือนเฉลี่ยสูงหลักล้านบาทต่อปี มีโอกาสทำงานที่ไหนก็ได้ ตลาดงานต้องการสูง
KEY
POINTS
- ตำแหน่งงาน AI Specialist และ Machine Learning โตพุ่งแรง 142% ในสหรัฐฯ อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแซงหน้าค่าเฉลี่ยทั่วโลกภายในเวลาแค่ปีเดียว
- เงินเดือนเฉลี่ย AI Specialist ในสหรัฐฯ ประมาณ 119,000 - 187,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 3,800,000 - 6,000,000 บาทต่อปี) แถมยังมีโอกาสทำงานที่ไหนก็ได้ และเจรจาค่าตอบแทนได้มากขึ้น เพราะตลาดงานต้องการสูง
- แม้ไม่มีวุฒิด้านคอมพิวเตอร์หรือคณิตศาสตร์ ก็สามารถเข้าสู่วงการ AI เรียนเพิ่มทักษะผ่านคอร์สออนไลน์ได้ เช่น Google Career Certificates หรือ Coursera โดยควรมีทักษะพื้นฐานด้านคณิตฯ และสถิติ
เมื่อเร็วๆ นี้ Coursera แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ระดับโลก เพิ่งจะเปิดเผยรายงาน Global Skills ประจำปี 2025 ที่หลายคนตั้งตารอ ซึ่งในรายงานดังกล่าวได้สรุปทักษะที่ตลาดงานต้องการมากที่สุดในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงแนวโน้มที่มืออาชีพควรรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ทันโลกการทำงาน
โดยหนึ่งในไฮไลต์ของรายงานปีนี้ ก็คือ การเติบโตของสายงานด้าน AI ที่เรียกได้ว่าทั้ง "มาแรง มีอนาคต และขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก" โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในอันดับ 4 ของดัชนีความพร้อมด้าน AI (AI Maturity Index) ด้วยระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมอย่างแข็งแกร่ง
Gen AI แพร่หลายมากขึ้น อาจเกิดการโยกย้ายงานถึง 12 ล้านตำแหน่ง
รายงานระบุว่า “94% ของบริษัทในสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก AI ภายในปี 2030” โดยเฉพาะเมื่อ Generative AI แพร่หลายมากขึ้น อาจทำให้เกิดการโยกย้ายตำแหน่งงานมากถึง 12 ล้านตำแหน่งก่อนสิ้นทศวรรษนี้
โดยเฉพาะตำแหน่งงาน “ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine Learning (AI/ML Specialist)” คาดว่าจะเติบโตเร็วสุดในสหรัฐอเมริกา เพราะถือเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมและการนำ AI มาใช้ในองค์กร อีกทั้ง Coursera ยังระบุด้วยว่า
“ในสหรัฐอเมริกา ตำแหน่ง AI/ML Specialist เติบโตขึ้นถึง 142% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมาก”
เปิด 4 ปัจจัยหนุน ทำไมสายงานนี้ถึงน่าจับตา?
1. ตลาดงานต้องการสูง รายได้ดี
ข้อมูลจาก Glassdoor ระบุว่า รายได้เฉลี่ยของ วิศวกร AI และ Machine Learning Specialist ในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 119,608 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 3.8 ล้านบาทต่อปี) และถ้ารวมสวัสดิการต่างๆ ตัวเลขจะพุ่งไปถึง 159,207 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 5.2 ล้านบาทต่อปี)
ทั้งนี้ หากอยู่ในรัฐที่เป็นฮับเทคโนโลยีอย่างแคลิฟอร์เนีย คนทำงานสายนี้จะมีรายได้เฉลี่ยสำหรับตำแหน่งเดียวกันยิ่งพุ่งสูงถึง 187,563 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 6.1 ล้านบาทต่อปี)
2. ทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Remote work)
แม้ออฟฟิศอยู่ไกลแต่ก็ทำให้ทีมงานใกล้กันได้ เพราะงานสายเทคโนโลยีส่วนใหญ่มักจะรองรับการทำงานทางไกล โดยหลายบริษัทเปิดรับแนวคิดรูปแบบงานแบบ Remote work ในสายงาน AI มากขึ้น ทำให้คนที่อยากทำงานข้ามประเทศก็มีโอกาสเข้าถึงตำแหน่งงานเหล่านี้
3. เป็นอาชีพแห่งอนาคตและทนต่อวิกฤติเศรษฐกิจ
งานในสายนี้กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” สำคัญของธุรกิจ ทำให้คนที่มีทักษะเหล่านี้มีแนวโน้มได้เปรียบในตลาดงาน และมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น เพราะความต้องการของตลาดงานยังสูงมาก ขณะที่จำนวนคนที่มีทักษะเหล่านี้ยังมีจำนวนจำกัด
4. ได้สร้างสิ่งที่เปลี่ยนโลก
คนที่ทำงานในสายงานเทคฯ AI และ Machine Learning Specialist มักรู้สึกมีคุณค่า เพราะได้มีส่วนร่วมสร้างระบบ เทคโนโลยี หรือผลิตภัณฑ์บางอย่าง ที่จะถูกใช้งานไปอีกนาน และอาจช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานหรือคุณภาพชีวิตของผู้คนทั้งโลกได้
อยากทำงานเป็น AI Specialist ต้องเริ่มจากตรงไหน?
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนสายงานมาทำงานในอาชีพผู้เชี่ยวชาญเทคฯ AI และ Machine Learning Specialist ต้องรู้ก่อนว่าพื้นฐานทักษะและความรู้ที่ต้องมี ได้แก่
1. มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์ สถิติ และพีชคณิต: โดยต้องการผู้ที่เรียนจบปริญยาในวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เช่น วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ หรือ Data Science
2. หากไม่มีวุฒิปริญญา แนะนำให้ลงเรียนคอร์สเฉพาะทาง: สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนสายนี้มา แต่อยากข้ามสายงาน สามารถไปลงเรียนคอร์สเพิ่มทักษะที่มีใบรับรอง เช่น Google (Google Career Certificates), Microsoft, IBM, Coursera โดยตัวอย่างวิชาเรียน ได้แก่ Google AI Essentials, หรือ Data Analytics ฯลฯ ทั้งนี้ แนะนำให้เลือกคอร์สที่เจาะลึกในสาขาย่อย เช่น Natural Language Processing (NLP), Image Processing ฯลฯ เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานในสายงานเฉพาะ
3. สร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มเติมด้วยพอร์ตงาน: แนะนำให้วัยทำงานฝึกทำโปรเจกต์จำลอง หรือรับงานฟรีแลนซ์เพื่อเพิ่มพอร์ตงาน จะเป็นการแสดงทักษะให้บริษัทเห็นผ่านผลงานจริง ไม่ใช่แค่ในเรซูเม่ และยังได้เงินไปพร้อมกับเรียนรู้
สำหรับช่องทางหางาน แนะนำให้ลองสมัครกับสตาร์ตอัปผ่านเว็บอย่าง Y Combinator ซึ่งเปิดรับงานรีโมตมากมาย การทำงานกับสตาร์ตอัปจะได้ฝึกทักษะรอบด้าน เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การสื่อสาร การแก้ปัญหา และความเป็นผู้นำ ซึ่งล้วนต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจของตัวเองได้ในอนาคต
โดยสรุปคือ เมื่อ AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็วในทุกอุตสาหกรรม การก้าวสู่สายอาชีพ AI - Machine Learning Specialist ไม่ใช่แค่เปิดประตูสู่โอกาสที่มั่นคงและมีรายได้ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นใบเบิกทางให้คุณกลายเป็นฟรีแลนซ์ระดับท็อป หรือแม้แต่ผู้ประกอบการในอนาคตได้เช่นกัน







