กฎ 5 นาทีของ Elon Musk สู่ความสำเร็จ วินัยสุดโหดบวกทักษะบริหารเวลา

กฎ 5 นาทีของ Elon Musk สู่ความสำเร็จ วินัยสุดโหดบวกทักษะบริหารเวลา

อีลอน มัสก์ ซีอีโอผู้ทำงานหนัก 100 ชั่วโมง/สัปดาห์ แต่ยังแบ่งเวลานอน ดูแลลูก และสังสรรค์ทางธุรกิจได้ เปิดสูตรความสำเร็จที่มาจากการบริหารเวลาอย่างเข้มงวด ด้วยกฎ 5 นาที

KEY

POINTS

  • เปิดสูตรความสำเร็จ Elon Musk ซีอีโอสุดบ้าระห่ำตัวพ่อ เขาใช้เทคนิคกฎ 5 นาที หรือ “time blocking” ในการทำงาน โดยแบ่งเวลาออกเป็นช่วงละ 5 นาที สำหรับทุกๆ งาน (ตอบอีเมล ประชุม คุยโปรเจกต์) เพื่อใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • มัสก์ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำที่ทำงานหนักมาก (100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) และแทบไม่มีวันหยุดตลอดทั้งสัปดาห์ และใช้เวลากับ Tesla, SpaceX และธุรกิจอื่นแบบสลับกันไปตามวัน
  • มัสก์ไม่เชื่อเรื่องการทำงานแบบ Remote work เขามองการทำงานจากบ้านเป็นเรื่อง “ผิดศีลธรรม” เพราะอาชีพอื่นๆ อย่างคนส่งอาหารหรือช่างไม่สามารถทำงานจากบ้านได้ จึงออกกฎให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศแบบเข้มงวด

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากวัยทำงานที่อยากประสบความสำเร็จ มักจะติดตามหรือเรียนรู้หลักการทำงาน แนวคิด หรือสไตล์การบริหารจากซีอีโอชื่อดังที่คว้าความสำเร็จได้ในระดับโลก โดยหนึ่งในซีอีโอที่บรรดาคนทำงานสายเทคฯ หรือคนสายงานอื่นๆ นิยมชมชอบไม่น้อยก็คือ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซึ่งต้องยอมรับว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูง มั่งคั่งร่ำรวย มีแนวคิดการทำงานที่น่าสนใจ-น่าถอดบทเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเขาเองมีวิธีทำงานบ้าระห่ำสุดโต่งที่ใครก็ยากจะเลียนแบบได้

โดยสิ่งที่ตอกย้ำความสุดโต่งของมหาเศรษฐีคนนี้ได้ชัดเจนก็คือ กิจวัตรประจำวันของเขาที่สะท้อนถึงวินัยสุดโหด การบริหารเวลาที่แม่นยำ และความคลั่งไคล้ในนวัตกรรม เขาแบ่งเวลาระหว่าง Tesla, SpaceX และ X (เดิมชื่อ Twitter) อย่างชาญฉลาด จุดเด่นคือ เขาใช้กฎ 5 นาที (จัดตารางงานเป็นช่วงละ 5 นาที) เพื่อให้ใช้เวลาคุ้มค่าที่สุด

กิจวัตรประจำวันของซีอีโออย่าง Elon Musk เป็นอย่างไร?

ชีวิตประจำวันของ อีลอน มัสก์ เต็มไปด้วยงาน งาน และงาน มื้ออาหารแบบเร็ว ๆ และการนอนน้อย ชีวิตการทำงานของเขาต้องการคำว่า "มีประสิทธิภาพและการตัดสินใจที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด" เสมอ! ดังนั้น การจะตอบโจทย์ดังกล่าวได้ จำเป็นที่จะต้องออกแบบและจัดการตารางงานให้คุ้มค่าทุกนาที โดยแต่ละวันของเขามีตารางงานคร่าวๆ ดังนี้ 

07.00 น. – ตื่นนอน: ตื่นเช้าเกือบทุกวัน มักไม่กินอาหารเช้า

07.30 น. – อาบน้ำ: เขาเคยบอกว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่สุดในตอนเช้า

08.00 น. – เริ่มทำงาน: เข้ามุ่งกับงานด้านวิศวกรรมและการออกแบบที่ Tesla, SpaceX หรือบริษัทอื่นของเขา

12.00 น. – ไม่เน้นกินกลางวัน: มักกินระหว่างประชุม หรือบางทีก็ไม่กินเลย

13.00 น. – กลับเข้าสู่โหมดทำงาน: บ่ายเต็มไปด้วยการรีวิวงานออกแบบ ประชุมด้านวิศวกรรม และวางแผนเชิงกลยุทธ์

20.00 น. – ดินเนอร์พร้อมคุยงาน: มักกินเยอะในมื้อเย็นและใช้เวลาในมื้ออาหารพูดคุยเรื่องธุรกิจ

22.00 น. – เวลากลับบ้านและอยู่กับครอบครัว: ใช้เวลากับลูก ๆ เท่าที่จะทำได้

23.00 น. – อ่านหนังสือ-ผ่อนคลาย: อ่านหนังสือก่อนนอนเป็นประจำ

01.00 น. – เข้านอน: พยายามนอนให้ได้ประมาณ 6 ชั่วโมง ก่อนเริ่มวันใหม่อีกครั้ง

กฎ 5 นาทีของ Elon Musk คืออะไร?

มัสก์ มีชื่อเสียงในเรื่องการบริหารเวลาที่เข้มงวดสุดขีด โดยใช้วิธีที่เรียกว่า “Time Blocking” หรือการแบ่งเวลาทำงานเป็นช่วงสั้นๆ เพียง 5 นาที และวางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอะไรในแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็นตอบอีเมล เข้าประชุม หรือวางแผนโปรเจกต์

ด้วยเทคนิคนี้ช่วยให้เขาทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และไม่เสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น ถ้าการประชุมไหนไม่มีประโยชน์ เขาก็พร้อมลุกออกทันทีแบบไม่ลังเล

ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว เขาทำงานประมาณ 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และบางช่วงอาจทำงานนานมากกว่านั้น เวลาในแต่ละสัปดาห์ของเขาถูกแบ่งไปดูแลธุรกิจหลายๆ บริษัท ระหว่าง Tesla, SpaceX, Neuralink และธุรกิจอื่นๆ ดังนี้

วันจันทร์และศุกร์: ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ SpaceX ในแคลิฟอร์เนียหรือเท็กซัส

วันอังคารถึงพฤหัสบดี: ทำงานที่สำนักงานใหญ่ Tesla

สุดสัปดาห์: สลับไปดูแลธุรกิจอื่นๆ รวมถึง X (เดิมคือ Twitter)

ซีอีโอที่ต้องดูแลหลายบริษัท มีวิธีโฟกัสงานอย่างไรไม่ให้หลุด?

มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla มีเคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่เขายึดถือเป็นประจำ ดังนี้ 

1. หลีกเลี่ยงประชุมยาว ๆ: ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่มีประโยชน์ เขาจะเดินออกเลย

2. ลดการใช้อีเมลและโทรศัพท์: ชอบการสื่อสารตรงไปตรงมามากกว่า

3.ใช้เทคนิค Time Blocking: วางแผนเวลาทำงานแต่ละ 5 นาทีให้ชัดเจน

4. โฟกัสที่การแก้ปัญหา: สำหรับงานที่เกี่ยวกับวิศวกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลัก

เห็นเขาทำงานหนักขนาดนี้ แต่เชื่อหรือไม่? เขายังสามารถแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย ดูแลลูกๆ และเข้าสังคมมทางธุรกิจ (ซึ่งจำเป็นต่อการทำธุรกิจของเขา) เป็นประจำ มีข้อมูลรายงานว่า ถึงแม้ มัสก์ จะไม่ได้เป็นสายฟิตเนสจ๋า แต่ เขาก็พยายามหาเวลาไปออกกำลังกายสัปดาห์ละหลายครั้ง เช่น ยกเวท วิ่ง และฝึกศิลปะการต่อสู้อย่าง Brazilian Jiu-Jitsu

ชีวิตส่วนตัวของเขาหมุนรอบการทำงานและครอบครัวเป็นหลัก โดยมีเวลาสังสรรค์ผ่านมื้อค่ำกับคนในวงการธุรกิจ บางครั้งก็เล่นวิดีโอเกม ดื่มวิสกี้ หรือโค้กสูตรไม่มีน้ำตาล แต่เวลาส่วนใหญ่ยังคงทุ่มให้กับงานอย่างหนัก

ตัวพ่อแห่งการทำงานหนัก เปิดวิธีทำงานที่คนทั่วไปยากจะเลียนแบบ

กิจวัตรของ Elon Musk ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยตารางชีวิตที่แน่นขนัด ความโฟกัสแบบไม่วอกแวก และวิธีคิดที่เน้นนวัตกรรม เหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จ แม้จะถูกตั้งคำถามเรื่องสมดุลชีวิต แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาทุ่มเททุกพลังเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของมนุษยชาติ

ครั้งหนึ่งมัสก์เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า เขาทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ เขานอนเพียงวันละ 6 ชั่วโมง และแทบไม่มีวันหยุด ในแต่ละปีเขาจะมีวันหยุดจริงๆ (ที่ไม่ได้ทำอะไรมีสาระเลย) เพียงแค่ 2-3 วันต่อปีเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเคยพูดตรงๆ ว่า เขาไม่ชอบไอเดียการทำงานทางไกล (Remote Work) เพราะมองว่า “ผิดศีลธรรม” ขนาดคนที่ทำอาหาร ส่งของ หรือช่างซ่อมบ้าน ฯลฯ ยังต้องไปทำงานข้างนอกทุกวัน แล้วทำไมพนักงานออฟฟิศถึงคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ทำงานจากบ้าน?

“มันไม่ยุติธรรมเลยที่คนบางกลุ่มต้องออกไปทำงาน แต่คุณกลับนั่งทำงานจากบ้านได้ ผมว่าไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพ แต่มันเป็นเรื่องศีลธรรมด้วย และบอกว่า พวกที่นั่งทำงานนั่งโต๊ะกับแล็ปท็อปอยู่ในโลกเพ้อฝัน” เขาย้ำ

จากแนวคิดการทำงานของเขาดังกล่าว เป็นที่มาให้เขาออกคำสั่งยกเลิกการทำงานทางไกลสำหรับพนักงานของ X และส่งอีเมลถึงพนักงานว่าต่อจากนี้ทุกคนต้องเข้าทำงานในออฟฟิศไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พร้อมตั้งเงื่อนไขว่า ใครไม่พร้อมทำงานหนักแบบเข้มข้นก็สามารถลาออกได้  ขณะที่ในสำนักงาน Tesla เอง เขาก็เคยออกคำสั่งคล้ายกัน โดยให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศแบบเต็มเวลา พร้อมทั้งเริ่มใช้ระบบติดตามพนักงานออฟฟิศด้วย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Elon Musk ไม่ใช่เจ้านายในฝันของลูกจ้างหลายคน (และวิธีทำงานของเขาอาจไม่เหมาะกับทุกคน) แต่หากมองในมุมผู้นำ-ผู้บริหารธุรกิจ เขาคือภาพแทนของการทำงานหนักสุดขั้ว ซึ่งเป็นเบื้องหลังของความสำเร็จระดับโลกที่เปลี่ยนโลกใบนี้ไปแล้วหลายครั้ง และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่หยุดง่ายๆ ในเร็ววันนี้

 

อ้างอิง: CEO Today, Dailymail