Gen Z ตัวตึง ผู้นำยุคใหม่! กล้าถาม กล้าเปลี่ยน คือกุญแจความสำเร็จ

ผู้นำรุ่น Gen Z และมิลเลนเนียล กำลังนิยามภาวะผู้นำใหม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะเคล็ดลับความสำเร็จ ต้องกล้าถาม กล้าเปลี่ยน และกล้าสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญสุขภาพใจของทีม
KEY
POINTS
- ผู้นำรุ่นใหม่ยึดแนวทางเฉพาะตัว ไม่ยึดติดโมเดลเดิม ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ผู้นำ Gen Z และมิลเลนเนียล กำลังนิยามภาวะผู้นำใหม่ ที่เน้นความโปร่งใส เห็นอกเห็นใจ และปรับเปลี่ยนแนวทางเดิมๆ ที่ไม่ตอบโจทย์ยุคสมัย
- วัฒนธรรมการทำงานที่ดีคือหัวใจของการบริหารทีม ผู้นำรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะของทีม สร้างบรรยากาศที่มีความสุข และสมดุลชีวิต มากกว่าการยึดเป้าหมายเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว
- กล้าขอในสิ่งที่ต้องการ คือทักษะสำคัญของผู้นำยุคนี้ ทั้งผู้นำและคนทำงานควรกล้าแสดงออกถึงความต้องการอย่างชัดเจน เพราะความชัดเจนช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ และเปิดโอกาสใหม่ๆ ได้มากขึ้น
คำถามสุดฮิตในโลกการทำงานยุคนี้ คงหนีไม่พ้น 'อะไรคือคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ดี?' เมื่อฉากทัศน์การทำงานเปลี่ยนแปลงจากยุคก่อนอย่างสิ้นเชิง วิธีการบริหารทีมผู้นำองค์กรก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยเฉพาะยุคนี้วัยทำงานรุ่น Gen Y Gen Z กำลังก้าวขึ้นมาเป็น "ผู้นำ" เจนใหม่ในองค์กรต่างๆ มากขึ้น
หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของผู้นำยุคนี้ที่เห็นได้ชัดเจนผ่านสายตาของ "อแมนดา ลิทแมน" (Amanda Litman) ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำ ซึ่งร่วมก่อตั้งองค์กรการเมือง Run For Something มานานกว่า 8 ปี เผยว่า แนวทางการทำงานของผู้นำยุคใหม่ ไม่ยึดติดกับโมเดลเก่า
ทั้งนี้ Run For Something เป็นองค์กรที่คัดเลือกและสนับสนุนผู้สมัครการเมืองรุ่นใหม่หลากหลายเชื้อชาติที่ลงสมัครในระดับท้องถิ่น ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเวทีเล็ก แต่ลิทแมนมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ
เปิดค่านิยม "ผู้นำที่ดี" ของคนรุ่น Gen Y Gen Z ที่พวกเขาอยากเป็นให้ได้
ตลอด 8 ปีในบทบาทประธานองค์กร ลิทแมนในวัย 35 ปี เริ่มตระหนักได้ว่า การเป็นผู้นำที่ดีในสายตาของคนรุ่นเธอ คือ ต้องเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบต่อทีม ซึ่งถ้าอยากเป็นให้ได้แบบนั้น ก็จำเป็นต้องก้าวออกจากรูปแบบผู้นำแบบดั้งเดิมที่มักยึดติดกับแนวทางของ “ชายผิวขาวรุ่นเก่า” ที่ครองอำนาจมาหลายศตวรรษ
“คนรุ่นเรา อย่าง Millennials และ Gen Z มีความหลากหลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น ภาพของผู้นำยุคนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยไปด้วย” ลิทแมนกล่าว
ทั้งนี้ ลิทแมน ได้นำประสบการณ์ตรง รวมถึงบทสัมภาษณ์ของผู้นำรุ่นใหม่ที่เธอค้นคว้ามา ไม่ว่าจะเป็น "อีวาน สปีเกล" ซีอีโอของ Snap Inc., "อิลานา เกลเซอร์" นักแสดงและโปรดิวเซอร์สายฮา และ "เดวิด ฮ็อก" นักเคลื่อนไหวเพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน มารวมไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ “When We’re In Charge: The Next Generation’s Guide to Leadership” ที่ตีแผ่แนวคิดการเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน
“อยากได้อะไร ต้องกล้าขอ กล้าถาม” คือคำแนะนำ No.1 จากผู้เชี่ยวชาญ
“คุณไม่มีทางได้สิ่งที่คุณไม่กล้าขอ” ลิทแมนบอกว่านี่คือคำแนะนำที่ดีที่สุดที่เธอเคยได้รับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหนขององค์กร โดยเฉพาะตำแหน่ง "ผู้นำ" การสื่อสารความคาดหวังอย่างชัดเจนให้แก่ทีม คือหัวใจสำคัญ
“คุณมีหน้าที่ต้องบอกให้ทีมรู้ว่า คุณต้องการอะไร คาดหวังอะไร และทำอย่างไรให้พวกเขาทำงานได้ตรงเป้าหมายได้ง่ายที่สุด”
ในทางกลับกัน เธอก็แนะนำนักทำงานรุ่นใหม่ให้กล้าขอสิ่งที่อยากได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการขอคำปรึกษา ขอเวลานัดพูดคุย หรือขอไปกินกาแฟกับรุ่นพี่ที่คุณอยากเรียนรู้จากเขา
“อย่ากลัวที่จะขอ เพราะอย่างแย่ที่สุดก็คือเขาปฏิเสธ แต่ถ้าเกิดเขาตอบตกลงล่ะ? มันอาจเปิดประตูใหม่ ๆ ที่คุณไม่เคยคาดคิดก็ได้”
ผู้นำยุคใหม่ สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ใส่ใจผู้คนมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ ลิทแมน มองเห็นและชื่นชมในตัวผู้นำรุ่น Gen Z ก็คือ พวกเขาให้ความสำคัญกับ ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแท้จริง เธอย้ำว่า “ผู้นำรุ่นใหม่ที่ฉันได้มีโอกาสคุยด้วย พวกเขาต่างสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับ การคำนึงถึงสุขภาพจิตของทีมอย่างจริงจัง พวกเขาหาวิธีทำให้การทำงานมีความสุขมากขึ้น ซึ่งฉันว่าเป็นมุมมองที่สดใหม่มาก”
แม้ Gen Z มักถูกมองว่าเป็นแรงงานที่ ‘ขี้เกียจ’ หรือ ‘เอาแต่ใจ’ แต่ลิทแมนมองต่างออกไป เธอเชื่อว่า Gen Z แค่ต้องการสมดุลชีวิตและงานมากกว่ารุ่นก่อน เพราะพวกเขาเห็นมากับตาว่า ระบบงานแบบเดิมๆ หลอกลวง และเอาเปรียบพนักงานได้ขนาดไหน
บันไดอาชีพที่หลายคนคิดว่าจะไต่ขึ้นไปได้ มันพังทลายแล้วในโลกการทำงานยุคนี้ บริษัทใหญ่ๆ ก็ยังปลดคนออกเป็นว่าเล่น (ทั้งที่พนักงานไม่ได้ทำผิดอะไร) ด้วยเหตุปรับโครงสร้างองค์กรให้อยู่รอด แล้วจะให้พวกเขาทุ่มเทชีวิตทั้งหมดให้กับงานไปทำไม?
อ่านมาถึงตรงนี้ คำแนะนำสุดท้ายถึงผู้นำรุ่นใหม่จากปากผู้เชี่ยวชาญก็คือ อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนกติกาเดิม ลิทแมนแนะว่าผู้นำรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องทำตามทุกอย่างที่เคยมีมา “จงเรียนรู้จากของเดิม แล้วเลือกแค่สิ่งที่เวิร์กจริงๆ” อย่าคิดว่าทุกอย่างต้องเหมือนเมื่อวาน อนาคตอยู่ในมือคุณ คุณมีสิทธิ์ออกแบบมันใหม่ได้เสมอ” เธอกล่าวทิ้งท้าย
อ้างอิง: CNBC Make it, AmandaLitman







