เชฟขนมหวาน อาชีพในฝันเด็กญี่ปุ่น แต่พ่อแม่อยากให้ลูกรับราชการ

อาชีพในฝันเด็กญี่ปุ่น Gen Alpha (วัย 6 ขวบ) อยากเป็น “เชฟทำขนมหวาน” แต่ ยูทูบเบอร์ เป็นอีกอาชีพที่กำลังมาแรงปีนี้ ขณะที่พ่อแม่ยังอยากให้ลูกเป็น “ข้าราชการ” มั่นคงกว่า
KEY
POINTS
- รายงานเผย “เชฟคนขนมหวาน” ครองอันดับ 1 อาชีพในฝันเด็กญี่ปุ่นวัย 6 ขวบ ส่วน “ยูทูบเบอร์” ติด Top 5 ของเด็กผู้ชาย สะท้อนอิทธิพลโลกออนไลน์ต่อความฝันเด็กยุคใหม่
- เด็กผู้หญิงยังชอบงานสายดูแลและบันเทิง ส่วนเด็กผู้ชายชอบอาชีพที่มีเครื่องแบบอย่างตำรวจ หรือนักกีฬา ขณะที่อาชีพแบบใหม่ในโลกออนไลน์ เริ่มเข้ามาแบ่งพื้นที่ความฝันของเด็กทั้งชายหญิง
- พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นเห็นต่างไป ยังมองว่าอาชีพ "ข้าราชการ" ยังเป็นอาชีพในฝันอันดับ 1 ที่พวกเขาอยากให้ลูกๆ เลือกทำ แสดงให้เห็นถึงความกังวลเรื่องความมั่นคงอนาคตลูกในโลกที่ไม่แน่นอน
ในวันที่ความฝันด้านอาชีพการงานไม่จำกัดแค่สายงานเดิมๆ เหมือนรุ่นพ่อแม่อีกต่อไป เพราะโลกการทำงานยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ล่าสุดมีผลสำรวจพบว่า อาชีพในฝันของเด็กญี่ปุ่นวัย 6 ขวบ (Gen Alpha) ที่มาแรงเป็นอันดับ 1 นั้น คือ “เชฟขนมหวาน”
ขณะเดียวกัน เด็กรุ่นใหม่เหล่านี้ก็เริ่มมองโลกออนไลน์เป็นเส้นทางอาชีพจริงจังได้อีกหนึ่งเส้นทาง แต่พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นยังอยากให้ลูกๆ ทำงานที่มั่นคงอย่าง “ข้าราชการ” ผลสำรวจปีล่าสุดเปิดเผยภาพความฝันที่หลากหลายของเด็กรุ่นถัดไป ที่ผู้ใหญ่ในโลกการทำงานควรจับตา
เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยผลสำรวจใหม่จากบริษัทเคมีภัณฑ์ Kuraray ในประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผยผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ประจำปีงบประมาณ 2025 เนื่องในวันเด็กแห่งชาติของญี่ปุ่น (5 พฤษภาคม) ซึ่งสำรวจจากเด็กนักเรียน Gen Alpha กลุ่มตัวอย่างกว่า 4,000 คน เพื่อค้นหาว่าอาชีพในฝันของพวกเขาคืออะไร
ผลสำรวจพบว่า Patisserie หรือ “เชฟขนมหวาน” ครองอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 11.7% ของเด็กทั้งหมด แม้ความนิยมในอาชีพนี้จะลดลงเหลือระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กผู้หญิงที่เคยนิยมอาชีพนี้มาตลอด ถัดมาอันดับ 2 คือ “ตำรวจ” (10.5%) และอันดับ 3 คือ “นักกีฬา” (8.5%) อย่างไรก็ตาม หากดูตามเพศก็จะเห็นความต่างที่ชัดเจน
เด็กผู้หญิงยังชอบงานสายหวาน ส่วนเด็กผู้ชายเริ่มสนใจยูทูบเบอร์
เมื่อเจาะลึงลงไปโดยแบ่งตามเพศพบว่า เด็กผู้หญิงยังคงอยากเป็นเชฟทำขนม ซึ่งสายอาชีพนี้ครองแชมป์ No.1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 26 แล้ว แต่ปีนี้มีเด็กผู้หญิงเพียง 20.2% เท่านั้นที่เลือกอาชีพนี้ ซึ่งนับว่าน้อยที่สุดตั้งแต่เริ่มสำรวจในปี 1999 ขณะที่อันดับ 2 คือ “คนดัง นักร้อง หรือ นางแบบ” (9.7%) และอันดับ 3 คือ “พี่เลี้ยงเด็ก” (6.4%)
ฝั่งเด็กผู้ชาย อาชีพ “ตำรวจ” และ “นักดับเพลิง” ขึ้นมาแซง “นักกีฬา” เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยกว่า 70% ของเด็กที่อยากเป็นนักกีฬานั้นเลือก “เบสบอล” หรือ “ฟุตบอล” ซึ่งเบสบอลกลับมาได้รับความนิยมมากที่สุดในรอบ 15 ปี (25.3%) ส่วนอีกหนึ่งอาชีพใหม่ที่มาแรงในปีนี้คือ “ยูทูบเบอร์” ซึ่งติดอันดับ 5 ของเด็กผู้ชายที่ 4.8% สะท้อนว่าโลกออนไลน์เริ่มมีอิทธิพลต่อความฝันของเด็กมากขึ้น
“ยูทูบเบอร์ได้กลายเป็นอาชีพในฝันของเด็กผู้ชายอย่างชัดเจน” ตัวแทนจาก Kuraray กล่าวกับ The Japan Times
พ่อแม่เห็นต่าง อยากให้ลูกๆ มีงานมั่นคงอย่างอาชีพข้าราชการ
ในการสำรวจครั้งนี้ยังถามความเห็นของผู้ปกครองด้วย โดยคำตอบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นอยากให้ลูกของตัวเองเป็น “ข้าราชการ” สำหรับทั้งเด็กชายและหญิง สะท้อนความคาดหวังในความมั่นคงทางอาชีพ
โดยในกลุ่มพ่อแม่ของเด็กชาย “ข้าราชการ” และ “พนักงานบริษัท” ยังครอง 2 อันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ส่วนฝั่งพ่อแม่ของเด็กหญิงนั้น “ข้าราชการ” ขึ้นมาแซง “พยาบาล” ซึ่งครองแชมป์มายาวนานถึง 27 ปี
ทั้งนี้ แนวโน้มทางอาชีพเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดแรงงานญี่ปุ่นยังตึงตัวต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า อัตราว่างงานเฉลี่ยในปีงบประมาณ 2024 อยู่ที่ 2.5% ลดลง 0.1 จุดจากปีก่อนหน้า ถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
จำนวนผู้มีงานทำในญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นถึง 370,000 คน รวมเป็น 67.93 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 1953 ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ว่างงานลดลง 30,000 คน เหลือ 1.75 ล้านคน
ตลาดงานญี่ปุ่น ต้องการแรงงานสายเทคฯ-การบริการอย่างมาก
กระทรวงแรงงานญี่ปุ่นระบุว่า อัตราส่วนตำแหน่งงานต่อผู้สมัครอยู่ที่ 1.25 หมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 125 ตำแหน่งต่อผู้สมัครงาน 100 คน โดยงานที่เปิดรับมากอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจโรงแรม/ร้านอาหาร
คิซุเกะ โยชิอิ (Kisuke Yoshii) นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Daiwa Institute of Research ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Kyodo ว่า แม้สัดส่วนตำแหน่งงานต่อผู้สมัครจะลดลงเล็กน้อยเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่อัตรานี้ยังอยู่เหนือ 1.00 แสดงว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัว
“ปัญหาขาดแคลนแรงงานยังไม่เปลี่ยนแปลง และสถานการณ์แบบนี้น่าจะยังคงอยู่ต่อไป” โยชิอิ บอกทิ้งท้าย
อ้างอิง: SCMP ,JapanTimes, Kyodonews







