ซีอีโอ AMD แชร์สูตรความสำเร็จ วิ่งเข้าใส่ปัญหายากๆ จะยิ่งเติบโต

Lisa Su ซีอีโอหญิงแกร่งแห่ง AMD แชร์เคล็ดลับที่เปลี่ยนชีวิตของเธอ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ คือ กล้าวิ่งใส่ปัญหาที่ยากๆ นั่นคือทางลัดสู่การเติบโต
KEY
POINTS
- ลุยปัญหาที่ยากที่สุด คือทางลัดสู่การเติบโต Lisa Su เล่าว่าคำแนะนำสำคัญที่สุดที่เธอเคยได้รับคือ “ให้วิ่งเข้าหาปัญหาที่ยากที่สุด” เพราะนั่นคือจุดที่เราจะได้เรียนรู้ สร้างความแตกต่าง และเติบโตทางอาชีพได้เร็วที่สุด
- เลือกงานที่ยาก แต่คุณต้องอยากทำมันด้วย อย่าเลือกเพราะอยากเท่ แต่ให้มองหาความท้าทายที่คุณสนใจจริงๆ เพราะนั่นจะช่วยดึงศักยภาพออกมา และทำให้คุณมีแรงสู้ระยะยาว
- ปัญหาใหญ่ต้องแก้ด้วยทีมที่แข็งแกร่ง Lisa Su เชื่อว่าการร่วมมือกับคนเก่งรอบตัวคือกุญแจสำคัญ เพราะ “ไม่มีใครผูกขาดไอเดียดีๆ ได้คนเดียว” การทำงานร่วมกับคนที่มุมมองหลากหลายคือสิ่งที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง
อ้างอิง: CNBC Make it, Advanced Micro Devices Inc
นาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ลิซ่า ซู" (Lisa Su) ซีอีโอของ Advanced Micro Devices (AMD) เป็นผู้บริหารหญิงมือทองที่ได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมบริษัทผู้ผลิตชิปที่ในอดีตเคยเจอทางตัน ให้กลายเป็นบริษัทที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ที่มีมูลค่าสูงถึง 190,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อพาบริษัทไปรอด เธอเองก็เติบโตในสายอาชีพตามไปด้วย และส่งผลให้เธอเป็นผู้นำองค์กรอีกคนในสายงานเทคฯ ที่ร่ำรวยมั่งคั่ง โดยมีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีถนนแห่งความสำเร็จสายไหนที่จะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ การพา AMD พลิกฟื้นสู่การทำกำไรได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน แต่ ซู ก็เลือกที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและงานยากๆ อย่างเต็มที่
‘วิ่งเข้าหาปัญหาที่ยากที่สุด’ คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ ซู เคยได้รับมาและอยากบอกต่อ!
ล่าสุด.. เธอได้มีโอกาสกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ เกี่ยวกับคำแนะนำด้านอาชีพ การทำงาน และการพัฒนาตนเอง ในพิธีจบการศึกษาที่ Rensselaer Polytechnic Institute เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า
“คำแนะนำด้านอาชีพที่ดีที่สุดที่ฉันเคยได้รับคือ ‘ให้วิ่งเข้าหาปัญหาที่ยากที่สุด’ เพราะตรงนั้นแหละคือที่ที่คุณจะเจอโอกาสใหญ่ที่สุด ได้เรียนรู้มากที่สุด แสดงความสามารถได้โดดเด่นที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือ ได้เติบโตมากที่สุด”
โดยคำแนะนำนี้มาจาก จอห์น เคลลี (John Kelly) ผู้บริหารระดับสูงของ IBM ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจเข้าร่วม AMD
เธอบอกอีกว่า “ตอนที่ฉันเข้าร่วมงานกับ AMD มันชัดเจนเลยว่า ที่ผ่านมาบริษัทมีผลงานแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่ฉันมองเห็นศักยภาพ เห็นผู้คน เห็นวิสัยทัศน์ และเห็นโอกาสในการช่วยขับเคลื่อนบริษัทที่มีความหมาย… มันคือ ‘งานในฝัน’ ของฉันจริงๆ”
งานยากๆ จะช่วยท้าทายความคิด ไอเดีย และความมุ่งมั่นของวัยทำงาน
ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็ก ซู และครอบครัวของเธอ อพยพจากไต้หวันมายังสหรัฐฯ ตอนเธออายุเพียง 3 ขวบ เธอเป็นลูกสาวของนักบัญชีและนักคณิตศาสตร์ จบมัธยมจากโรงเรียน Bronx High School of Science ในปี 1986 ก่อนจะเข้าเรียนต่อที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอกในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
ก่อนมาร่วมงานกับ AMD ในเดือนธันวาคมปี 2014 ซูเคยทำงานที่ Texas Instruments, IBM และ Freescale ตามข้อมูลในโปรไฟล์ LinkedIn ของเธอ
เธอบอกว่า การเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยากที่สุดนั้น คุ้มค่า! เพราะการก้าวข้ามผ่านมันไปได้ คือสิ่งที่ “ให้รางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
“ปัญหาที่ยากจะผลักดันคุณ มันท้าทายให้คุณต้องมีสมาธิ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความมุ่งมั่น… มันจะสร้างความมั่นใจให้คุณ พาคุณเติบโต และทำให้คุณเกิดผลกระทบที่จับต้องได้ เมื่อคุณเลือกที่จะรับมือกับปัญหาที่ยากที่สุด นั่นแหละคือเส้นทางที่เร็วที่สุดในการเติบโต และเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลง”
องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมแห่งการแก้ปัญหายากๆ ร่วมกันเป็นทีม
ซู คาดหวังวัฒนธรรมการทำงานแบบเดียวกันนี้จากพนักงานของเธอด้วย โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time เมื่อเดือนธันวาคมว่า เธอมักตั้งความคาดหวังกับทีมงานในระดับสูงมาก ผู้บริหารของ AMD รวมถึงตัวเธอเอง มักจะตรวจบันทึกการประชุมหลังเที่ยงคืน และเข้าร่วมประชุมในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม เธอย้ำว่า คำแนะนำนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณควรเลือกทำอะไรยากๆ เพียงเพราะมัน “ดูท้าทาย” เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือ.. การมองหาโอกาสที่จะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ท้าทาย และเป็นสิ่งที่คุณสนใจจริงๆ รวมถึงสามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกได้
เธออธิบายว่า การได้ทำงานที่คุณรู้สึกสนุก อยากเรียนรู้ และอยากทำให้ดีที่สุด จะเป็นแรงผลักดันให้คุณมุ่งมั่น และนำไปสู่ความสุขในระยะยาว มากกว่าการเลือกเรียนหรือทำงานในสายที่ยากหรือมีชื่อเสียงเพียงเพราะมันดูดีในเรซูเม่
ความใฝ่รู้ที่หยุดไม่อยู่แบบนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้นำระดับโลกอย่าง Bill Gates หรือ Dara Khosrowshahi ซีอีโอของ Uber สร้างความแตกต่างและก้าวหน้าในสายอาชีพของพวกเขา
นอกจากนี้ ผู้บริหาร AMD ยังแนะนำให้มองหา “ความท้าทายที่ต้องทำงานร่วมกับคนที่มีแนวคิดคล้ายกัน” เพราะนั่นจะเปิดโอกาสให้คุณเรียนรู้จากมุมมองของผู้อื่น และขยายเครือข่ายการทำงานไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“คุณไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่ๆ ได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีใครเป็นเจ้าของความคิดดีๆ เพียงคนเดียว ปัญหาที่ยุ่งยากในยุคนี้ซับซ้อนเกินกว่าจะให้ใครคนเดียวจัดการได้ มันต้องอาศัย ‘ทีมเวิร์ก’ และการร่วมมือกันจริงๆ” เธอย้ำทิ้งท้าย
เพราะความก้าวหน้าอันมีความหมายจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อผู้คนที่มีประสบการณ์ ทักษะ และมุมมองต่างกัน มาทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาจริงๆ
อ้างอิง: CNBC Make it, Advanced Micro Devices Inc







