คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์

คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์

“กรุงเทพธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษกับ “จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน” กรรมการผู้จัดการ ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา และประธานกองประกวด “Miss Tiffany’s Universe” และ “Miss International Queen” ถึงที่มาที่ไปในการจัดการประกวด จนทุกคนยกให้เป็น “แม่ของกะเทย”

ในเดือนที่ทั่วโลกพร้อมใจกันโบกสะบัด ธงสีรุ้ง ฉลอง “Pride Month” การพูดถึงความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมก็ยิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในหลาย ๆ ด้าน และหากพูดถึงประเทศไทย คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา” รวมถึงเวทีประกวดระดับโลกอย่าง “Miss Tiffany’s Universe” และ “Miss International Queen” คือหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่สร้างพื้นที่และเป็นกระบอกเสียงอันแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทรานส์เจนเดอร์มาโดยตลอด

กรุงเทพธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษกับ “จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน” กรรมการผู้จัดการ ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา และประธานกองประกวด “Miss Tiffany’s Universe” และ “Miss International Queen” ถึงที่มาที่ไปในการจัดการประกวด จนทุกคนยกให้เป็น “แม่ของกะเทย”

Miss Tiffany’s Universe หรือที่รู้จักในชื่อ “Miss Tiffany” เริ่มจัดประกวดครั้งแรกในปี 1998 โดยจ๋าเล่าให้ฟังว่ามีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความเท่าเทียมและความเข้าใจในหมู่ทรานส์เจนเดอร์ หรือ “สาวประเภทสอง” 

“ตอนนั้นคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการเป็นทรานส์เจนเดอร์ เป็นเรื่องแปลกประหลาด ชีวิตของพวกเขายิ่งกว่านิยาย เวลาที่อยู่บนเวทีก็จะได้รับการปรบมือ แต่เมื่อไหร่ที่ลงจากเวทีกลับโดนดูถูก ใช้ชีวิตในพัทยาก็ยาก เราก็มองว่าจะทำยังไงให้นักแสดงมีความสุขมากขึ้น เลยจัดประกวด Miss Tiffany เพื่อการสร้างความเข้าใจและการยอมรับในกลุ่มทรานส์เจนเดอร์” จ๋ากล่าว

คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์

ในระยะแรกจะเน้นไปที่การสร้างความยอมรับ โดยเริ่มจากครอบครัวก่อน ช่วงนั้นนางงามเลยมักจะเล่าชีวิตของตัวเอง เพื่อให้คนทั่วไปตระหนักว่าคนเราไม่สมควรเกิดมาแล้วต้องเจออะไรแบบนี้ ต่อมาพอเข้าอยู่ในช่วงวัยมหาวิทยาลัยก็ยังเจอปัญหาไม่ถูกยอมรับ ไม่ให้แต่งตัวตามเพศสภาพ เขาเป็นผู้หญิงแล้วทำไมถึงยังให้แต่งตัวเป็นผู้ชายรับปริญญา ทางเวทีก็หันมาให้ความสำคัญในเรื่องนี้

หลังจากนั้น ก็หันมาต่อสู้เรื่องการทำงาน เพราะทุกคนมองว่าทรานส์เจนเดอร์ต้องมาทำงานที่ทิฟฟานี่ ทั้ง ๆ ที่หลายคนไม่ได้อยากมาทำงานแสดง และทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถรับได้ทั้งหมด การประกวดจึงหันมาทำเรียลลิตี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าทรานส์เจนเดอร์สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่ทุกคนคิด

“เมื่อก่อนเวลาจ๋าติดต่อกับคนต่างชาติ เขาบอกเลยว่าไม่รับทรานส์เจนเดอร์ทำงานบริการ เพราะไม่รู้ว่าลูกค้าจะรู้สึกอย่างไรกับคนกลุ่มนี้ บางทีก็มองว่าแต่งหน้ามากเกินไป เรารู้สึกว่าของแบบนี้มันฝึกกันได้ เรียนรู้ได้ ขนาดคนใกล้ตัวเรายังต้องแก้ความคิดเขาเลย แสดงว่านี่เรื่องใหญ่จริง ๆ ดังนั้นถ้าเราอยากให้ทุกคนสามารถอยู่ในสังคมที่ดีได้ เราก็ต้องสอนให้เขา” จ๋าอธิบาย

เพื่อให้ผู้เข้าประกวดมิสทิฟฟานี่มีองค์ความรู้รอบด้าน ทั้งบุคลิกภาพ ทัศนคติ ความเป็นตัวเอง และความเข้าใจในโลกยุคใหม่ ในการประกวด Miss Tiffany 2025 จึงได้จัดตั้ง Miss Tiffany Academy หลักสูตรการเรียนรู้แบบเข้มข้นหลายด้าน โดยเฉพาะด้านมารยาททางสังคม เช่น วิธีการพูด การสื่อสาร วิธีการใช้เสียง การแต่งหน้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ 

“เราได้ตัวแทนที่เป็นแอร์โฮสเตสได้ คนปัจจุบันได้เป็นครู ทำให้เรามีความภาคภูมิใจในชีวิตของทรานส์เจนเดอร์ในยุคปัจจุบันได้รับการยอมรับและมีโอกาสในเรื่องด้านอาชีพมากขึ้น” 

คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์ แอนดอย ปรียากร พรหรหม เจ้าของตำแหน่ง Miss Tiffany's Universe 2025

หลังจากที่ Miss Tiffany ประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้ชาวต่างชาติก็สนใจที่อยากจะสมัคร ก็เลยมาสู่เวที Miss International Queen ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทั่วโลกได้สมัครเข้ามา ขณะเดียวกันก็มีการขายลิขสิทธิ์ให้แต่ละประเทศด้วย จ๋ากล่าวว่าเป็นความภาคภูมิใจที่ช่วยให้ชีวิตของทรานส์เจนเดอร์หลายคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือ “ไอ ฮะรุนะ” หรือ “ไอจัง” ผู้ได้ตำแหน่ง Miss International Queen 2009

“ตอนนี้ไอจังกลายเป็นดาราดังที่ญี่ปุ่น เราดีใจแทนเขาที่ในวันนี้เขามีซีรีส์เล่าเรื่องประวัติของเขาเป็นของตัวเอง แล้วมีเวที Miss International Queen เข้าไปอยู่ในนั้นด้วย ที่จริงเราไม่ได้คาดหวังว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่พอมันสำเร็จเราก็ดีใจ และคิดว่าเวทีนี้น่าจะเปิดทางให้กับ LGBTQ+ หลายคน และเด็กที่เป็นทรานส์เจนเดอร์มีอะไรยึดเหนี่ยว

อย่างน้อยเวทีนี้ก็เป็นสังคมเล็ก ๆ ของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่เปิดรับมากนัก อย่างญี่ปุ่นที่เป็นสังคมที่เคร่งมาก เขาก็มีเพื่อนที่ตายไปด้วยกันได้ เพราะฉะนั้น Miss International Queen จึงเป็นเวทีที่ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับจ๋า ที่จะช่วยให้เกิดความเท่าเทียมในประเทศต่าง ๆ โดยผ่านตัวแทนของประเทศนั้น ๆ”

ปัจจุบัน Miss International Queen ขายลิขสิทธิ์ไปแล้ว 5 ประเทศ และยังมีผู้สนใจติดต่ออยู่เรื่อย ๆ แต่จ๋าไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งหากำไร และยอมว่าค่าลิขสิทธิ์ราคาสูง เพราะคิดว่าเวทีนี้เหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะเสียสละทำงานสังคม จ๋ายกตัวอย่างผู้ที่ถือลิขสิทธิ์ของสหรัฐที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์จัดหางานให้แก่ทรานส์เจนเดอร์ทั่วประเทศ เธอถือว่านี่เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จ “บางทีไม่ได้เงินไม่เป็นไร แต่ได้สิ่งดี ๆ กลับมาจากการที่เขาทำให้คนในประเทศ”

คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์ คาทาลินา มาร์ซาโน ตัวแทนจากเปรู เจ้าของตำแหน่ง Miss International Queen 2024

ในฐานะคนที่คลุกคลีกับกลุ่มทรานส์เจนเดอร์มาตั้งแต่เด็ก จ๋ามองว่าทุกคนเท่าเทียมกัน “เราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน มีความแตกต่างกันไป เราไม่ได้เป็นคนละพวก ที่จริง LGBTQ+ เราก็ไม่ได้อยากเรียก เพราะเราเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่ทุกคนควรต้องเข้าใจ ขนาดนิ้วเรายังไม่เท่ากันเลย” 

ดังนั้นการต่อสู้เรียกร้องสิทธิและการทำเวทีการประกวดทั้ง “Miss Tiffany’s Universe” และ “Miss International Queen” จึงต้องใช้เวลานานกว่าที่คนทั่วไปจะยอมรับ ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นเรื่องปรกติ ทำตามสามารถที่ตนเองมี ขณะเดียวกันก็สร้างความยอมรับไปพร้อม ๆ กัน อะไรที่ผิดก็ต้องแก้ไข อะไรที่สังคมรังเกียจก็ต้องเอาออก 

“บางครั้งมาเล่นประเด็นว่าฉันเป็น LGBTQ+ บางคนจะยิ่งไม่ให้เรา เขายิ่งไม่อยาก ไม่สนใจความสุขของเรา เขาจะสนใจแค่ว่า ‘เธออยากได้ความสุขมากเหรอ งั้นฉันไม่ให้ เพราะว่าเธอเรียกร้องเยอะเกินไป’ ซึ่งมันต่างจากวิธีที่จ๋าใช้ เราจะต้องไปสร้างผลงานสร้างการยอมรับไปด้วยกัน”

ในมุมมองของจ๋า เธอมองว่าปัจจุบันสังคมไทยยอมรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยเฉพาะยิ่งมี “สมรสเท่าเทียม” ทำให้คนเปิดใจมากขึ้น 

“เพื่อนจ๋าที่เป็น LGBTQ+ อยู่แล้วแต่เขาไม่ยอมบอกเราเลยจนกระทั่งมีสมรสเท่าเทียม เขามาบอกว่า ‘เออ ฉันบอกเธอได้แล้ว’ เพราะฉะนั้นก็หมายความว่าวิธีการให้นโยบายนี้มันทำให้คนมีความสุข รัฐบาลมีหน้าที่ให้คนมีความสุขด้วยนโยบาย ไม่ใช่แจกเงินการจ่ายเงินที่สร้างความสุขแบบประเดี๋ยวประด๋าว” จ๋ากล่าวทิ้งท้าย

คุยกับ ‘จ๋า อลิสา’ ผู้ก่อตั้ง ‘Miss Tiffany’s Universe’ เพื่อการยอมรับทรานส์เจนเดอร์